วันที่ 6 มิ.ย. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังประชุมสภาความมั่นคงว่า วันนี้ได้พูดคุยกันบนหลักการที่ว่า เราจะต้องยึดมั่นในหลักการปกป้องอธิปไตยของประเทศ และดำรงความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด  ทั้งนี้เราได้พูดคุยกับทุกฝ่ายวันนี้หลักสำคัญมีสามด้านคือ ด้านการต่างประเทศ ด้านกองทัพและด้านการสื่อสาร ที่ได้มีการปรับให้ชัดเจนและมาร่วมกันทำงานให้มากขึ้น ในส่วนของกองทัพขอยืนยันว่า เราพร้อมรักษาเอกราชอธิปไตยของประเทศ และบูรณภาพแห่งดินแดนอันนี้เป็นเรื่องที่ชัดเจน ซึ่งได้คุยเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า เรื่องการสื่อสารได้ตกลงกันแล้วว่า กระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพหลัก โดยประสานให้โฆษกกระทรวงกลาโหม โฆษกกองทัพบก โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมทำงานร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดบรรยากาศที่จะทำให้การเจรจา หรือการหาข้อสรุปเกิดขึ้นยากลำบาก ขอยืนยันอีกครั้งว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เราได้ตกลงและเห็นพ้องต้องกันว่า เรื่องอธิปไตยเป็นเรื่องสำคัญหลักที่เราจะต้องดูแลกันอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่อง อื่นๆ เราจะประคองให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีและไม่เกิดการเสียประโยชน์ทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเรายังมีภาระความจำเป็นที่ต้องร่วมมือกันอีก ฉะนั้นความขัดแย้งอยากให้จำกัดวงมากที่สุด

ด้านนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อให้เกิดการบูรณาการร่วมกัน มีเอกภาพร่วมกัน ในส่วนของการต่างประเทศและการทหารต้องไปด้วยกันเป็นเนื้อเดียวกัน ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญ  เนื่องจากทั้งสองประเทศมีสัมพันธ์ที่ดีมาอย่างยาวนาน เพราะฉะนั้นเราเห็นพ้องกันว่า การเจรจากับฝ่ายกัมพูชา ต้องใช้กลไกที่เรามีอยู่ในปัจจุบันเป็นหลัก คือ ทวิภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นสิ่งที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันมาตั้งแต่ต้นคือ ใช้กลไกที่มีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น JBC RBC GBC เป็นกลไกหลักอยู่ในขณะนี้ และเป้าหมายการเจรจา

โดยเฉพาะยิ่งในวันที่ 14 มิ.ย.ที่จะเกิดขึ้นระหว่างคณะกรรมการร่วมของทั้งสองฝ่าย จะเน้นในเรื่องของจุดปะทะ เพื่อแก้ปัญหาการกระทบกระทั่งกัน เรื่องอื่นๆ เราจะยังไม่ให้ความสำคัญตอนนี้ เราจะพูดถึงการแก้ไขปัญหาในเรื่องที่มีการเผชิญหน้าและลดความตรึงเครียดในกรอบของกำลังทหารร่วมกันให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียก่อน แต่อย่างไรก็ตาม JBC มีหน้าที่อยู่แล้วที่จะเจรจาเรื่องเขตแดน เพราะ

ฉะนั้น จะดำเนินการไปพร้อมกัน แต่สำคัญคือ จะเป็นการพูดคุยเพื่อลดความรุนแรงและลดบรรยากาศที่จะมีการกระทบกระทั่งกันเป็นหลัก จึงขอเรียนว่าเราจะใช้กลไกที่มีอยู่แล้วคือ ทวิภาคีเป็นหลักก่อน 

นายมาริษ กล่าวว่า ในส่วนของการชี้แจง จะมีการประสานกลไกร่วมกัน ทั้งในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ กองทัพบก และกระทรวงกลาโหม เพื่อสื่อสารออกไปให้ประชาชนเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงในเรื่องของข่าวสาร ขอความกรุณาช่วยกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดยิ่งขึ้นไปมากกว่านี้ ขอยืนยันว่า การต่างประเทศและการทหารไปด้วยกันอย่างเป็นเนื้อเดียวกันแน่นอน