"มหิดล - สสส." คาดประมาณประชากร LGBTQ+ มี 1.6 ล้านคน หรือ 2.37% สัดส่วนในหญิงสูงกว่าชาย ในกลุ่มอายุน้อยสูงกว่าอายุมากชัดเจน สัดส่วนคนนอกขนบเพศชายเคยมีเซ็กส์โดยไม่ยินยอมสูงสุด

ที่ Bangkok Pride Forum ลาน SCBX สยามพารากอน วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 รศ. ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล และนางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้จัดการ สสส. เผยผลสำรวจ ครัวเรือนเพื่อคาดประมาณประชากร LGBTQ+ ใน พ.ศ. 2567 จากการนับจดครัวเรือน 2,466 ครัวเรือน จำนวน 9,588 คน พบว่ามีประชากรเป็นคนหลากหลายทางเพศ 2.37% แบ่งเป็นผู้ชาย 5.4 แสนคน ผู้หญิง 1.04 ล้านคน รวมเป็น 1.58 ล้านคน โดยร้อยละของ LGBTQ+ ที่มีเพศกำเนิดหญิงสูงกว่าเพศกำเนิดชายเกือบทุกกลุ่มอายุ และ ในกลุ่มอายุน้อยมีอัตราความชุกสูงกว่ากลุ่มอายุมากอย่างชัดเจน

นางสาวกุลภา วจนสาระ นักวิจัยจากสถาบันวิจัยประชากรและสังคม กล่าวถึงผลการสำรวจชีวิตทางเพศและสุขภาพ ประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปจำนวน 2,426 คน และการสำรวจในกลุ่มเยาวชนที่เรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย อาชีวะ และมหาวิทยาลัย อายุ 15-25 ปี จำนวน 1,106 คนด้วยแบบสอบถามเดียวกัน พบว่าเยาวชนระบุตัวเองเป็น LGBTQ+สูง กว่าประชาชน 4 เท่า (29.6% ต่อ 7.4%) โดยกลุ่มเยาวชนเปิดเผยตัวตนเฉพาะกับบางคนบางพื้นที่สูงกว่า และผลจากการ เปิดเผยตัวตนกับคนในครอบครัว กลุ่มเยาวชนจำนวนหนึ่งครอบครัวยอมรับแบบมีเงื่อนไขและถูกกดดันให้เปลี่ยนแปลง ตัวเองสูงกว่า

การวิเคราะห์ข้อค้นพบได้แบ่งประชากรตัวอย่างในการสำรวจออกเป็น 2 กลุ่ม คือ คนที่มีเพศวิถีตามขนบ (cisgender heterosexual) และคนที่มีเพศวิถีไม่ตามขนบเพศของสังคม (non-cisgender heterosexual) พบว่า อัตลักษณ์ทางเพศของ กลุ่มประชาชนที่สำรวจเปรียบเทียบระหว่างเพศกำเนิดชาย-หญิง ผู้หญิงมีอัตลักษณ์ทางเพศที่หลากหลายกว่าผู้ชาย เป็นไบ เซ็กชวลสูงกว่า ขณะที่ในกลุ่มเยาวชนยิ่งสูงกว่ากลุ่มประชาชน และเห็นคนรักทุกเพศ (pansexual) อย่างชัดเจน ส่วนเรื่อง รสนิยมทางเพศของคนนอกขนบเพศวิถีในกลุ่มประชาชนและเยาวชนที่สำรวจเปรียบเทียบชาย-หญิง พบว่าผู้หญิงมีความ สนใจหลากหลายกว่า และเยาวชนหลากหลายในสัดส่วนที่สูงกว่าประชาชนมาก เมื่อจำแนกรสนิยมทางเพศด้วย ความสามารถในการรักคนได้กี่เพศสภาพ เปรียบเทียบระหว่างกลุ่มประชาชนและเยาวชนที่สำรวจ เฉพาะที่เป็นคนนอกขนบ เพศวิถี พบว่าเยาวชนสามารถรักได้หลายเพศ (polysexual) มากกว่า และพบว่าในเยาวชนมีความเลื่อนไหลทางเพศสูงกว่า กลุ่มประชาชน 4 เท่า (35.1% ต่อ 8.5%)

เพศสัมพันธ์โดยไม่ยินยอมพร้อมใจ คนที่มีวิถีทางเพศนอกขนบเคยมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ยินยอมในอัตราที่สูงกว่าคนที่มี วิถีทางเพศตามขนบทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยเปรียบเทียบแล้วทั้งในกลุ่มประชาชนและเยาวชน ผู้ชายนอกขนบเพศที่เคยมี เพศสัมพันธ์โดยไม่ยินยอมมีสัดส่วนสูงสุด สูงกว่าผู้หญิงทั้งในและนอกขนบเพศ โดยสัดส่วนผู้ชายนอกขนบเพศในกลุ่ม เยาวชนเคยมีประสบการณ์นี้สูงถึงหนึ่งในห้า

รศ. ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล กล่าวทิ้งท้ายว่า ผลการศึกษาจากประชากรตัวอย่างสองกลุ่มนี้ชี้ชัดถึงปรากฏการณ์ที่คนจำนวน หนึ่งไม่ต้องการมีเพศวิถีตามขนบ การท้าทายระบบเพศคู่ตรงข้ามชาย-หญิง (gender binary system) และแบบแผนทางเพศ ที่เป็นมาตรฐาน ส่งผลให้คนนอกขนบเพศหรือคนเพศหลากหลายเผชิญแรงกดดันในรูปแบบต่าง ๆ และถูกเลือกปฏิบัติใน ระดับต่าง ๆ โครงการจึงมีข้อเสนอให้ทำการศึกษาวิจัยเชิงลึกถึงกลไกเชิงอำนาจและโครงสร้างที่กีดกันคนที่มีเพศวิถีไม่เป็นไป ตามขนบ และวิเคราะห์ความทับซ้อนของปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคนหลากหลายทางเพศหรือคนที่มีเพศวิถี ไม่เป็นไปตามขนบ