“ภูมิธรรม”ย้ำปรับครม.รอฟัง “นายกฯ” ไม่ทราบข่าวพรรคร่วมฯ นัดคุยสัปดาห์นี้  ยันดีลร่วมรัฐบาลไม่มีเรื่องต่อรองเก้าอี้ ด้าน “อนุทิน” ยัน “นายกฯ” ยังไม่เรียกคุยปรับ ครม. ยัน “สส.ภท.” พร้อมแจง “คดีฮั้วเลือกสว.” ส่วน “สมศักดิ์” ลั่นมีอำนาจเต็มส่งเรื่องสอบจริยธรรมหมอ ยันเข้าร่วมประชุมแพทยสภา 12 มิ.ย.นี้ 


เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ผ่านมาเราไม่ได้สนใจเลย เพราะจะกลายเป็นว่าเรามัวแต่สนใจว่าจะนั่งตำแหน่งอะไร 3 - 4 วันที่ผ่านมา มีแต่เรื่องชายแดนไทย - กัมพูชา เป็นเรื่องหลัก ตั้งแต่เช้าจนดึก เพราะฉะนั้น ตนคงตอบไม่ได้ ทุกอย่างยังเป็นคำตอบเดิม

ผู้สื่อขาวถามว่า มีข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะนัดคุยกันในสัปดาห์นี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบ ก็แล้วแต่ข่าวที่ออกมา ก็ไปติดตามกัน ตนบอกไปแล้วว่าทุกอย่างอยู่ที่นายกรัฐมนตรี ท่าทีของนายกฯ ถ้ายังไม่เปลี่ยน ก็ไม่เปลี่ยน

เมื่อถามถึงกรณีท่าทีของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ขอยึดกระทรวงเดิมตั้งแต่มาร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องถามนายกฯ แต่จริงๆ การคุยกันเพื่อร่วมรัฐบาลกัน คือมาตกลงกันว่าจะแก้ปัญหาอะไร หากนโยบายที่จะทำ และพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาลเห็นด้วย พรรคนั้นก็เข้ามา การคุยเพื่อตั้งรัฐบาล ไม่ใช่คุยว่าจะให้ตำแหน่งอะไรกับใคร ต้องเข้าใจก่อนว่า เราคุยเรื่องนโยบายที่จะทำงาน ถ้าเห็นด้วยก็มาร่วม ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องมาร่วม ซึ่งจุดนี้ตนเป็นคนดำเนินการคุยเอง ว่าเรื่องต่างๆ โอเคหรือไม่ เพราะฉะนั้น มาตราการที่คุยแต่ต้นในการชวนมาทำงาน อยู่ที่ว่าจะมาช่วยทำงานอย่างไร ถ้าเห็นเหมือนกันก็ทำงานร่วมกันได้ แต่ขณะนี้ใครจะเสนออะไร อยู่ที่นายกฯ พิจารณา

เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับเรื่องไต่สวนการทุจริตแผนการใช้งบประมาณ ที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้อนุมัติเสนอเข้าที่ประชุม ครม.นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายที่ ป.ป.ช.ดำเนินการ เมื่อถามย้ำว่า เป็นเกมการเมืองในช่วงการปรับ ครม.หรือไม่ นายภูมิธรรม ไม่ตอบคำถาม และเดินขึ้นตึกบัญชาการไปทันที

ที่วิทยาลัยการปกครอง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีวุฒิสภาจะเสนอให้นายกฯ อาศัยช่องทางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 165 เพื่อขอความเห็นจากสมาชิกรัฐสภา เพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาทไทย-กัมพูชาว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด เพราะพึ่งกลับมาจากเมืองนอก และลงพื้นที่อุบลราชธานีทันทีเมื่อวันที่ 8 มิย. ที่ผ่านมา เพื่อร่วมแก้ปัญหาบริเวณชายแดนไทยและกัมพูชา อีกทั้งตอนหลังมีเรื่องคดีฮั้วสว. และมีความพยายามโยงกับพรรคภูมิใจไทย  พวกตนก็ไม่ได้ติดต่อกับวุฒิสภา เพราะเดี๋ยวจะเป็นประเด็นกันอีก จึงต่างคนต่างอยู่

