"อนุทิน" ย้ำปรับครม.อยู่ที่ "นายกฯ" ปัดข่าวจับมือ "รทสช." ต่อรองกดดันเก้าอี้ เอกนัฎ ยันเอกสาร 21 สส.รวมไทยสร้างชาติ เสนอปรับครม.ของปลอม พบลายเซ็นผิดปกติ ศศิกานต์ ชี้เป็นเกมสกัดขาล้มพรรค "ชื่นชอบ" เดือดซัดคนชั่วโกหกบ่อนทำลาย "รทสช. - พีระพันธุ์" ยัน สส.ชุมพรแฉความจริง "ทวี" มั่นใจ! พิจารณาคดีชั้น 14 วันศุกร์นี้ ตัวแทนกระทรวงยุติธรรมพร้อมแจง มองเป็นโอกาสดีได้ชี้แจงศาล ไม่กังวลกระทบเสถียรภาพรัฐบาล 


         เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี ขณะนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ประสานมาแล้วหรือยังว่า ยังไม่มี
     
    เมื่อถามว่ามองกรณีที่พรรคเพื่อไทยสื่อต้องการยึดกระทรวงมหาดไทยกลับมา นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้มอง ขอให้สื่อเลิกถามได้แล้วเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี เพราะนายกฯบอกว่าหากจะปรับเมื่อไหร่จะเรียกหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลหารือ ตอนนี้ก็ยังไม่เรียกแสดงว่ายังไม่มีการปรับ
     
    เมื่อถามว่าหากมีเงื่อนไขนี้มาทางภูมิใจไทยจะว่าอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า พูดไปหมดแล้ว 
      
   เมื่อถามว่า หากมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะไม่กระทบสถานะรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่ายังไม่มีการปรับ ครม. ตอนนี้ก็ทำงานอย่างเต็มที่ และขอให้ผู้สื่อข่าวฟังท่านนายกฯคนเดียววันที่ 4 มิ.ย. นายกฯ บอกแล้ว ณ ขณะนี้ยังไม่มีความคิดที่จะปรับ หากจะปรับเมื่อไหร่จะหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล ท่านพูดชัดเจนแล้วจะไปถามคนอื่นได้อย่างไร และในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ยังไม่ได้คิดอะไรเรื่องนี้คิดแต่เรื่องจะทำงานโดยเฉพาะสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนไทยกัมพูชา เมื่อทหารทำหน้าที่แล้ว เราจะดูแลประชาชนอย่างไร 
      
   เมื่อถามอีกว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้ไม่มีอะไรน่ากังวลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่าขณะนี้ทำงานกันเต็มที่อยู่และไม่มีประเด็นอะไรน่ากังวล
    
     เมื่อถามถึง กระแสข่าวพรรครวมไทยสร้างชาติขอจับมือกับพรรคภูมิใจไทยเพื่อกดดันสร้างอำนาจต่อรองในการปรับคณะรัฐมนตรี นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี จะไปกดดันได้อย่างไรอยู่ด้วยกันไม่ต้องกดดันกัน ที่ผ่านมาทำงานสร้างความเข้าใจผูกพันกันพอแล้ว ยืนยันว่าไม่มีการสร้างอำนาจต่อรองเพราะหากใช้คำว่าต่อรองจะวุ่นวาย ทุกอย่างต้องใช้เหตุใช้ผลหารือกัน 
     
    เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการนัดหัวหน้าพรรคร่วมทานข้าวตามทำเนียมหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่มีเลย
     
    ส่วน นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงกรณีมีการเผยแพร่รายชื่อ 21 สส.พรรค รทสช. ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเสนอให้ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัดส่วนของพรรค รทสช. ว่า ดูก่อนว่าเอกสารจริงหรือไม่ ซึ่งเท่าที่ตนดูมีสส.หลายคนออกมาปฏิเสธแล้ว โดยเฉพาะสส.ชุมพรทั้ง 3 คนปฏิเสธ และเท่าที่ตนทราบไม่รู้เอารายเซ็นช่วงไหนตอนไหนเอามาปะติดปะต่อกัน และเอาหัวเรื่องไปใส่ต่อแบบนี้ ก็เลยงงกันอยู่ว่าเป็นยังไงกันแน่ จะต้องเช็คก่อนว่าจริงหรือเปล่า และในเนื้อความของเอกสารมีการด่าว่ารัฐมนตรีของพรรคไม่มีความรู้ไม่มีความสามารถ และขาดจริยธรรม
        
