ถึงแม้ว่าจะมีข้อมูลของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติบางกลุ่มที่ยังเดินทางเข้ามาในไทยไม่เต็มที่ แต่กลับไม่เป็นอุปสรรต่อการตัดสินใจในการลงทุนกับธุรกิจโรงแรมของผู้ระกอบการด้านนี้ที่ยังเชื่อมั่นศักยภาพของประเทศที่ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เฉกเช่น นายจอห์น ลิม ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แมเนอร์ กรุ๊ป   กลุ่มบริษัทสิงคโปร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ได้สะท้อนแผนการตลาด และแนวทางในการดำเนินงานได้อย่างน่าสนใจ

แรงบันดาลใจในการลงทุน

โดยนายจอห์น ลิม ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แมเนอร์ กรุ๊ป (Manor Group) กลุ่มบริษัทสิงคโปร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กล่าวถึงชื่อ MANOR มีรากศัพท์จากภาษาลาติน ‘manere’ ซึ่งหมายถึงการพักและการคงอยู่ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบจนผู้มาเยือนอยากกลับมาอีกครั้ง  

ซึ่งแรงบันดาลใจในการลงทุนธุรกิจโรงแรมมาจากประวัติครอบครัวที่เป็นพ่อค้าและทำด้านการกุศลในจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกเชียงใหม่เป็นจุดเริ่มต้นนั้นมาจากประสบการณ์การเป็นจิตอาสาและทำงานด้านการกุศลในเชียงใหม่เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ทำให้มองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ ด้วยการเข้าไปรีแบรนด์ AKIRA MANOR เป็น AMANOR ในเดือนเมษายน ปี 2568 ที่เกิดขึ้นจากความรู้และความเข้าใจที่มากขึ้นในการบริหารจัดการโรงแรมหลังจากการร่วมเป็นพันธมิตรกับนายยานน์ กูริยู ซีอีโอของยูนิคอร์น ฮอสพิทาลิตี้ ในปี 2561 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมการบริการ

ขยายแบรนด์ AMANOR 10 แห่ง

ทั้งนี้ นายจอห์น  กล่าวว่า ในปัจจุบัน Manor Group มีโรงแรมในเครือ 5 แห่ง ได้แก่  AMANOR Hotel Chiang Mai, Shimaya Stays Kyoto, The Edison George Town Penang , AMANOR Stay, Singapore อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยจะเปิดในปี 2028  เช่นเดียวกับ AMANOR Hotel Jozankei, Sapporo ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ และจะเปิดในปี 2028 ซึ่งทั้งหมดนี้มีหัวใจสำคัญของความสำเร็จคือ People Business หรือคนและพนักงานนั้นเอง

สำหรับผลประกอบการโดยรวมของ Manor Group ในปีนี้มีการเติบโตที่ 14% ซึ่งสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 12% และคาดการณ์ว่า EBITDA จะอยู่ที่ 35% ในปี 2025 โรงแรม AMANOR Chiang Mai ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยรายได้ 100-120 ล้านบาท และ EBITDA สูงถึง 38% ซึ่งนำไปสู่การเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนและส่งต่อการบริหารจัดการโรงแรมให้กับยูนิคอร์น ฮอสพิทาลิตี้

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจนั้น นายจอห์น กล่าวว่า  แมเนอร์ กรุ๊ปมีแผนที่จะขยายแบรนด์ AMANOR อีก 10 แห่งภายใน 5 ปีข้างหน้า โดย 3-4 แห่งจะอยู่ในทำเลเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศไทย เช่น กรุงเทพฯ (สุขุมวิท), เชียงใหม่ (นิมมานเหมินท์), ขนอม (นครศรีธรรมราช), ระยอง หรือกาญจนบุรี ส่วนอีก 3-4 แห่งจะอยู่ในญี่ปุ่น เช่น เกียวโต, โตเกียว, โอซากา และซัปโปโร ซึ่งเลือกซัปโปโรเนื่องจากต้นทุนที่ถูกกว่าและมีศักยภาพในการเติบโตที่ดี และอีก 2 แห่งจะอยู่ในเวียดนามและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีจุดแข็งและความแตกต่างของแบรนด์ AMANOR ที่ยึดหลัก 5P: Purpose, Perception, Personality, Position, Promotion ซึ่งผสมผสานการออกแบบอันร่วมสมัย บริการแบบใส่ใจ และความเชื่อมโยงกับท้องถิ่น โดยเน้นกลุ่มลูกค้าไลฟ์สไตล์ระดับหรูจากตลาดสหรัฐ จีน เกาหลี ไต้หวัน สิงคโปร์ และมาเลเซีย เป็นต้น

ทั้งนี้ นายจอห์น กล่าวว่า  ประเทศไทยยังคงเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว  โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวรวมที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับโรงแรม AMANOR เชียงใหม่ อัตราการเข้าพักในช่วงโลว์ซีซั่นอยู่ที่ 62% ซึ่งถือว่าน่าพอใจ และช่วงไฮซีซั่น อยู่ที่ 85%