‘บิ๊กต่าย-บิ๊กจวบ’ เร่งฟื้นศรัทธา ปชช. ติดตามผลงานตำรวจชุมชนสัมพันธ์ ผงะพบเด็กน้อยมีสารเสพติดตั้งแต่แรกเกิด เข้าช่วยเหลือทันที - สร้างถนนชีวิตให้

“ตำรวจยุคนี้ ไม่ใช่แค่ผู้บังคับใช้กฎหมาย แต่เป็นพลังของชุมชน เป็นความหวังของคนตัวเล็กในพื้นที่ห่างไกล — และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในเชียงคำ พะเยา” ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ที่ปรึกษาคณะทำงานฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ที่ปรึกษาคณะทำงานติดตามผลงานตำรวจชุมชนสัมพันธ์ฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและยุทธศาสตร์ชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. (ด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม) และหัวหน้าคณะทำงานตรวจติดตามผลการดำเนินงานด้านงานชุมชนสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นประธานในการตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินการตาม “โครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในระดับสถานีตำรวจ (Stronger Together)” ณ สถานีตำรวจภูธรเชียงคำ จังหวัดพะเยา ภายใต้การกำกับของตำรวจภูธรภาค 5

“ภายใต้นโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และการขับเคลื่อนอย่างจริงจังของ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานตรวจติดตามงานชุมชนสัมพันธ์ ตำรวจไม่ได้เป็นเพียงผู้บังคับใช้กฎหมาย หากแต่กลายเป็นพลังร่วมของสังคม ที่เชื่อมโยงกับประชาชนด้วยความเข้าใจและเมตตา กรณีถนนชำรุดในพื้นที่ตำบลฝอยกวาง และการช่วยเหลือเด็กจากครอบครัวที่มีปัญหายาเสพติดในตำบลเจดีย์คำ คือหลักฐานที่ชัดเจนว่า ตำรวจไทยในยุคนี้ กำลังยืนอยู่เคียงข้างประชาชนอย่างแท้จริง นี่คือภาพลักษณ์ใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่กำลังฟื้นคืนศรัทธาของสังคม ด้วยจิตวิญญาณตำรวจในการดูแลประชาชน” ที่ปรึกษาคณะทำงาน กล่าว

เรื่องจริงที่สะเทือนใจที่เปลี่ยนชีวิตผู้คน ถนนชีวิต ที่ตำรวจเป็นผู้เปิดทาง เพราะ ตำรวจไม่ได้บอกว่า “ไม่ใช่หน้าที่” — แต่บอกว่า “เราจะช่วย” 

ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ที่ปรึกษา คณะทำงานฯ กล่าวต่อว่า ที่ตำบลฝอยกวาง เชียงคำ พะเยา ถนนสายหนึ่งเต็มไปด้วยหลุมบ่อ อุบัติเหตุเกิดซ้ำซาก มีคนเจ็บจนถึงขั้นเสียชีวิต ความเดือดร้อนนี้อาจกลายเป็นเพียงเสียงสะท้อนอันเงียบงัน หากไม่ใช่เพราะเครือข่ายชุมชนที่ได้รับการอบรมจากโครงการ Stronger Together ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งข้อมูลเข้ามายังกลุ่มไลน์ของตำรวจชุมชนสัมพันธ์ ตำรวจไม่ได้บอกว่า “ไม่ใช่หน้าที่” — แต่บอกว่า “เราจะช่วย” เจ้าหน้าที่ตำรวจกลายเป็น “คนกลางของประชาคม” ประสานผู้ใหญ่บ้าน สจ. นายกเทศมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดเวทีหารือ จนนำไปสู่การของบประมาณจาก อบจ.พะเยา และแก้ไขถนนจนแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน วันนี้ ถนนเส้นนั้นเป็น “ถนนแห่งศรัทธา” ที่ประชาชน 34 หมู่บ้านใช้เดินทางด้วยความปลอดภัย และความภาคภูมิใจว่าตำรวจไทย...เข้าใจและอยู่เคียงข้างพวกเขา