 ซึ่งเอกสารเซ็นโดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ต้องถามกลับไปที่นายสุชาติว่าตอนที่เซ็นเอกสารอ่านข้อความนี้ดีหรือยัง เพราะเหมือนประจานตัวเอง เพราะนายสุชาติก็เป็นรัฐมนตรีของพรรค ตนเคยพูดไปหลายครั้งว่าตนเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเหล่านี้อยู่แล้ว เพราะรู้ว่ามีกระบวนการจะโจมตีทั้งหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ฉะนั้นทุกอย่างถูกใช้ขึ้นมาบิดเบือน และสร้างสถานการณ์ ต้องไปถามเจ้าตัวที่มีรายชื่อปรากฎแล้วถ้ามีการยื่นเอกสารไปถึงนายกฯ จริง ตนขอตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการยื่นเอกสารเท็จหรือเปล่า ซึ่งมีโทษอาญา 
     
    เมื่อถามว่ามีการเช็คเอกสารนี้หรือยังว่าเป็นเอกสารจริงหรือปลอม นายเอกนัฎ กล่าวว่า เห็นว่ามีปลอม เพราะพบความผิดปกติรายเซ็นไม่เหมือนที่เซ็นปกติ บางรายเซ็นมีลายเซ็นเหมือนเด็กอนุบาล บางคนในชื่อมีตัวอักษรนำตัวเดียว ใครเขาเซ็นกันแบบนั้น และมีบางคนออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่เคยเซ็นเอกสารที่มีข้อความแบบนี้ มันผิดปกติหลายเรื่องมาก
        
 เมื่อถามย้ำว่าคนที่ออกมาปฏิเสธมีแค่ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร เขต 1 คนอื่นได้มีการสอบถามหรือยัง นายเอกนัฎ กล่าวว่า มี นายสัน แซ่ตั้ง สส.ชุมพร เขต 2 นายสุพล จุลใส สส.ชุมพร เขต3 นายชุมพล จุลใส แกนนำพรรค เขายืนยันว่าไม่ได้เซ็นชัดเจน 
   
    ผมอยากถามว่าใครเป็นคนปล่อยเอกสาร ใครเป็นคนปลอมลายเซ็นปลอมๆ เอามาประกอบ เพราะเจ้าตัวยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และใครเป็นคนส่งเอกสารให้นายกฯ จริงหรือไม่ และเจตนาของคนที่ทำคืออะไร ผมทำงานผมยอมหักแต่ไม่ยอมงอในบางเรื่อง อย่างถ้าต้องไปอ่อนข้อให้ทุนเทาผมไม่ยอมเด็ดขาด ผมรู้อยู่แล้วว่าสู้อยู่กับอะไร ผมว่าทุกคนก็รู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังกระบวนการนี้คือใคร ในวงในผมว่าเขาน่าจะรู้กัน ลองไปถามหลังไมค์ สส.ที่อยู่ในรายชื่อดูสิครับผมว่าเขารู้ นายเอกนัฎ ระบุ 
       
  เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวมีการยืนยันจากผู้ใหญ่หลายคนของพรรคเพื่อไทยว่ามีการยื่นหนังสือดังกล่าวถึงนายกฯ จริงๆ แสดงว่าใน 21 รายชื่อต้องมีชื่อจริงอยู่บ้าง นายเอกนัฎ กล่าวว่า เท่าที่ดูตนยังไม่พบของจริงเลย ต้องให้เจ้าตัวออกมายืนยัน เมื่อถามว่าได้สอบถามนายกฯ หรือยัง นายเอกนัฎ กล่าวว่า ยัง แต่เดี๋ยวเช้านี้จะต้องเจอกันอยู่แล้ว 
     
