สถานกาณ์จุดผ่านแดนยังปกติ เปิดให้แรงงานและผู้ทำการค้าผ่านเข้าออกได้ ขณะกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน พื้นที่ใกล้แนวชายแดนตรวจสภาพความพร้อมหลุมหลบภัย หลังสถานการณ์ยังคลุมเครือ

วันที่ 8 มิ.ย.68 สถานการณ์ บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน และจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ต.คลองใหญ่ จ. จันทบุรี ช่วงเช้า ที่ผ่านมาพบว่าสถานการณ์ ผ่านแดนทั้ง 2 แห่ง ยังเป็นไปอย่างปกติ โดยยังพบมีแรงงานกัมพูชา ตลอดจนผู้ประกอบการค้า ยังคงเดินทางเข้า-ออกได้ รวมไปถึงรถบรรทุกสินค้า สามารถสัญจรผ่านเดินทางเข้าออกได้ตามปกติ

ด้าน นายไทยพิชิต ดวงตา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเทพนิมิต พาทีมกำนัน -ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน 5 หมู่บ้าน ที่ดูแลความสงบเรียบร้อย พื้นที่ชายแดนจันทบุรี กัมพูชา ด้าน ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ลงพื้นที่สำรวจความพร้อม ของหลุมหลบภัย 8 จุด ที่เคยสร้างไว้ เมื่อปี พ.ศ.2530 ที่ยังคงมีสภาพพร้อมใช้งาน 
ตามมาตรฐาน แข็งแรง แม่ก่อสร้างมานาน โดยแต่ละแห่งสามารถรองรับ พี่น้องประชาชน ได้ราว 60-80 คน ตั้งอยู่ใกล้แกล่งชุมชน จุดเสี่ยง บริเวณแนวชายแดน
มีความพร้อมใช้งาน หากเกิดวิกฤตสงคราม ขึ้นจริง โดยจุดหลุมหลบภัยบริเวณใกล้กับจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม นั้น เพิ่งจะได้รับการปรับปรุงเตรียมส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ กระทั่งถูกนำมาปรับใช้ ในสถานการณ์ปัจจุบันด้านนายสิทธินนท์ เชียรชีระสกุล กำนันตำบลเทพนิมิต เน้นย้ำว่า หลังมีประกาศคำสั่งจากกระทรวงมหาดไทย ให้จังหวัดพื้นที่ติดชายแดน ประเทศกัมพูชา เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ทั้งการอพยพ และหลุมหลบภัย

ขณะที่โดยผู้นำชุมชนในพื้นที่ ได้สื่อสารข้อมูล ให้กับพี่น้องประชาชน เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนซึ่งยังคงปกติดี ความสัมพันธ์ของพี่น้อง 2 ประเทศ ยังคงแน่นแฟ้น กำลังพลยังคงปฏิบัติหน้าที่รั้วของชาติ เฝ้าระวังสิ่งผิดกฎหมายตามปกติ โดยเน้นย้ำ ให้เชื่อมั่นในข้อมูลข่าวสารที่ออกจากทางราชการ ไตร่ตรอง และไม่ตื่นตระหนก โดย นายสิทธินนท์ เชียรชีระสกุล หรือกำนันกุุ้ง เล่าย้อนกลับไปในอดีต กรณีเกิดการสู้รบภายในประเทศเพื่อนบ้าน มีลูกกระสุนยิงตกเข้ามายังเขตประเทศไทย ชาวบ้านที่อาศัยพื้นที่ชายแดนตำบลเทพนิมิต เมื่อสมัย 30 ปี ที่ผ่านมา ต่างมีประสบการณ์ รับรู้ถึงรสชาติชีวิตที่ไม่สงบสุข จำเป็นต้องเรียนรู้และอยู่กับมันให้ได้ ชีวิตยังคงต้องดำเนินต่อไป 

แต่สิ่งสำคัญ คือลูกเมีย ครอบครัว ต้องปลอดภัย แม้อาชีพเกษตร การค้าขาย หยุดชะงัก ชาวบ้าน คนชายขอบต้องอยู่แบบเสี่ยงภัย ในทุกวัน นั่นคือประสบการณ์จากภัยสงคราม โดยยืนยันว่าความสัมพันธ์ระดับประเทศจะเดินต่อด้วยดี  เพราะการสู้รบไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใด สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน การยั่วยุ สร้างความเกลียดชัง ไม่ส่งผลดีใดๆเลย กับคนชายแดน โดยได้กล่าวทิ้งท้ายว่า คนชายแดนต่างก็รักและหวงแหนประเทศชาติ เช่นเดียวกับคนไทย ทุกคน แต่การรักประเทศไทย ต้องไม่ทำให้ประเทศไทย คนไทย เจ็บปวด