เด็กน้อยในบ้านยาเสพติดกับภารกิจชีวิตตำรวจ

ที่ปรึกษา คณะทำงานฯ ยังเล่าให้ฟังอีกด้วยว่า มีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ยังทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจทุกครั้งที่เล่า คือกรณีของเด็กหญิงคนหนึ่งในตำบลเจดีย์คำ ที่เกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่ติดยาเสพติดหนัก และยังลักลอบค้ายารายย่อย

ภาพจากกลุ่มไลน์เครือข่ายที่เราตั้งขึ้น — พ่อกำลังสูบกัญชา เด็กนอนทำการบ้านอยู่ข้างๆ — ทำให้เราไม่สามารถนิ่งเฉยได้ สารวัตรดอน หัวหน้าชุดตำรวจชุมชนสัมพันธ์ พร้อมด้วย รองสารวัตรจำเนียร ภายใต้ดูแลของ ผู้กำกับถนัด ชุ่มมะโน ลงพื้นที่ด้วยตนเอง ตรวจปัสสาวะ พบสารเสพติดในทั้งพ่อแม่ และที่น่าตกใจคือ — เด็กหญิงคนเล็ก มีสารเสพติดในร่างกายตั้งแต่เกิด เราไม่เพียงจับกุมผู้ปกครอง แต่ประชุมร่วมกับสหวิชาชีพ พม. เทศบาล อบต. และฝ่ายปกครอง เพื่อวางแผนคุ้มครองเด็กทันที เด็กได้รับการส่งต่อให้ญาติดูแลอย่างใกล้ชิด โดยมีตำรวจชุมชนสัมพันธ์ติดตามสวัสดิภาพอย่างต่อเนื่อง

“แม้พ่อแม่ติดยาเสพติด เด็กก็จะไม่ถูกทอดทิ้งให้เติบโตในบ้านที่มีควันยาเสพติดและความสิ้นหวัง — นี่คือคำมั่นจาก พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและหัวหน้าคณะทำงานฯ ที่ทีมของเราเชื่อมั่นเสมอ” ที่ปรึกษาคณะทำงานฯ กล่าว

ดร.นพดล  กล่าวต่อว่า แม้วันนี้ ท่าน รอง ผบ.ตร. กลับออกมาจากพื้นที่แล้ว ตำรวจชุดชุมชนสัมพันธ์ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.ถนัด ชุ่มมะโน ผกก.เชียงคำ พ.ต.ท.ยงยุทธ กุลธร รอง ผกก. พ.ต.ท.ดอน ธิวงศ์ สวป. และ ร.ต.อ.จำเนียร มาไกล รอง สว. (ป) สภ.เชียงคำ พะเยา ยังคงลงพื้นที่ติดตามทุกกรณีอย่างต่อเนื่อง

เปลี่ยนภาพจำของประชาชน: ตำรวจคือ "ผู้ดูแลประชาชนให้ปลอดภัย"

ดร.นพดลฯ กล่าวต่อว่า ผมสนับสนุนให้ประชาชนทุกคนได้รู้ว่า วันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติในยุค พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ไม่ได้มุ่งเพียงแค่การบังคับใช้กฎหมายให้เข้มข้นขึ้น — แต่ให้ความสำคัญยิ่งกับ “การคืนความศรัทธาให้สังคม” ผ่านการมีส่วนร่วมกับประชาชนอย่างลึกซึ้ง โครงการ Stronger Together ที่ พล.ต.อ.ประจวบ วงศสุขริเริ่มตั้งแต่ปี 2562 จนวันนี้มีเครือข่ายภาคประชาชนกว่า 591,921 คนทั่วประเทศ กลายเป็น “รากแก้วของศรัทธา” ที่หยั่งลึกลงในชุมชนทั่วประเทศ

บทส่งท้ายจากใจที่ปรึกษาฯ “ประชาชนจะรักตำรวจ ไม่ใช่เพราะตำรวจมีเครื่องแบบ — แต่เพราะตำรวจมีหัวใจผู้ดูแลประชาชน” ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเดินหน้าต่อไปด้วยหัวใจของความเป็นตำรวจผู้ดูแลประชาชน ด้วยพลังของเครือข่ายภาคประชาสังคมและด้วยความเชื่อมั่นว่า ความสงบสุขของสังคมไทย...ไม่อาจสร้างได้ด้วยความกลัวต่อการบังคับใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสร้างด้วยความเข้าใจ และร่วมมือกันทุกภาคส่วน