นายมานะ นิมิตมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เขียนบทความระบุว่า

“งานของผู้ใหญ่” ชั่วร้ายกว่าฮั้วประมูล

ชั่วร้ายกว่าฮั้วประมูลคือโครงการที่ถูกระบุว่าเป็น “งานของผู้ใหญ่” เพราะล็อกตัวผู้รับเหมาได้ หรือนำไปเร่ขายต่อเป็นทอดๆ ผ่าน “นายหน้า” เพื่อกินส่วนต่าง  3% – 10% ก็ได้ เรื่องแบบนี้ข้าราชการทำกันอยู่ทั้งที่รู้ว่าผิดกฎหมายและเป็นที่รับรู้ทั่วไปของคนค้าขายในวงการ

โดยทั่วไปผู้รับเหมาจะไม่ยุ่งกับงานที่เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นงานของผู้ใหญ่ และการเร่ขายงานเหล่านี้จะมีผู้รับเหมาซื้องานไปด้วยหวังจะได้กำไรงาม สุดท้ายเจ๊งเพราะต้นทุนสูงจากค่านายหน้าที่บวกๆ กันไว้ เป็นเหตุให้เกิดโครงการสร้างไม่เสร็จตามมา

ในที่นี้จะแยกพฤติกรรมหลักที่ทำให้เกิดงานของผู้ใหญ่ เป็น 3 กลุ่ม

กลุ่มแรก โครงการที่ข้าราชการนำไป “บรรณาการ” ให้นักการเมืองหรือคนมีสีตำแหน่งใหญ่ที่มีโอกาสให้คุณให้โทษแก่พวกตนได้ เพื่อเป็นการตอบแทนหรือผูกมิตรสร้างพันธสัญญาว่าจะให้การดูแล ช่วยเหลือหรือส่งข่าว หากมีเรื่องร้องเรียนหรือข่าวฉาวโฉ่ โควตานี้ผู้รับไปจะนำไปขายเองหรือให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้แล้วรอกินเปอร์เซ็นต์ก็ได้

พฤติกรรมเช่นนี้เห็นได้มากใน 5 กรมที่มีงบประมาณสร้างถนนและเขื่อนริมน้ำจำนวนมากในแต่ละปี เพราะเขาสามารถควบคุมผู้รับเหมาชั้นหนึ่งและชั้นพิเศษได้ง่าย

กลุ่มที่สอง งานที่นักการเมืองหรือข้าราชการตำแหน่งใหญ่ เป็นผู้ปลุกปั้นวางแผนโครงการ วิ่งงบ วิ่งขออนุมัติโครงการเอง โครงการมักถูกออกแบบให้รวบการจัดซื้อจัดจ้างเป็นก้อนใหญ่แม้จะแยกดำเนินการได้ เพื่อสะดวกและปลอดภัยในการเรียกรับสินบนก้อนโตจากเอกชนรายเดียวหรือน้อยราย ซึ่งมักเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องก่อสร้างในหลายจังหวัด หรือจัดซื้อแล้วจัดส่งกระจายไปให้หน่วยงานจำนวนมาก ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ คดีทุจริตก่อสร้างโรงพักตำรวจ 396 แห่งทั่วประเทศ ที่กำหนดให้ผู้รับเหมารายเดียวได้งานทั้งหมดไป ทั้งที่รู้ดีว่าเขาไม่มีทางทำได้แน่นอน ผู้รับเหมาย่อมต้องขายงานไปให้ผู้รับเหมาอื่นโดยปริยาย

กลุ่มที่สาม งานที่เอกชนวิ่งขายงานกันเอง แยกเป็นกรณีเอกชนที่ “ได้งานแล้ว” จึงเอางานไปเร่ขายงานเพื่อกินส่วนต่าง 5% – 10% รูปแบบนี้ผู้ซื้องานต้องทำงานในนามของผู้รับงานจากรัฐ (ผู้ขายงาน) หรือนอมินี อีกกรณีคือ เอกชน “ยังไม่ได้งาน” แต่ได้ตกลงกับผู้มีอำนาจในหน่วยงานรัฐแล้ว จึงเอาโควตานี้ออกเร่ขาย หากใครซื้องานไปก็ต้องมาร่วมกันวางแผนเขียนทีโออาร์เพื่อล็อกสเปก/ฮั้วประมูลต่อไป โดยผู้ซื้องานต้องจัดหาบริษัทคู่เทียบมาร่วมยื่นซองประมูลเอาเอง ในวงการเรียกงานพวกนี้ว่า “งานมีเจ้าของ”

บทสรุป..

วัฒนธรรมของคนโกงภายใต้ระบบอุปถัมภ์ – พวกพ้อง – ผู้มีอิทธิพล ทำให้ระบบราชการที่ไม่โปร่งใสอยู่แล้วเต็มไปด้วยคอร์รัปชัน คำว่า “งานของผู้ใหญ่ และ งานมีเจ้าของ” มิใช่เรื่องใหม่ที่รู้กันแค่คนสองคน แต่เป็นวัฒนธรรมโกงที่เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานและคนในวงการค้าขายต่างเข้าใจกันดี

หลายสิบปีที่ผ่านมาบ้านเมืองของเราถูกคอร์รัปชันกัดกินจนเละเทะ วันนี้ต้องหยุดคนโกงให้ได้ เรามาร่วมกัน “ต่อต้านคอร์รัปชัน สร้างจุดเปลี่ยนประเทศไทย” ด้วยกันครับ

#คอร์รัปชัน #อาคารทิ้งร้างสร้างไม่เสร็จ #หมาเฝ้าบ้าน #ACT #สตง #วัฒนธรรมของคนโกง