“รักชนก-สหัสวัต” ยื่น ป.ป.ช.สอบ “สุชาติ” ซื้อตึก SKYY9 เร่งดําเนินการ เหตุอยู่ในช่วงปรับ ครม. ถาม'อิ๊งค์'อยากมีรมต.ค้างสอบทุจริตในครม.หลายคนเหรอ??
ป.ป.ช. วันนี้ (13 มิ.ย.) น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชนเดินทางไปยื่นเรื่องต่อสํานักงาน ป.ป.ช. กรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ปล่อยให้เกิดการซื้อตึก SKYY9 หรือ สกายไนน์ ด้วยเงินกองทุนประกันสังคม โดยมีราคาแพงเกินจริงถึง 2 เท่า รวมถึงกรณีงบประมาณการจัดทําปฏิทินประกันสังคม การศึกษาดูงานต่างประเทศ และการนํารถของสํานักงานประกันสังคมไปบริจาคแก่วัด
นายสหัสวัต กล่าวว่า การซื้อตึกสกายไนน์ที่มีผู้ประเมินโดยการประเมินของผู้เชี่ยวชาญที่ไม่เกี่ยวข้องกับประกันสังคม มีความผิดปกติ เราก็ติดตามเรื่องนี้มาตลอด วันนี้จึงมายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบนายสุชาติ ถึงการทุจริตในกรณีนี้ รวมถึงองคาพยพอื่นๆ อาทิ ปลัดกระทรวงแรงงานคนปัจจุบัน ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงาน ประกันสังคม ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ประกันตนจำนวนมาก เพราะเงินถูกนำไปใช้อย่างไม่สมเหตุสมผล จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะดำเนินการอย่างเต็มที่
นายสหัสวัต กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคล แต่เป็นผลประโยชน์ของประเทศชาติ และตนขอถามนายกรัฐมนตรีว่าต้องการคนแบบนี้ให้เป็นรัฐมนตรีต่อไปหรือ เพราะมีทั้งคดีการค้ามนุษย์และคดีทุจริต อยู่ในชั้น ป.ป.ช. จะเก็บคนแบบนี้ไว้เป็นรัฐมนตรีหรือ และประชาชนก็จับตาว่าโผ ครม.จะไปในทิศทางใด เชื่อว่าไม่มีประชาชนคนใดสบายใจ
ด้าน น.ส.รักชนก กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราไม่ได้ออกมาเพื่อโจมตีใคร แต่เราอยากรักษาผลประโยชน์ของผู้ประกันตน ซึ่งล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีดังกล่าว และผล
ออกมาเป็นที่ประจักษ์แล้วว่ามีมูลจริง และนายอนุทินก็ส่งหนังสือผลสอบไปให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานแล้ว ว่ามีการซื้อแพงเกินจริง ดังนั้น ตนหวังว่านายพิพัฒน์ จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว โดยไม่รออะไรอีกเลย หากพบข้อเท็จจริงว่าใครเป็นคนผิด ก็ให้ลากคอมาลงโทษ ซึ่งบุคคลหลักคือนายสุชาติ
น.ส.รักชนก กล่าวว่า หากนายสุชาติจะปฏิเสธว่าเป็นรัฐมนตรีแล้วไม่รู้เรื่องการทุจริตในสํานักงานประกันสังคมหรือไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการติดสินใจลงทุนได้ ก็ขอให้ไปชี้แจงกับ ป.ป.ช.เอาเอง ไม่ต้องมาชี้แจงกับพวกเรา และขอตั้งคำถามว่า ถ้าประเทศไทยมีรัฐมนตรีที่บอกว่าไม่สามารถเข้าไปบริหารกระทรวง หรือหน่วยงานระดับกรม ยังอยากจะมีรัฐมนตรีแบบนี้อยู่หรือไม่ และนายสุชาติก็ยังได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อยากให้ประชาชนช่วยแสดงความคิดเห็นหรือติดแฮชแท็ก ส่งไปถึงนายกรัฐมนตรี
