ถนนคูหาประเวศน์ กลางเมืองสตูล ใกล้ทางขึ้นเขาโต๊ะพญาวัง ยังมี "กลิ่นอายของวันวาน" จากเตาถ่านลอยคลุ้งในยามบ่าย นำพาความหอมของขนมไทยโบราณที่เรียกว่า “ขนมครกสิงคโปร์” ขนมหาทานยากที่หลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อ
ผู้สืบทอดสูตรเก่าแก่นี้คือ นางพรพิมล ปะลาวัลย์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “น้ำฝน” หญิงวัย 47 ปี ผู้ยึดสูตรต้นตำรับของครอบครัวมายาวนานกว่า 3 รุ่น ด้วยใจรักในขนมไทยโบราณ และความตั้งใจรักษารสมือของยายเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัส
“ขนมครกสิงคโปร์” สูตรโบราณของแม่ค้านั้น ใช้วัตถุดิบเรียบง่ายแต่ต้องพิถีพิถัน ตั้งแต่แป้งหมี่ ไข่ไก่ น้ำใบเตย น้ำกะทิสด ผสมกันในอัตราส่วนพอดี ก่อนนำมาหยอดลงแม่พิมพ์เหล็ก ที่ตั้งบนเตาถ่านร้อนพอดี ด้วยการใช้ ก้านกล้วย ชุบน้ำมันทาให้ขนมไม่ติดแม่พิมพ์ กลิ่นหอมจากใบเตยและไฟถ่าน ทำให้หอมยวนใจตั้งแต่ยังไม่สุก
ต่างจากขนมครกทั่วไป “ขนมครกสิงคโปร์” จะไม่ผสมน้ำตาลในแป้ง เพื่อให้เนื้อขนมนุ่มไม่ไหม้ แล้วค่อยเติมน้ำตาลทรายขาวด้านบนตอนหยอดเสร็จ ช่วยให้หวานพอดี ไม่เลี่ยน ไม่ติดแม่พิมพ์ และหอมละมุนตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย
เมื่อขนมสุกดี แม่ค้าจะประกบเป็นคู่ ๆ แล้วบรรจุกล่องขาย กล่องละ 6 คู่ ราคาเพียง 20 บาท ลูกค้าหลายคนเป็น “รุ่นคุณยาย” ที่เคยกินตั้งแต่รุ่นยายของน้ำฝน บางคนพาลูกหลานมาด้วย บ้างก็แวะมาขอทำคอนเทนต์ ถ่ายคลิป หยอดขนม ลองทำกันอย่างสนุกสนาน
คุณน้ำฝนเล่าว่า “ขายมาสิบกว่าปีแล้ว ส่วนใหญ่ทำช่วงบ่ายหลังขายข้าวแกงตอนเช้า เดือนรอมฎอนจะทำวันละ 2-3 กิโลกรัม ได้ประมาณ 25-30 กล่องต่อวัน บางวันยังไม่ถึงห้าโมงก็หมดแล้ว”
ร้านเปิดขายทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 14.00 – 17.00 น. ส่วนตอนเช้าเปิดขายข้าวแกง ชา กาแฟ ตั้งแต่ 07.00 น. ไปจนถึงบ่าย
เสียงจากลูกค้ารุ่นใหม่อย่าง “นายอนัญลักษณ์ สุขเสนา” บอกว่า “แปลกดีครับ ข้างนอกก็นุ่ม ข้างในก็หอมหวาน ไม่เหมือนขนมครกทั่วไป แถมบอกระดับความหวานที่อยากได้ได้ด้วย ลองหยอดเองก็สนุกครับ”
นางสาวสุธิรา พูลทอง ลูกค้าสาวจาก ททท.สำนักงานสตูล กล่าวเสริมว่า “กลิ่นหอมใบเตยเตะจมูกเลยค่ะ ขนมหายากแบบนี้ พอรู้ว่าเป็นเตาถ่านแท้ ๆ ก็รีบมาต่อคิวเลย ได้กลิ่นหอม ได้บรรยากาศไทยโบราณเต็ม ๆ”
สนใจสั่งขนมเบรก ขนมโบราณจัดเลี้ยง หรือแค่อยากชิมของอร่อยจากอดีต ติดต่อ “แม่ค้าน้ำฝน” ได้ที่ โทร: 082-6106733
ขนมครกสิงคโปร์ หรือขนมจูโจะชารา ขนมโบราณพื้นเมืองสตูล เป็นขนมไทยที่ได้รับอิทธิพลจากขนมของชาวมุสลิมในแถบหมู่เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีชื่อเรียกว่า "ชาราบี" (Serabi)
ขนมครกสิงคโปร์ แม้จะมีชื่อว่า "สิงคโปร์" แต่ขนมชนิดนี้ไม่ได้มาจากประเทศสิงคโปร์โดยตรง คนสตูลเรียกว่า ขนมจูโจะชารา (จูเจาะชารา) เป็นขนมโบราณพื้นเมืองของจังหวัดสตูล ที่ขนมมีรสชาติ หวานมัน หอม อร่อย กินตอนร้อนๆ พึ่งยกจากเตาจะได้รสชาติความหวานมัน และน้ำตาลที่ยังละลายไม่หมด หอมกลิ่นใบเตย ซึ่งเป็นขนมที่หาทานได้ยากในปัจจุบัน และยังคงเป็นที่นิยมของคนท้องถิ่นที่สืบทอดการทำขนมนี้มาจากบรรพบุรุษมายาวนาน