ศุลกากรคลองใหญ่เผยการค้าชายแดนหาดเล็กยังคึกคัก เข้าออกวันละ100-130 คัน แต่ยุ่งยากเพิ่มขึ้น,ส่วนมาตรการฝั่งไทยต้องรอเย็นวันนี้ตัดไฟฟ้า ตัดเน็ตหรือไม่,คนขับรถยนต์ขนส่งรับจ้างรายได้หายเดือนละหมื่น
อ.คลองใหญ่ จ.ตราด/จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ทำให้ฝ่ายความมั่นคงทั้งสองประเทศได้งัดมาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจระหว่สงกัน โดยไทยประกาศลดเวลาเข้าออกของด่านจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่านแดนในแต่ละจังหวัด ขณะกัมพูชาตอบโต้ด้วยการเปิดด่านช้ากว่าฝั่งไทย และปิดด่านในบางพื้นที่เช่นกัน
ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด วันนี้(14 มิถุนายน 2568) ซึ่งครบ 7 วันแล้วที่ฝั่งจังหวัดตราดได้ประกาศลดเวลาปิดเปิดด่าน จาก 06.00-22.00 น.มาเป็น 08.00-16.00 น.ของทุกวัน และฝั่งจ.เกาะกง กัมพูชาได้ตอบโต้ด้วยการเปิดด่านช้ากว่า 1 ชม.และวันนี้ทั้งสองประเทศมีการประชุม JBC ที่กรุงพนมเปญ เพื่อเจรจาแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย
อย่างไรก็ตาม การค้าขายระหว่าง 2 ประเทศยังสามารถค้าขายได้ตามปกติ แต่มีเงื่อนไขที่ยุ่งยากมากขึ้น ในการตรวจสินค้าและรถยนต์ที่บรรทุกเข้ามาในฝั่งกัมพูชา และการรอคอยเวลาด่านกัมพูชาเปิดทำให้รถยนต์บรรทุกสินค้าทั้งขนาดใหญ่และเล็กต้องเสียเวบารอคอย และจอดรอทำให้มีความยาวเกือบ 1 กม.ซึ่งจะเป็นช่วงที่พีคที่สุดในช่วงวันอัง-พฤหัสบดี
นายวิโรจน์ วัติรางกูร หัวหน้าชุดด่านศุลกากรคลองใหญ่ เปิดเผยว่า การค้าขายยังเป็นไปตามปกติ แม้ขั้นตอนจะยุ่งยากเพิ่มขึ้นจากการรอการเปิดด้านทั้งสองประเทศ ซึ่งในแต่บะวันจะมีรถบรรทุกออกไปยังฝั่งกัมพูชาจำนวนกว่า 120 คัน/วัน มากที่สุดประมาณ 130 คัน ซึ่งเฉลี่ยแล้วจะมีวันละ 70 คัน โดยเมื่อวานนี้มีรถยนต์บรรทุกสินค้าเข้าไปยังฝั่งกัมพูชาจำนวน 133 คัน และกลับมาจำนวน 120 คัน ที่เหลืออยู่ในกัมพูชา เพราะด่านปิดก่อน อย่างไรก็ตาม มาตรการกดดันต่างๆจากฝั่งไทยจะมีติดตามมา ทั้งในเรื่องการตัดไฟฟ้าหรือการตัดอินเตอร์เน็ตต้องมติในช่วงเย็นนี้ ซึ่งจะมีการประชุมJBCระหว่าง 2 ประเทศจะได้ข้อสรุปอย่างไร ส่วนที่จังหวัดจันทบุรี ซึ่งฝั่งกัมพูชาสั่งปิดด่านบ้านแหลมนั้น ได้มีการเจรจากันระหว่าง 2 ฝ่ายแล้ว ปรากฏว่า ได้ยกเลิกการปิดแล้ว
ด้านนายประวุฒิ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ประกอบการค้าชายแดนด้านจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กคนหนึ่ง กล่าวว่า สถานการณ์ความขัดแย้งทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ซึ่งอาจจะเกิดปัญกาเพิ่มขึ้น เช่นกรณีที่ด่านบ้านแหลมฝั่งกัมพูชาได้สั่งปิดเพื่อตอบโต้ไทย และไม่ให้สินค้าด้านเกษตรเข้าไปในกัมพูชา และเมื่อเจรจากันก็กลับมาสู่ปกติแล้ว แต่หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น น่าจะมีมาตรฐานที่เข้มงวดเพิ่มขึ้น รวมทั้งผู้ประกอบการขนส่งสินค้าที่เคยส่งสินค้าที่ด่านฯบ้านแหลมอาจจะย้ายมามาที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กได้ ซึ่งจะเกิดปัญหาเรื่องความแออัดของจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กได้
ขณะนายพยอม อัฐติมา คนขับรถยนต์บรรทุกรับจ้าง จากจ.บุรีรัมย์ที่นำมาสินค้ามาส่งในกัมพูชา เปิดเผยว่า หลังจากทั้งสองประเทศเกิดความขัดแย้งกันและยังใช้มาตรการกดดันระหว่างกัน ทำให้บริษัทขนส่งสินค้าได้รับผลกระทบในเรื่องรายได้ โดยเฉพาะตนเองจากที่ได้รับเงินเดือนๆละ 20,000 บาท แต่ปัจจุบันเหลือ 1 หมื่นบ้าน เพราะรายได้บริษัทลดลง และขนส่งสินค้าได้ไม่กี่เที่ยว รายได้จึงลด ซึ่งรายได้เท่านี้ไม่เพียงพอต่อการครองชีพในแต่ละวัน หากยังยืดเยื้อต่อไปรายได้อาจจะลดลงมากกว่านี้ ……