    เมื่อถามว่าภายในพรรค รทสช.มีปัญหาขัดแย้งกันอยู่ใช่หรือไม่ น่าจะเป็นปัญหาที่แรงถึงขนาดต้องตายกันไปข้างหนึ่ง นายเอกนัฎ กล่าวว่า ต้องถามว่าเจตนาของคนที่มีปัญหาคืออะไร ถ้ามันเป็นเรื่องของการขาดการพูดคุยหรือรู้สึกไม่อบอุ่นตนว่ามันแก้กันไม่ยาก เพราะปกติตนพูดคุยกินข้าวกับ สส.อยู่แล้วทุกสัปดาห์ แต่ถ้าเจตนามีความต้องการอะไรบางอย่างที่เป็นผลประโยชน์ส่วนตัวเราคงแก้ให้ไม่ได้
       
  เมื่อถามอีกว่ามีคนในพรรค รทสช.บ่นด้วยความอึดอัดกันมาสักพักว่าบรรยากาศในพรรคแบบศักดินา มีฮองเฮาคุมสภาพภายในพรรค และมี 9 อรหันต์คุม เวลามีประชุมพรรคสส.ไม่ได้ถูกเชิญเข้าประชุมด้วย เรื่องนี้เป็นอย่างไร นายเอกนัฎ กล่าวว่า เรียกทุกสัปดาห์ ลงในไลน์กลุ่มสส.รับรู้ทั้งหมด ไม่มีอะไรแบบนั้นเลย เรามีการพูดคุยกันตลอด แต่มีกระบวนการพยายามปลุกปั่นสร้างสภาพให้เหมือนว่าพรรคมีความแตกแยกกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งคนกลุ่มนั้นเป็นคนไม่กี่คน และอย่าไปจินตนาการแบบนั้นว่ามีฮองเฮาอะไร มันไม่มี 
       
  เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะจัดการอย่างไร นายเอกนัฎ กล่าวว่า พรรคมีกลไกของพรรคอยู่ ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาภายในพรรคเราต้องจัดการกันไป ใครพูดคุยได้ก็ปรับจูนกันไป อะไรเราแก้ได้เราก็แก้โดยไม่กระทบจุดยืนของพรรค
       
  เมื่อถามอีกว่าจะเสนอปลดนายสุชาติออกจากรัฐมนตรีโควตาของพรรคโดยใช้มติกรรมการบริหารพรรคถอดถอนออกจากสมาชิกภาพของพรรคหรือไม่ นายเอกนัฎ กล่าวว่า ตนยังไม่รู้เลยว่าคนเขียนเอกสารฉบับนี้เป็นนายสุชาติหรือไม่ ตนโทรศัพท์ไปเมื่อคืนวันที่ 9 มิ.ย.แต่นายสุชาติไม่รับสาย ฝากบอกนายสุชาติให้รับสายตน ให้คุยกันแบบลูกผู้ชาย ทั้งนี้ที่ผ่านมาก็ดีกัน แต่มาเกิดอะไรขึ้นแบบนี้ตนสงสัย
       
  ด้าน น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ 21 คน เข้าชื่อยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยข้อเสนอการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัดส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมแนบรายชื่อพร้อมลายมือชื่อ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้ง 21 คน นำโดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ทราบข่าวพร้อมกับพี่น้องประชาชนทางโซเชียลมิเดีย จึงตั้งข้อสังเกตว่าหนังสือที่นายสุชาติยื่น และการเซ็นชื่อในหนังสือ เป็นฉบับเดียวกันหรือไม่ หรือแค่มาแปะร่วมกัน จากการตรวจสอบเป็นการเซ็นชื่อในกรณีอื่น ไม่ใช่ประกอบการยื่นหนังสือครั้งนี้ 
     
    ส่วนข้อสังเกตว่าเป็นการตัดแข้งตัดขาร่าง พ.ร.บ.พลังงานนั้น เป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนตั้งข้อสังเกตได้ พรรครวมไทยสร้างชาติเขียนกฎหมาย จำนวน 3 ฉบับ ร่างกฎหมายของพรรครวมไทยสร้างชาติอยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์ แปลว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคนก็จะเห็นร่างกฎหมายฉบับนี้ เป็นข้อสันนิษฐานว่าอาจจะมีการตัดแข้งตัดขา หรือเป็นการกระทำให้กฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่าน หรือความพยายามจะล้มพรรคหรือเอาท่านออกหรือไม่
      
