"สุดารัตน์" หนุนนายกฯ ใช้ความกล้าหาญเป็นผู้นำในการ เจรจา ยุติปัญหาชายแดน กับผู้นำกัมพูชาด้วยตัวเอง โดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ใกล้ชิดเป็นพิเศษกับผู้นำกัมพูชา เชื่อทำให้กลไกการเจรจามีประสิทธิภาพ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิด “สงคราม“ ซึ่งจะนำมาสู่ความสูญเสียต่อชีวิตทรัพย์สินของประชาชน และชีวิตของทหารกล้า โดยหวังว่าผู้นำจะเห็น “ประโยชน์ของประเทศชาติ เหนือผลประโยชน์ครอบครัว“
วันที่ 8 มิ.ย.68 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวในเวทีสัมมนา“ การสร้างการเมืองสุจริต เพื่อแก้วิกฤตชาติ” ให้สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ภาคกลาง ที่จังหวัดสมุทรปราการ ที่มีสมาชิกมาร่วมงานกว่า 500 คน ว่าการวางรากฐานทางการเมืองด้วย“ความสุจริต” คือหัวใจสำคัญของการนำพาประชาชน และประเทศชาติ ให้รอดพ้นวิกฤต ที่กำลังรุมล้อมประเทศไทย ทั้งด้านเศรษฐกิจและด้านความมั่นคง ดังนั้นพรรคไทยสร้างไทย จึงมุ่งมั่นที่จะ“สร้างการเมืองสุจริต”
หลังจากการสัมมนาผู้สื่อข่าวได้สอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ ได้กล่าวชื่นชมและให้กำลังใจกับกองทัพ ที่แสดงความมุ่งมั่นตั้งใจในการรักษาอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย อย่างเข้มแข็ง โดยได้ให้ความเห็นว่า การจะแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ได้อย่างสันติ “นายกฯ ต้องกล้าที่จะเป็นผู้นำในการ เจรจา ด้วยตัวเอง” เพื่อใช้กลไกของรัฐบาล และความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ลึกซึ้งกับผู้นำกัมพูชา ซึ่งจะทำให้การเจรจามีประสิทธิภาพ
คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่าในสถานการณ์ที่ประเทศไทยเผชิญความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะกรณีข้อพิพาทบริเวณชายแด ไทย-กัมพูชานั้น ผู้นำต้องจริงใจในการแก้วิกฤตชายแดน โดยคนไทยหวังว่า “ผู้นำจะยึดถือผลประโยชน์ของประเทศ เหนือผลประโยชน์ของครอบครัว”
คุณหญิงสุดารัตน์ เอาใจช่วย และอยากเห็นนายกแก้ปัญหาสำคัญนี้ืด้วยความ องอาจกล้าหาญ มีภาวะผู้นำ มีวิสัยทัศน์ และใช้ความสามารถอย่างเต็มที่
"ดิฉันเชื่อว่าถ้านายกฯ กล้า เป็นผู้นำในการ เจรจา ปัญหาข้อพิพาทกับกัมพูชา กับผู้นำกัมพูชาด้วยตัวเอง ปัญหาข้อพิพาทจะสามารถจบได้ จะเป็นการยุติปัญหา โดยที่ไม่ต้องนำประเทศไปเสี่ยงต่อการสูญเสียทั้งชีวิตของทหารกล้า และประชาชน รวมทั้งอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เชื่อว่าไม่มีใครในประเทศต้องการให้เกิดสงคราม ดังนั้นจะยุติปัญหานี้ได้นายกต้องแสดงภาวะผู้นำ แสดงความสามารถ ในการเจรจาเพื่อยุติปัญหา เพราะหน้าที่การเจรจาเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ขณะที่ฝ่ายกองทัพมีหน้าที่รักษาอธิปไตย
ดังนั้นถ้านายกฯ "กล้านำการเจรจาด้วยตัวเอง” ดิฉันเชื่อว่าจะ สามารถใช้กลไกของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะสามารถลดภาระของกองทัพไทย "ซึ่งกองทัพพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยไทยอย่างเต็มที่ แต่ถ้ายุตติได้ด้วยการเจรจาก็ย่อมดีกว่า การเกิดสงคราม"
คุณหญิงสุดารัตน์ ได้กล่าวด้วยว่า “ในยามที่ประเทศเจอภาวะวิกฤตทั้งทางด้านความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจ เป็นเวลาที่นายกต้องกล้าที่จะแสดงภาวะผู้นำ ดิฉันขอเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่าย แก้ไขปัญหาวิกฤตินี้ให้กับประชาชนและประเทศชาติได้สำเร็จ”