เมื่อถามว่า มีรายงานข่าวแจ้งว่า คณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26  ได้ออกหมายเชิญ นางสุขสมรวย วันทนียกุล สส. อำนาจเจริญ  และ นายพิชัย ชมภูพล สส. สุราษฎร์ธานี พรรคภูมิใจไทย มาชี้แจงข้อกล่าวหาได้มีการพูดคุยกับสส. ดังกล่าวแล้วหรือยัง   นายอนุทิน กล่าวว่า  ก็พูดคุยปกติในฐานะหัวหน้าพรรคและลูกพรรค ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีอะไรพร้อมไปชี้แจงทุกอย่าง เพราะทุกคนถูกกล่าวหาได้ และก็ต้องเตรียมข้อมูลหลักฐาน เอกสารไปชี้แจงข้อกล่าวหา

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้มีการแจ้งหารือเรื่องปรับครม.แล้วหรือยัง  นายอนุทิน กล่าวว่า  ไม่มีเพราะตอนนี้คุยเรื่องการเมืองไม่ได้หรอก เพราะตอนนี้ต้องดูแลประชาชน และ อธิปไตยของประเทศของเราเป็นสิ่งสำคัญที่สุด  หลังเกิดปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย – กัมพูชา
ส่วน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาในวันที่ 12 มิ.ย. นี้ ซึ่งจะมีวาระการพิจารณาว่าจะยืนยันมติลงโทษแพทย์ 3 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจหรือไม่ หลังจากที่นายสมศักดิ์ ในฐานะสภานายกพิเศษ ได้ทำเรื่องวีโต้ไป ว่า ตนตั้งใจจะไปร่วมประชุมด้วย อาจจะต้องไปทำความเข้าใจเพราะเราต้องทำงานร่วมกันระหว่างแพทยสภากับแพทย์ ตนอยู่ตรงกลางคิดว่า ทำหน้าที่ตามกฎหมาย และถ้าเป็นไปได้ตนก็อยากชี้แจงทำความเข้าใจเพื่อให้เห็นถึงความตั้งใจให้ ที่อยากจะแก้ปัญหา

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวในฐานะผู้บังคับบัญชาได้มีการสั่งการคณะกรรมการแพทยสภาบางราย ให้ออกมติเห็นต่างกับ มติของแพทยสภา นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าแพทย์มีวิจารณญาณมีสติปัญญา มันสมองล้ำเลิศของประเทศอยู่แล้วถ้าเราปล่อยประละเลยให้ผู้คนนำม็อบมากดดันหรืออะไรต่างๆ มันไม่ใช่วิถีทางที่แก้ปัญหา ตนอยากให้ทุกฝ่ายได้คุยกันด้วยเหตุด้วยผล และยอมรับ ในหลักการที่เรานำหลักเกณฑ์เข้ามา ซึ่งเรื่องนี้ตนจะพยายามที่จะเข้าไปทำความชี้แจงไปพูดไปคุยเพราะเราต้องทำงานร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ได้มอบหมายให้เลขายื่น ปปท.ดำเนินการตรวจสอบจริยธรรมของคณะกรรมการแพทยสภาที่อยู่ในแชท ไลน์หลุด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการตรวจสอบไปตามข้อเท็จจริงตามที่มีผู้ร้องเรียนมาก็ต้องดำเนินการ เราจะปล่อยประละเลยหรือทิ้งจากที่เขาร้องเรียนมามันก็มีความผิดที่เกิดขึ้น จึงต้องดำเนินไปตามขั้นตอนของระบบราชการเพราะเราเป็นประชาธิปไตย ส่วนที่นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ระบุว่าตนไม่มีอำนาจในการตรวจสอบ จริยธรรมแพทย์นั้น ขอชี้แจงว่า หากไม่มีอำนาจก็สบายจะได้ไม่ต้องทำ แต่ที่ต้องทำเพราะมีอำนาจตามกฎหมาย อย่ามาโต้เถียงกันเลยขอให้มาพบพูดคุยกัน