วันที่ 13 มิ.ย.68 ที่ สภ.บางใหญ่ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี น.ส.ปฏิมากร หรือน้ำหวาน อายุ 18 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ หลังจากเมื่อวันที่ 12 พ.ค.2568 ได้นำรถ จยย.ยี่ห้อ เวสป้าS125 สีเทา ทะเบียนนครราชสีมา ไปค้ำประกันเพื่อกู้ยืมเงินกับ นาย กิติพงศ์ ผู้ไหม อาสากู้ภัยมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง จำนวน 15,000 บาท โดยถูกนายกิติพงศ์ หักเงินเป็นค่าดำเนินการไป 2,000 บาท สุดท้ายได้เงินเพียง 13,000 บาท นัดคืนเงินไม่เกินวันที่ 31 พ.ค.68 แต่เมื่อครบกำหนดวันที่จะต้องคืนเงิน ได้พยายามติดต่อนายกิติพงศ์ เพื่อคืนเงินที่ยืมมาและขอรถคืน แต่ทางนายกิติพงษ์ บ่ายเบี่ยงมาตลอด จนมาทราบว่านายกิติพงษ์ได้นำรถจยย.ของตนไปจำนำต่อกับคนที่ชื่อซัน (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล) และบอกให้ตัวเองติดต่อขอคืนรถกับนายซันเอง พยายามติดต่อไปหานายซันก็ไม่สามารถติดต่อได้ พอติดต่อกลับไปที่นายกิติพงษ์ ก็ไม่สามารถติดต่อเช่นกันแถมโดนบล็อคอีก จึงพยายามโทรไปสอบถามที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง ทางมูลนิธิฯก็บอกว่านายกิติพงษ์ได้ลาออกไปแล้วไม่รู้ว่าเขาช่วยปกป้องกันรึเปล่า ตอนนี้กังวลใจว่ารถจยย.จะไปอยู่ที่ชายแดนหรือถูกแยกเป็นอะไหล่ขายไปแล้ว
น.ส.น้ำหวาน เล่าว่า เมื่อช่วงวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนต้องการใช้เงินด่วนจึงได้เข้าไปหาในเพจกู้ยืมเงินในกลุ่มเฟซบุ๊ค ก็ไปเจอกับนายกิติพงษ์ ในกลุ่มให้กู้เงินและรับจำนำรถ จึงได้ติดต่อไป โดยได้ตกลงจะกู้ยืมเงินจำนวน 15,000 บาท ซึ่งทางนายกิติพงษ์ บอกกับตนว่าจำนวนเงินค่อนข้างเยอะต้องมีของมาค้ำประกัน ตนจึงเอารถจยย.ของตนที่ซื้อโดยใช้ชื่อพ่อมาเป็นหลักค้ำประกัน หลังจากที่ได้พูดคุยกันก็ทราบว่าแฟนของนายกิติพงษ์เป็นคนบ้านเดียวกับตนและรู้จักกันเพราะแฟนของนายกิติพงษ์ ก็ทำกู้ภัยเช่นกัน ต่อมานายกิติพงษ์ ก็ได้โอนเงินมาให้ตนจำนวน 13,000 บาท เพราะหักค่าเอกสารและค่าดำเนินการไปจำนวน 2,000 บาท โดยนัดคืนเงินต้นและดอกเบี้ยจำนวน 18,000 บาท ก่อนวันที่ 31 พ.ค.68 หลังจากโอนเงินให้ตนเสร็จนายกิติพงษ์ ได้เข้าไปหาตนที่หอพักที่จอดอยู่ที่หอพักของพี่สาวย่านบางใหญ่ เพื่อที่จะมาเอารถจยย.เวสป้ามาค้ำประกันตามที่ตกลงกัน ตนจึงได้ให้กุญแจรถสำรองไป โดยที่นายกิติพงษ์ได้บอกกับตนว่าจะนำรถจยย.ไปเก็บไว้เฉยๆ ไม่ได้นำไปใช้งาน แต่ไม่สามารถบอกที่อยู่ของสถานที่เก็บรถได้
