เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดัง โพสต์เฟศบุ๊ก "Wassana Nanuam" ระบุว่า  สัญญา “ลูกผู้ชาย”!!

จาก 28 พค.2568
กว่าจะมีวันนี้ 8 มิย.
ไม่ใช่ การเจรจาจบได้ในวันเดียว
แต่การเจรจา  มีมาแล้วถึง 3  ครั้ง
ก่อนที่จะตกลง ด้วยการ “ถอย” ทหาร
ทหารไทย  ถอยออกจากจุดปะทะ ตั้งแต่เจรจาหยุดยิง วันแรก
แต่เขมร ไม่ถอย
วันนี้ เขมร จึงเป็นฝ่ายถอย ออกไป หลังศาลาตรีมุข เดิม 
แต่เพื่อให้ ดูซอล์ฟ  เขมร ไม่เสียฟอร์ม
จึงใช้คำว่า ถอยทั้ง2 ฝ่าย
หลังส่งสาร คุยกันแบบลูกผู้ชาย ชาติทหาร ออกไป
พล.อ.สรัย ดึ๊ก รอง ผบ.ทบ./ผบ.พล.สนับาสนุนที่ 3 แม่ทัพเขมร ก็ติดต่อมา ที่ รองแม่ทัพณัฏฐ์ ศรีอินทร์  มิตรเก่า ที่เป็นเหมือนน้องชาย ที่รบกันมา ในศึกเขาพระวิหารปี2554
พบกันครั้งแรก ที่ ช่องอานม้า อุบลฯ 
บรรยากาศเก่าๆ มิตรภาพ พี่น้อง ถูกหวนรำลึก  ก่อน ตามมาด้วย ครั้งที่ 2 ก่อนมา ช่องบก ในวันนี้
ด้วยความที่  รองณัฏฐ์ พูดเขมรได้  จึงทำให้ ภาษาของคนที่เป็นทหาร ด้วยกัน คุยกันรู้เรื่ิอง เปิดอก คุยกันแบบลูกผู้ชาย  ดินแดนไทย ใครจะยอมให้ เขมรรุก
ฝ่ายเขมร ก็อ้างว่า ดินแดนเขมร จากแผนที่ของเขมร เอง
พบกันครึ่งทางคือ  เขมรถอย ไทยถอย กลับแนวเดิม ตั้งแต่ ปลายปีื2567 
ฝ่ายไทย มีภาพถ่าย หลักฐาน พร้อม  
การเจรจา แค่จุดเดียว คือ ต้นพญาสัตบรรณ ช่องบก นี้เท่านั้น เพราะเขมรล้ำแดนไทย 150 เมตร เพื่อลดการเผชิญหน้า ความตึงเครียด  
คุยกันอย่างลูกผู้ชาย!!
ไม่เสียเลือดเนื้อ
ไม่เสียความสัมพันธ์
ไม่เสียเศรษฐกิจ
พลตรี ณัฎฐ์  เป็นรองแม่ทัพภาค2 ด้านการส่งกำลังบำรุง  ไม่ได้เกี่ยวกับงานยุทธการ  ที่ผ่านมา ไม่ได้รับมอบหมายจาก ผู้บังคับบัญชา ในเรื่องการเจรจา  
และไม่ต้องการออกหน้า มากนัก เพราะเกรงจะถูกเข้าใจผิด เพราะเขาเป็ยแคนดิเดท แม่ทัพภาค2 ใน ตค.นี้ด้วย
จึงทำหน้าที่ ในการเสริมความพร้อมรบ ให้กำลังพล เท่านั้น
แต่เมื่อได้รับการติดต่อ จาก พล.อ.สรัย ดึ๊ก   เขาจึงรับคำเชิญ ลองคุยดู  แต่ขออนุญาตจาก แม่ทัพภาค2 ก่อน
ประกอบกับคนใกล้ตัว  ที่เชื่อมั่นในตัวเขามา ท้้งชีวิต เปรยให้ช่วยประเทศชาติ และประชาชน  แม้ไม่ใช่หน้้าที่ หรือไม่ได้รับมอบหมาย  แต่ถ้าช่วยได้ ก็ลองพยายาม ดู
