ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB รวบรถแฝดลอบขูดลบเลขตัวถัง ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม ใช้คู่มือจดทะเบียนปลอม
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง(บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ช่วยราชการ บก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม, พ.ต.อ.เอกนิรุจฒ์ วันสิริภักดิ์ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว รอง ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.ธนาคาร จันทร์กระจ่าง รรท.รอง ผกก.7 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก สวญ.ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล. (พังงา, กระบี่, ภูเก็ต) ร่วมกันจับกุม น.ส.พรทิพย์ฯ อายุ 51 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ใช้เอกสารราชการปลอม”
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1. รถยนต์ สีขาว จำนวน 1 คัน
2. แผ่นป้ายทะเบียน (ปลอม) จำนวน 2 แผ่น
3. สำเนารายการจดทะเบียนระบุข้อมูลรถยนต์ (ปลอม) จำนวน 1 แผ่น
4. หนังสือมอบอำนาจสำหรับโอนกรรมสิทธิ์รถ (ปลอม) จำนวน 1 ฉบับ
5. สำเนาบัตรประชาชน (ปลอม) จำนวน 1 ฉบับ
6. สมุดคู่มือรายการจดทะเบียนรถยนต์ (ปลอม) จำนวน 1 เล่ม
7. เครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจำนวน 1 แผ่น
สถานที่จับกุม บนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 กม.25-26 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่า มีรถต้องสงสัยว่าเป็นรถสวมทะเบียนกำลังวิ่งอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ จึงได้วางแผนออกตรวจสอบ พบรถยนต์ต้องสงสัยกำลังวิ่งอยู่จึงได้สั่งให้หยุดรถเพื่อขอตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับตัวรถ พบมี น.ส.พรทิพย์ฯ อายุ 51 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว จากการตรวจสอบข้อมูลแผ่นป้ายทะเบียน เชื่อว่าเป็นแผ่นป้ายที่ทำปลอมขึ้น ตรวจสอบหมายเลขตัวถังพบว่า มีร่องรอยการขูดลบและตอกเลขใหม่ หมายเลขเครื่องยนต์ไม่ตรงกับที่ระบุในข้อมูลของ กรมการขนส่งทางบก จากนั้นผู้ต้องหาได้นำเอกสารของกลางรายการที่ 3-7 มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดจับกุม อ้างว่า ได้ซื้อรถยนต์ต่อมาจากเจ้าของเดิมซึ่งได้ทำหนังสือมอบอำนาจพร้อมมอบสำเนาบัตรประชาชนไว้ให้สำหรับโอนกรรมสิทธิ์รถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจุดจับกุมได้ตรวจสอบข้อมูลสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนดังกล่าว พบว่าเป็นสำเนาบัตรปลอม จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ติดต่อไปยังบุคคลที่มีชื่อในเอกสารดังกล่าวได้รับยืนยันว่า เป็นเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียนเดียวกับที่ผู้ต้องหาใช้อยู่ ซึ่งเป็นรถยนต์ยี่ห้อ รุ่น และสีตรงกัน(รถแฝด) ปัจจุบันผู้เสียหายใช้งานอยู่ในพื้นที่ กทม. ยังไม่ได้ขายรถยนต์ให้กับผู้ใด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้สืบสวนขยายผลเครือข่ายกระทำผิดต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่า ได้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวมาจากชายไม่ทราบชื่อซึ่งติดต่อกันผ่านเฟซบุ๊ก รับมอบรถยนต์และเอกสารทั้งหมดกันที่พื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อประมาณเดือน พ.ค.2567 โดยชำระเป็นเงินสด 150,000 บาท
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก สวญ.ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล. โทร. 0648156699
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”