จากความมุ่งมั่นพัฒนาเกษตรอินทรีย์อย่างยั่งยืนทั้งระบบ จึงเป็นก้าวแห่งความสำเร็จของ ศูนย์ข้าวชุมชนนาแปลงใหญ่ตำบลเกาะแก้ว จังหวัดสุรินทร์ ที่คว้ารางวัลสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2568 ในสาขาศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์ข้าวชุมชน ประเภทข้าวหอมมะลิ 

ศูนย์ฯ ก่อตั้งเมื่อปี 2562 มีกิจกรรมหลัก คือการผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพ โดยเน้นการเปลี่ยนผ่านจากระบบเกษตรเคมีสู่การผลิตแบบอินทรีย์ทั้งชุมชน พร้อมยกระดับมาตรฐานสู่ระดับสากล เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในพื้นที่ ซึ่งมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และเชื้อชาติ เช่น ลาว เขมร และกูย

ปัจจุบันศูนย์ฯ มีสมาชิก 33 ราย รวมพื้นที่เพาะปลูก 277 ไร่ โดยทุกครัวเรือนสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ใช้เองได้ และมีการจัดระบบการผลิตอย่างเป็นขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มีคณะกรรมการบริหารงานภายในซึ่งแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจน ได้แก่ ด้านการผลิต การจัดการน้ำ การควบคุมคุณภาพ การตลาด กองทุน และการประชาสัมพันธ์ รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่สมาชิกและชุมชนใกล้เคียง

เกียรติ อาจภักดี ประธานศูนย์ข้าวชุมชนนาแปลงใหญ่ตำบลเกาะแก้ว กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ศูนย์ฯ ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวได้รวมทั้งสิ้น 435.98 ตัน พร้อมพัฒนาเครือข่ายตลาดอย่างมั่นคง โดยกระจายผลผลิตไปยังมูลนิธิชัยพัฒนา (70%), เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนนวัตกรรมเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ (OASIS) (25%), และ กลุ่มเกษตรกรทั่วไป (5%) นอกจากนี้ยังมีการประชาสัมพันธ์ผ่าน Facebook และ YouTube เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง

ศูนย์ฯ ยังส่งเสริมให้สมาชิกมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การวางแผน การคัดเลือกพื้นที่ การเตรียมเมล็ดพันธุ์ ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวและจัดการหลังการผลิต โดยมีเครื่องจักรและอุปกรณ์ทันสมัย เช่น เครื่องโรยปุ๋ย เครื่องวัดความชื้นเมล็ดพันธุ์ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการผลิต

อีกหนึ่งจุดเด่นของศูนย์ฯ คือการเปิดพื้นที่เรียนรู้ให้แก่โรงเรียนและเยาวชนในชุมชน ผ่านกิจกรรมทำนาอินทรีย์ ผลิตปุ๋ยและน้ำหมักชีวภาพ ตลอดจนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตามแนวทาง “Zero Waste” โดยนำแนวคิดเกษตรกรรมยั่งยืนมาใช้จริง เช่น การไถกลบตอซังแทนการเผา การใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด (ถั่วพร้า, ปอเทือง), ปุ๋ยคอกจากโค-กระบือ รวมถึงการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาและบิวเวอร์เรียควบคุมศัตรูพืช

“การได้รับพระราชทานโล่รางวัลสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2568 ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ถือเป็นเกียรติยศสูงสุดในชีวิตของสมาชิกทุกคนในศูนย์ฯ รางวัลนี้ไม่เพียงแต่เป็นแรงบันดาลใจให้ศูนย์ฯ ก้าวต่อไปอย่างมั่นคง หากยังเป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพของเกษตรกรไทยที่สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมและยกระดับการผลิตข้าวอินทรีย์ให้เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับชาติและนานาชาติ เราจะสืบสานเจตนารมณ์ในการพัฒนาเกษตรกรรมควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้สู่คนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างชุมชนที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป” เกียรติ อาจภักดี กล่าว

ความสำเร็จของ ศูนย์ข้าวชุมชนนาแปลงใหญ่ตำบลเกาะแก้ว ถือเป็นแบบอย่างของการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ที่สร้างรายได้มั่นคง เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรในชุมชน พร้อมทั้งยกระดับสู่มาตรฐานระดับประเทศและนานาชาติอย่างยั่งยืน