วันที่ 11 มิถุนายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล พร้อมด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน และประชาชนกว่า 200 คน เดินทางมาเพื่อให้กำลังใจแพทยสภาในการประชุมวันที่ 12 มิถุนายน ที่มีการพิจารณากรณีที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา มีความเห็นยับยั้ง (วีโต้) มติแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ในการลงโทษแพทย์ 3 คน จากโรงพยาบาล (รพ.) ราชทัณฑ์ และ รพ.ตำรวจ ซึ่งนายสมศักดิ์จะเข้าร่วมประชุมในวันพรุ่งนี้ด้วย

 โดยเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้ยื่นหนังสือเพื่อเป็นกำลังใจแพทยสภา โดยมีข้อความระบุว่า..
 ​ตามที่แพทยสภาได้มีมติลงโทษแพทย์จำนวน 3 ท่าน  ในกรณีที่มีความเกี่ยวข้องกับการรักษาตัวนอกเรือนจำของนายทักษิณ ชินวัตร อันเนื่องมาจากการให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับอาการป่วย

​กรณีการรักษาตัวนอกเรือนจำของ ทักษิณ ชินวัตร ตลอด 180 วัน ที่ผ่านมา  สร้างประเด็นความขัดแย้งในสังคมถึงมาตรฐานการควบคุมและบังคับโทษผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์  และทำลายกระบวนการยุติธรรมที่เป็นเสาหลักของประเทศไทยที่จะบังคับให้บุคคลย่อมเสมอภาคกันในบทบัญญัติของกฎหมาย ซึ่งยึดถือเสาหลักของระบบนิติรัฐ สร้างนิติธรรมให้เกิดขึ้นในประเทศให้ได้

​การบังคับโทษการที่ร่วมกันทำข้อมูลที่ไม่ตรงตามอาการป่วยจริงของเจ้าหน้าที่วงการแพทย์  เป็นการทำลายความเชื่อมั่นในจรรยาบรรณทางการแพทย์ ที่ต้องมีจรรยาบรรณเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาชีวิตคน การผิดจรรยาบรรณของแพทย์บางคนไม่ใช่แค่ทำผิดเฉพาะบุคคลเท่านั้น ในกรณีนี้ส่งผลกระทบในวงกว้างถึงขบวนการที่ร่วมมือกันอย่างเป็นระบบในการทำลายความถูกต้องของประเทศไปด้วย เนื่องจากผู้ต้องขังในขณะนั้นต้องคดีทุจริตคอร์รัปชัน อันเป็นคดีที่ทำลายประเทศไทย และเคยหลบหนีคดีมาแล้วกว่า 17 ปี ทั้งเมื่อกลับมารับโทษแล้วยังถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ว่าสำนึกผิด ยอมรับผิด นำมาสู่พระเมตตาในการอภัยลดโทษให้เหลือจำคุกเด็ดขาด 1 ปี แต่กลับมีคณะบุคคลได้ร่วมกันไม่นำตัวผู้ต้องขังบังคับโทษให้อยู่ในเรือนจำ นำมาสู่การสวบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสิทธิมนุยชนแห่งชาติ (กสม.) การยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษของประชาชนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตห่งชาติ (ป.ป.ช.) จนนำมาสู่การมีมติรับเรื่องไว้พิจารณาและดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงผู้เกี่ยวข้อง 12 คน และการยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในการบริหารโทษไม่เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล

​มติแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ที่สั่งลงโทษแพทย์ที่เกี่ยวข้อง 3 ท่านจึงเป็นเหมือนมติที่เปิดความจริง รักษาความถูกต้องของประเทศ บ่งบอกถึงต้นเหตุแห่งเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดี เนื่องจากประชาชนทั้งประเทศมีความสงสัยว่า นายทักษิณ ชินวัตร ป่วยวิกฤตจริงหรือไม่ และป่วยวิกฤตจริงตลอด 180 วันที่อยู่โรงพยาบาลตำรวจหรือไม่ และป่วยวิกฤตจริงจนนำมาสู่การพักโทษเป็นกรณีพิเศษหรือไม่

​เราขอส่งกำลัง แรงสนับสนุนจากประชาชนผู้รักความยุติธรรม รักความเป็นธรรม ให้คณะกรรมการแพทยสภา ได้ผดุงรักษากระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย และได้ผดุงรักษาจรรยาบรรณของแพทย์ ไม่ให้เพียงแพทย์ไม่กี่คนมาทำลายเกียรติภูมิของแพทย์ทั้งประเทศ ด้วยการยืนยันมติแพทยสภาเดิมในมติเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ในการประชุมของกรรมการแพทยสภาในวันที่ 12 มิถุนายน 2568 นี้ ด้วยเสียงมติของกรรมการแพทยสภาให้เป็นเอกฉันท์อย่างมากที่สุด

​ถึงแม้ฝ่ายการเมืองที่นำโดยนายสมศักดิ์  เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะพยายามเปลี่ยนความจริงและเข้ามาแทรกแซงในการจะเข้าประชุมกรรมการแพทยสภาด้วยในวันที่ 12 มิถุนายน 2568 นี้ ด้วยก็ตาม

​มติของคณะกรรมการแพทยสภาที่จะมีในวันที่ 12 มิถุนายน 2568 ไม่ใช่แค่การผดุงความถูกต้อง แต่จะเป็นการรักษาประเทศไทยให้อยู่ในหลักนิติรัฐนิติธรรม ไปด้วยเช่นกัน