เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 นายบรรยง พงษ์พานิช ในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐศาสตร์ประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Banyong Pongpanich" ระบุว่า "ดูเบอร์ธนบัตรก็รู้ว่าได้มานานแล้วจริงไหม"

นอกจากนี้ นายบรรยง ยังโพสต์รูปเป็นหนังคำสั่งแต่งตั้ง นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ เป็นที่ปรึกษา กสทช. อีกด้วย

ทั้งนี้ จากกรณีคืนวันที่ 5 มิ.ย. 68 ช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ปากเกร็ด รับแจ้งจากพลเมืองดีพบธนบัตรเงินสดไม่ทราบจำนวนบรรจุอยู่ภายในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณคอนโดเมืองทองธานีตึก P2 ชั้น 4 โซน C ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 

ต่อมา พ.ต.ท.บรรจบ ราชกิจ สวป.สภ.ปากเกร็ด พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจรีบเดินทางมาที่เกิดเหตุพบ น.ส.อุษา บุญนอก พยานผู้พบเจอคนแรก สอบถามเบื้องต้นแจ้งว่า เมื่อประมาณ 19.40 น. ขณะที่ตนกำลังจะกลับเข้าที่พัก ซึ่งอยู่ชั้น 4 ตึกที่เกิดเหตุ ได้พบเห็นกล่อง พลาสติกสีเทา วางอยู่หน้าลิฟต์ บริเวณจุดทิ้งขยะ ซึ่งตนอยากได้กล่องพลาสติกดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ จึงหยิบกล่องเพื่อจะเทขยะทิ้ง ปรากฏว่าพบธนบัตรไทย ฉบับละ 1,000 บาท จำนวนมากไม่ทราบจำนวน อยู่ในกล่องดังกล่าว ตนตกใจมาก จึงได้รีบโทรแจ้ง น.ส. ณทภัต ชัยฉัตรสุรดิษ และ น.ส.ภัสสรหทัย บงกชธนัญ 

จากนั้น น.ส.ณทภัตฯ จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งข้างๆกล่องพลาสติกที่ใส่เงินดังกล่าว พบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารดังกล่าว คือ นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมพลเมืองดี จึงได้ร่วมกันตรวจยึดธนบัตรดังกล่าว จำนวน 12 ล้านบาท เอามาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าธนบัตรดังกล่าวเป็นเงินอะไร ได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง

ต่อมา เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 6 มิ.ย. 68 ที่ สภ.ปากเกร็ด พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี , พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด , พ.ต.ท.การุณย์ ลิมปิโรจนฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด ได้เชิญตัวนายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว เจ้าของเงิน 12 ล้านบาท มาที่ สภ.ปากเกร็ด และได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสอบปากคำเพิ่มเติม 

เมื่อตรวจสอบประวัติการทำงาน ก็พบว่า นายทวีวัฒน์ เป็นอนุกรรมการไต่สวน ใน ป.ป.ช. มาแล้วหลายคดี โดยคนที่ดึงตัวนายทวีวัฒน์มา ทำงานให้กับ ป.ป.ช. คือพลเอกบุณยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งตอนนี้ หมดวาระไปแล้ว