บั้งไฟแสน พุ่งลอยข้ามแม่น้ำชีตกใส่หลังคาอาคารโรงเรียน-บ้านเรือนของชาวบ้านยโสธร จนเสียหาย และพบอีกหลายสิบบั้งไปตกตามริมถนนและบริเวณรอบๆ หมู่บ้านแต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต 

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 มิ.ย.68  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีบั้งไฟแสน ขนาดท่อ 6 นิ้ว ยาว 4 เมตร จำนวน 1 บั้ง ตกใส่หลังคาอาคารเรียนของโรงเรียนบ้านคุยตับเต่า ตำบลขุมเงิน อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร จนได้รับความเสียหายไปบางส่วนแต่โชคดีเป็นเวลาเช้านักเรียนยังเดินทางมาไม่ถึงโรงเรียนจึงไม่ใครได้รับอันตรายนอกจากมีกลุ่มควันจำนวนมากลอยปกคลุมไปทั่วบริเวณโรงเรียน จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันก็มีบั้งไฟแสนขนาดท่อ 6 นิ้ว ยาว 4 เมตร ตกใส่สายไฟฟ้าแรงสูงก่อนจะตกลงไปข้างบ้านของชาวบ้านอีก 2 บั้ง ที่บ้านดอนแก้ว ตำบลเขื่องคำ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร จนสร้างความแตกตื่นตกใจกลัวให้กับเจ้าของบ้านและชาวบ้านซึ่งได้ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับนานหลายชั่วโมงแต่ยังโชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายใดๆ ทั้งนี้ คาดว่าจะเป็นบั้งไฟ จากงานประเพณีบุญบั้งประจำปี 2568 ของอำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกันกับอำเภอเมืองยโสธรโดยจะอยู่คนละฝั่งของแม่น้ำชี

นางนงลักษณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เล่าว่า ในช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 9 นาฬิกา ขณะนั้นตนนั่งอยู่บริเวณกระท่อมหลังบ้านแล้วได้ยินเสียงดังตุ๊บบริเวณข้างบ้านจึงเดินไปดูตามเสียงก่อนพบว่ามีบั้งไฟแสนตกลงมาโดยบั้งไฟดังกล่าวได้ตกใส่สายไฟฟ้าแรงสูงหน้าบ้านพักแล้วกระเด็นตกลงมาข้างบ้านของตนจนมีกลุ่มควันฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ

นอกจากนี้แล้วก็ยังมีบั้งไฟแสนอีกหลายบั้งที่ลอยข้ามแม่น้ำชีมาตกลงตามริมถนนและตามป่ารอบๆหมู่บ้านที่บ้านคุยตับเต่า ตำบลขุมเงิน อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร

เนื่องจากบริเวณหมู่บ้านดังกล่าวเป็นจุดตกของบั้งไฟ ซึ่งฐานจุดห่างจากหมู่บ้านแห่งนี้เพียง 4 กิโลเมตรเท่านั้น ทุกปีก็จะมีบั้งไฟไปตกลงภายในหมู่บ้านเป็นประจำทุกปีโดยตลอดทั้งวันก็มีการจุดบั้งไฟตั้งแต่เวลาประมาณ 7 โมงเช้าไปจนกระทั่งค่ำเพราะมีบั้งไฟที่เข้าร่วมจุดในปีนี้ ทั้งบั้งไฟล้าน,บั้งไฟแสนและบั้งไฟหมื่น รวมจำนวนกว่า 1,000 บั้ง