ด้วย ภาษาเขมร ที่พูดเอง ได้ตรงความรู้สึก และสไตล์ทหาร  ด้วยหลักฐาน ที่มี ด้วยการให้เหตุผลประกอบ 
ที่สุด พล.อ.สรัย ดึ๊ก  ก็ตกลง  ไม่ใช่แค่ ถอย 150 เมตร จากดืนแดนไทย และ ถอยกลับไป จุดเดิม ที่แนวศาลาตรีมุข ตามเดิม  
ก่อนลงพื้นที่ ตรวจสอบว่า ถอยจริงหรือไม่ และนัดแนะ ลงพื้นที่ หารือการปรับกำลังที่เหมาะสม และพบปะ พูดคุยกัน ต่อไป และบ่อยขึ้น
แน่นอนว่า การเจรจานี้ ย่อมต้องไฟเขียว จาก ”สมเด็จ ฮุนเซน“  นั่น อาจหมายรวมได้ว่า  การเจรจานี้ เกิดขึ้นในหบายระดับ  ก่อนที่ พล.อ.สรัย ดึ๊ก  จะติดต่อ เชิญมาคุย
แต่ก็ถือว่า พลตรีณัฏฐ์  มีบทบาทสำคัญในการเจรจา ในรายละเอียด ในภาคสนาม ประกอบกับ สายสัมพันธ์ส่วนตัว แบบทหาร ที่รู้จักกัน จากสนามรบ  การแก้ปัญหา จุดนี้ จึงคลี่คลายลง
คงเหลือ จุดอื่นๆ และ กำลังทหาร และอาวุธยุทโธปกรณ์ จำนวนมาก ที่ยังคงประชิดชายแดน  จะยอมถอย และถอน การ อย่างไร หรือไม่  ต่อไป
อย่างน้อย ลูกผู้ชาย ชาติทหาร ชาติไทย และ ชาติเขมร   ก็ทำให้ ชาวบ้านชายแดน ที่ซ้อมวิ่งเข้าบังเกอร์ หลุมหลบภัย  ก็จะได้ คลายกังวล  หลับตานอน แบบสบายใจ ได้บ้าง
แม้ว่า ปัญหาจุดอื่นๆ จะยังรอการแก้ไข อยู่ก็ตาม ขณะที่ มาตรการ กดดัน  และคุมเข้ม ทีืชายแดน  จะยังคงดำเนินต่อไป  เพื้อรอการเจรจา JBC 14 มิย.นี้ ณ กรุงพนมเปญ
ไม่ใช่แค่เพียง เคยมีวีรกรรม รักษาปราสาทคันนา รักษาเขาสัตตโสม  ให้ยังเป็นแผ่นดินไทย อยู่ได้เท่านั้น  ครั้งนี้  พลตรีณัฏฐ์ ยัง ทวงคืน แผ่นดินไทย 150 เมตร  กลับคืนมาได้ แถมเขมร ยังถอยออกจาก พื้นที่อ้างสิทธิ์ ออกไปอยู่ที่เดิม อีกด้วย
ที่สำคัญ ทวงคืนศักดิ์ศรี ให้ทหารไทย และคนไทย ด้วย
ไม่ว่า ปัญหาอีกมากมาย ยังคงรออยู่ เบื้องหน้า  และ ยังไม่อาจวางใจในเขมร ได้มากนัก ก็ตาม  เพราะไม่มีใครคืดว่า เขมรจะยอมง่ายๆ ทั้งๆที่  ”ฮุนเซน-ฮุนมาเน็ต“ เล่นใหญ่  และแข็งกร้าว มากด่อนหน้านี้   หรือจะมีแผนลึกอะไรรออยู่หรือไม่
แต่ อย่างน้อย บรรยากาศคลี่คลายลง ไม่น้อย
ด้วยความขอบคุณ และขอคารวะ

#ชนะยกแรกโดยไม่ต้องรบ
#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
#พลตรีณัฏฐ์ศรีอินทร์