น.ส.รักชนก กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงการปรับคณะรัฐมนตรี และมีคนร้อนรน ทําทุกอย่างเพื่อขยับขึ้นจากรัฐมนตรีช่วยเป็นรัฐมนตรีว่าการ ตนจึงขอเสียบมีดอันใหญ่ไว้เล่มหนึ่ง เพราะกลุ่มของนายสุชาติเคยให้เหตุผลว่านายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่มีคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีเพราะมีเรื่องอยู่ระหว่างการตรวจสอบในชั้น ป.ป.ช. และขณะนี้นายสุชาติก็กำลังจะมีเรื่องค้างอยู่ใน ป.ป.ช. แล้ว ดังนั้น ตนขอถามไปยังนายกรัฐมนตรี ว่าในการปรับ ครม.ครั้งนี้ อยากให้มีรัฐมนตรีที่มีเรื่องค้างอยู่ใน ป.ป.ช.อยู่หลายคนหรือไม่ ขอให้ท่านตัดสินใจเอง
น.ส.รักชนก กล่าวว่า ขอให้ประชาชนร่วมกันแสดงความเห็น ประเมินเอาเองว่าพึงพอใจหรือไม่ ในการบริหารกระทรวงแรงงานของนายสุชาติในอดีตที่ดูแลสำนักงานประกันสังคมจนเน่าเฟะไปถึงราก จับไปตรงไหนก็ส่อเอื้อประโยชน์และทุจริต
น.ส.รักชนก กล่าวอีกว่า ขอให้ ป.ป.ช.เป็นองค์กรทำหน้าที่ตรวจสอบ อย่าให้คนครหาว่าทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ทํางานเชื่องช้าในบางกรณี ขอให้เร่งรัดการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว รวมถึงเรื่องที่ยื่นไปก่อนหน้านี้ เพราะเรื่องนี้จะมีผลในการปรับ ครม.และผลประโยชน์ของประเทศ
“ขอฝากไปถึงรัฐบาลและนายพิพัฒน์ว่า เป็นรัฐบาลมา 2 ปีกว่าแล้ว ก็ยังทำเรื่องต่างๆ ที่สัญญากับพี่น้องแรงงานไว้ไม่ได้ โดยเฉพาะค่าแรง 400 บาท หากจะมีเรื่องที่ทําสำเร็จสักเรื่องเพื่อเยียวยาจิตใจของผู้ใช้แรงงาน หรือผู้ประกันตนจำนวน 24 ล้านคน การลากคอคนที่ทำพฤติกรรมส่อทุจริต หรือคนตักตวงผลประโยชน์มาลงโทษ จะช่วยเยียวยาการทำนโยบายไม่สำเร็จของนายพิพัฒน์ได้บ้าง เพื่อให้มีผลงานเป็นรูปธรรมจับต้องได้บ้าง” น.ส.รักชนก กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีนายอนุทิน แต่งตั้งนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ บุตรชายของนายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง จะทำให้การตรวจสอบเรื่องนี้เป็นมวยล้มต้มคนดูหรือไม่ นายสหัสวัต กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดเช่นนั้น แต่หากผลสอบออกมาว่าไม่มีการเอาผิดใครได้เลย ก็สามารถพูดได้เช่นนั้น แต่หากนำผู้ที่เกี่ยว ข้องมารับผิดได้จริงก็เป็นการทำงานที่ควรจะเป็น และเป็นบรรทัดฐานให้กับทุกกระทรวง
ด้าน น.ส.รักชนก กล่าวเสริมว่า จะปฏิเสธว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการ เมืองก็ไม่ได้ เพราะหากพรรคภูมิใจไทยไม่ตีกับพรรคเพื่อไทย เรื่องก็คงไม่ดำเนินการเร็วเช่นนี้ แต่ในเมื่อผลสอบออกมาเร็ว และเป็นอย่างที่ควรเป็น ตนก็อยากให้นายอนุทินและนายพิพัฒน์ดำเนินการตรงไปตรงมา ขอให้ท่านตัดสินใจโดยยึดผลประโยชน์สาธารณะจริงๆ สักครั้ง ตนจะนับถือในฐานะรัฐมนตรี ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในสายตาประชาชน
เมื่อถามว่า มองว่าตึกสกายไนน์ ถูกใช้เป็นตัวประกันในเกมการเมืองหรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า พรรค ปชน.ทำงานตามหน้าที่ และสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ไม่ว่าเกมการ เมืองจะเป็นยังไง เราก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเรื่องนี้มานานแล้ว ส่วนจะเป็นตัวประกันหรือไม่ การเมืองประเทศนี้อาจจะเน่ากว่าที่ท่านเข้าใจ แต่เราก็พยายามเพิ่มน้ำใสเข้าไป