ปส.จับกุมยกแก๊ง "ขบวนการฉ้อโกงลอบซื้อยาควบคุมจาก อย.  
 
วันที่ 11 มิ.ย.68 ที่บช.ปส.พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร.บช.ปส. โดย พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปล.ต.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนชาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์, พล.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รอง ผบช.ปส, พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, เภสัชกร ฉัตรชัย พานิชย์ศศภภรณ์ผู้อำนวยการกองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงกงานคณะกรรมการอาหารและยา เนื่องจาก กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้รับการประสานแจ้งข้อมูลจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย) ว่ามีกลุ่มบุคคคลลักลอบน้ำยาควบคุมแผนปัจจุบัน ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และประเภท 4 ออกนอกระบบและนำไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งเป็นยาในกลุ่มยานอนหลับ ยารักกังวล และยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปล. จึงได้ทำการสืบสวนพฤติการณ์ของกลุ่มบุคคลดังกล่าว

พล.ต.ท.สำราญ. กล่าวว่า สืบเนื่องจากการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร แถลงต่อรัฐสภาว่าปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วน ที่นายกรัฐนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดชาด ครบวงจร ตัดต้นตอการผลิตและจำหน่าย ในการสกัดกั้นลำเลียงยาเสพติด ปราบปรามและยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสำคัญ ประกอบกับนโยบาย ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ซึ่งกำชับควบคุมและกำกับดูแลวัตถุเสพติดให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย รวมถึงการตรวจสอบ กำกับดูแล เฝ้าระวังวัตถุเสพติด สถานประกอบการ และการโฆษณาวัตถุเสพติดให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร, พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอปสตร, พล.ต.อ.ประจวย วงศ์สุข รอง ผบ.ตร(ปป) สำหรับพฤติการณ์ กล่าวคือ กลุ่มบุคคลดังกล่าวซึ่งมีบุคคลากรทางการแพทย์ ที่สามารถสั่งซื้อยาแผนปัจจุบันดังกล่าวจาก อย. ได้ โดยทำการสั่งซื้อในนามของคลินิกทางการแพทย์ต่างๆ จำนวน 11 คลินิก จากนั้นนำยาแผนปัจจุบันดันดังกล่าวเก็บรวบรวมซุกซ่อนไว้ในเคหสถานส่วนตัว เพื่อรอน้ำออกไปจำหน่ายในกับลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่นำไปใช้ในทางที่ผิด โดยมีการทำงานกันเป็นขบวนการ ทั้งทีมสั่งซื้อยา ทีมเก็บรักษาซุกซ่อน และทีมที่คอยจัดจำหน่ายในกับกลุ่มลูกค้า และจากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนจากการนำยาควบคุมแผนปัจจุบัน ออกไปจำหน่ายนอกระบบกว่า 100 ล้านบาท กองบัญชาการตำรวจปราบปราบปรามยาเสพติด จึงได้ทำการสืบสวนพฤติการณ์การณ์กลุ่มดังกล่าว เรื่อยมา จนสามารถจับกุมกลุ่มผู้ค้ารายย่อยที่นำยาควบคุม ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเกท 2 ออกไปจำหน่ายนอกระบบ และได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานขอออนุมัติหมายจับกลุ่มขบวนการที่เกี่ยวข้องอีก จำนวน 5 ราย ต่อศาลอาญา ในข้อหา"ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (ฟลูไนตราซีแทม หรือ Flunitrazepamา) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน., สมคบโดยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกันแล้ว"


ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 7 ราย
จับกุมตามหมายจับ จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย1.พ.ต.อ.พญ.อัญชุลี ( สงวนนามสกุล)
2.นายดุริยลักษ์  ( สงวนนามสกุล)
3.น.ส.ณัฐพัชร์  ( สงวนนามสกุล)
4.นายปกรณ์ ( สงวนนามสกุล)
5.นายอรชุน  ( สงวนนามสกุล) และจับกุม6.น.ส.พัชรา  ( สงวนนามสกุล) 7.น.ส.พชรมน  ( สงวนนามสกุล)
พร้อมของกลาง วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2
1.Alprazolam tablet 57,000 เม็ด
2.Zolpidem tartrate tablet 16,100 เม็ด
3.Flunitrazepam tablet 24,300 เม็ด
ยึดของกลาง วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4
1.Clonazepam tablet 63,000 เม็ด
2.Clorazapate tablet 10,000 เม็ด
รวมของกลาง วัตถุออกฤทธิ์ จำนวน 170,400 เม็ด
และสามารถยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด ไว้เพื่อตรวจสอบ รวมกว่า 400 ล้านบาท


อนึ่ง จากการปฏิบัติการดังกล่าวพบข้าราชการตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด