"สุริยะ-มนพร" เป็นตัวแทนฝ่ายไทย ร่วมกับรองนายกฯ สปป.ลาว ถือฤกษ์ดี ประกอบพิธีเทคอนกรีตเชื่อมสะพานระหว่างสองฝั่ง พร้อมลงนามความร่วมมือประกาศความพร้อมบริหารจัดการ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ พร้อมเปิดใช้งานปลายปี 2568 เพิ่มศักยภาพระบบคมนาคม ขนส่ง โลจิสติกส์ กระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยวชายแดนอีสาน  

วันที่ 6 มิ.ย.68 ที่โครงการก่อสร้าง สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ – บอลิคำไซ  นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ท่านสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นำข้าราชการ เจ้าหน้าเกี่ยวข้อง ตัวแทนประชาชน ทั้งสองฝั่งไทย ลาว   ร่วมพิธีเทคอนกรีตเชื่อมสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ – บอลิคำไซ  รวมถึงพิธีลงนามความตกลงว่าด้วยกรรมสิทธิ์ การใช้ การบริหาร และการบำรุงรักษาสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) ณ จังหวัดบึงกาฬ  เตรียมความพร้อมเพื่อเปิดใช้งาน ในปลายปี 2568 โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2564 งบประมาณ กว่า 3,900 ล้านบาท ระยะทางก่อสร้างประมาณ 1.5 กิโลเมตร ปัจจุบันมีความคืบหน้ากว่า 90 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน นี้ เตรียมเปิดให้ใช้บริการเต็มรูปแบบภายในเดือนธันวาคม 2568 โดยภายหลังจากการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 จะสนับสนุนให้มูลค่าการค้าชายแดนไทย - สปป.ลาว เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากขณะนี้มีมูลค่ากว่า 28,000 ล้านบาท โดยสะพานแห่งนี้จะเชื่อมต่อไปยังเส้นทางโลจิสติกส์สำคัญ รวมถึงท่าเรือน้ำลึกของเวียดนามอีกด้วย อีกทั้งยังประเมินว่าปริมาณการจราจรในบริเวณดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอีก 5 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี 

ดังนั้นสะพานแห่งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงร่วมกัน อีกทั้งสะพานแห่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งภายใต้ยุทธศาสตร์และแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย ยกระดับระบบโลจิสติกส์ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเป้าหมายในการสร้างรากฐานความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม ความปลอดภัยในการเดินทาง มุ่งเน้นการเชื่อมโยงและความคล่องตัวในการขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้านไปสู่ศูนย์กลางของภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ โครงการนี้ยังสอดรับกับกรอบความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาค ได้แก่ กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง

พร้อมกันนี้ประเทศไทยและ สปป.ลาว มีการเชื่อมโยงผ่านสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขงขนาดใหญ่แห่งแรก ระหว่างจังหวัดหนองคายและนครหลวงเวียงจันทน์ ในปี 2537 ต่อมาที่มุกดาหารและแขวงสะหวันนะเขต นครพนมและแขวงคำม่วน และอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงรายกับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว และในวันนี้เรากำลังจะเชื่อมสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 โดยเชื่อว่าการพัฒนาการเชื่อมโยงระหว่างประเทศยังมีการเติบโตพัฒนามากขึ้นแบบไม่หยุดยั้ง สำหรับในอนาคตอันใกล้ยังมีแผนจะดำเนินโครงการสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 6 เชื่อมจังหวัดอุบลราชธานีกับแขวงสาละวัน จะช่วยเติมเต็มโครงข่ายคมนาคมตามแนวระเบียงเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ถือเป็นสะพานแห่งมิตรภาพ ความหวัง และอนาคตร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศ ทั้งยังเป็นเส้นทางเชื่อมโยงความเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประชาชนชาวจังหวัดบึงกาฬและแขวงบอลิคำไซ ตลอดจนเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยและ สปป.ลาวให้มั่นคงสืบไป