น.ส.น้ำหวาน เล่าอีกว่า ช่วงสิ้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาตนได้พยายามติดต่อนายกิตติพงษ์เพื่อคืนเงินจำนวน 18,000 บาท ที่ยืมมา แต่ทางด้านนายกิติพงษ์ ก็พยายามยามบ่ายเบี่ยงมาตลอด ที่ผ่านมาตนยอมให้เขามาเอารถไปเพราะไว้ใจ เนื่องจากว่าตนรู้จักกับแฟนของนายกิติพงษ์ และนายกิติพงษ์ ก็เคยบอกตนว่าเขาเป็นอาสามูลนิธิกู้ภัยปอเต็กตึ๊งจึงเชื่อใจ จนล่าสุดมารู้ว่านายกิติพงษ์ ได้นำรถ จยย.ของตนไปจำนำต่อกับคนที่ชื่อซันและไม่ทราบด้วยว่าเอาไปจำนำเท่าไร พยายามพูดคุยขอรถคืนมาตลอด ทางด้านนายกิติพงษ์ก็ได้ให้เบอร์คนชื่อซันมาและบอกให้ตนติดต่อดับนายซันเอง แต่พอโทรไปแล้วก็โทรไม่ติด เคยอ้อนวอนนายกิติพงษ์ ว่าตนเตรียมเงินที่ยืมมาพร้อมดอกเบี้ยไว้พร้อมแล้ว หากนำรถมาคืนก็พร้อมคืนเงินทันทีเนื่องจากรถคันนี้ตนซื้อมาในชื่อของพ่อและยังผ่อนค่างวดไม่หมด แต่นายกิติพงษ์ กลับบอกกับตนว่าระหว่างที่ยังตามรถกลับมาไม่ได้จะขอผ่อนชำระค่างวดรถเดือนละสองพันกว่าบาทให้เองแต่ตนไม่ได้ตกลงด้วย ซึ่งในเวลาต่อมาก็มีผู้เสียหายที่โดนนายกิติพงษ์หลอกในลักษณะเดียวกันถึง 5 คน ติดต่อมาหาตนและบอกว่า นายกิติพงษ์ พูดเหมือนกันเลยว่าจะขอผ่อนค่างวดรถให้จนกว่าจะตามรถได้ มีพี่คนนึงเล่าให้ตนฟังว่าเขาเอารถ จยย.Honda CBR ไปจำนำกับนายกิติพงษ์ไว้แค่ 6,000บาท แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รถคืนและนายกิติพงษ์ก็บอกจะขอผ่อนค่างวดรถให้เหมือนกัน ผู้เสียหายทุกคนถูกนายกิติพงษ์เอารถไปหมดและเอาไปจำนำต่อกับคนที่ชื่อซัน
ล่าสุดตนไม่สามารถติดต่อนายกิติพงษ์ได้แล้ว พยายามติดต่อกับทุกคน ทั้งแฟนของนายกิติพงษ์ก็บอกไม่รู้เรื่อง ทั้งโทรไปที่มูลนิธิกู้ภัยปอเต็กตึ๊งก็บอกว่านายกิติพงษ์ได้ลาออกไปแล้ว โดนบล็อคหมดทุกอย่าง ตอนนี้ค่อนข้างกังวลกับรถมากไม่รู้ว่าตอนนี้รถไปอยู่ที่ชายแดนหรือถูกชำแหละเป็นอะไหล่แล้วรึยัง ก็อยากฝากไปถึงนายกิติพงษ์ว่า ตอนนี้ตนเตรียมเงินที่ยืมมาไว้ให้แล้วก็อยากให้นำรถมาคืนหรือถ้าติดต่อกับนายซันได้ ก็อยากให้ช่วยไปเอารถมาคืนตน ตนยินดีจะคืนเงินในส่วนที่ตกลงกันไว้ 18,000 บาทให้ แต่หากว่านายกิติพงษ์เอารถไปจำนำกับนายซันในราคาที่สูงกว่านี้เขาก็ต้องรับผิดชอบส่วนต่างเอง จะไปกู้ยืมใครมาก่อนก็ได้ แต่ส่วนของตนที่ตกลงกันไว้ก็พร้อมคืนให้ ตอนนี้ตนเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และทางผู้เสียหายคนอื่นๆ เขาก็เริ่มทนไม่ไหวกับพฤติกรรมแบบนี้ เขาเริ่มรวมตัวกันเพื่อที่จะออกตามหาตัวนายกิติพงษ์กันแล้ว วอนพี่ๆเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ อย่าช่วยหรือปกป้องคนทำผิดหลังจากนี้ตนก็จะเข้าไปตามที่ศูนย์มูลนิธิอาสากู้ภัยปอเต็งตึ๊งที่นายกิติพงษ์สังกัดอยู่