   เมื่อถามว่า พรรคจะดูเรื่องข้อกฎหมายอย่างไรกับกรณีดังกล่าว น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า ต้องปรึกษากับคณะกรรมการบริหารพรรค หัวหน้า และเลขาธิการพรรคว่าจะเอาอย่างไร เห็นข่าวกันดึกจึงวุ่นวาย ทางอินบ็อกซ์ของตนเองก็ได้รับกำลังใจจากประชาชนเยอะมาก จึงขอบคุณพี่น้องประชาชน
       
  น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ที่มีการระบุว่านายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมไม่มีคุณสมบัติ ไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ตนเองยืนยันว่านายพีระพันธ์ุกำลังทำเรื่องต่อสู้เกี่ยวกับเรื่องพลังงาน น่าจะเป็นรัฐมนตรีคนแรกที่กล้างัดกับอะไรที่ไม่เคยกล้าทำมาก่อน ส่วนนายเอกนัฏก็ต่อสู้กับจีนเทา ต้องถามกลับไปว่าผลงานเป็นที่ประจักษ์แปลว่าอะไร อย่างไรก็ตามการจะเรียก สส.มาพูดคุยหรือไม่ ต้องฟังสัญญาณจากหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค 
      
   น.ส.ศศิกานต์ ยังกล่าวอีกว่า ช่วงนี้พรรครวมไทยสร้างชาติถูกเฟกนิวส์เยอะ เช่น กรณีการร้อง ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบนายพีระพันธุ์ หรือกรณีที่ ป.ป.ช.เรียกสอบ ก็เป็นเฟกนิวส์ จึงขอให้คนไทยรับสารด้วยการมีวิจารณญาณ
       
  เมื่อถามถึงกฎหมายพลังงานของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่หลายคนมองว่าจับคนมาเป็นตัวประกัน นางสาวศศิกานต์ ย้ำว่าขั้นตอนการออกกฎหมายมีหลายขั้นตอน เข้าใจว่ากฎหมายฉบับนี้รอเข้าสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรหน้า คงจะอยู่ต้นวาระ ส่วนสาเหตุที่มีความพยายามเคลื่อนไหวนั้น ตนเองไม่สามารถตอบแทนได้ แต่ถ้าไปดู สส.ที่ไม่ได้เซ็นชื่อ หรือสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติที่เคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ก็เป็นลักษณะของการให้กำลังใจนายพีระพันธุ์ 
    
     เมื่อถามว่า การแอบอ้างนี้จะมีการขับออกหรือไม่ น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า ต้องดูกฎระเบียบของพรรค แต่ความคิดของ สส. 20 กว่าท่านก็เป็นความคิดของคนกลุ่มหนึ่งของพรรคการเมือง การบริหารพรรคการเมืองก็มีระบบต้องดูว่าคณะกรรมการบริหารพรรคจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้ 
     
    เมื่อถามว่า หลังจากนี้นายพีระพันธ์ุจะมาชี้แจงกับสื่อมวลชนเองหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาดูเหมือนจะหลบสื่อ น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า นายพีระพันธุ์ไม่ได้หลบสื่อ ท่านเตรียมวาระ และข้อมูลเพื่อประชุม ครม. ไม่ว่าจะมีวาระของท่านหรือไม่ก็ตาม
      
   ขณะที่ นายชื่นชอบ คงอุดม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ประจำรองนายกรัฐมนตรี (นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค) และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชื่นชอบ คงอุดม ระบุว่า อย่ายอมคนชั่วนะครับ เหมือนว่าเรื่องนี้จะเป็นแค่ปัญหาในพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่มีคนชั่วพยายามทำลายคนดีที่พยายามทำงานเพื่อปชช. ทำทุกวิถีทางแม้โกหกหน้าด้านๆบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของท่านพีระพันธุ์ ใครปล่อยข่าว? รวมไทยสร้างชาติโต้เดือด! เฟกนิวส์ "ป.ป.ช." เรียก 'พีระพันธุ์'  ชี้แค่ปล่อยข่าวหวังปั่นกระแสการเมือง ส.ส.วิชัย สุดสวาสดิ์ ส.ส.จังหวัดชุมพรได้ออกมายืนยันแล้วว่าเรื่องทั้งหมดคือการโกหกต่อหน้าประชาชน
      
   ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า อยู่ที่นายกฯ สำหรับตนขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการปรับครม.แต่อย่างใด แต่พรรคอื่นตน