ทสจ.ระยองสนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุกตรวจพื้นที่ป่าสงวนฯ ระยอง หลังพบนายทุนลักลอบขุดดิน ปรับพื้นที่กว่า 10 ไร่ เร่งดำเนินคดีลากตัวคนผิดเข้าคุก

วันที่ 6 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณพื้นที่บ้านภูดร-ห้วยมะหาด ม.7 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง นายสิทธิชัย บรรพต ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด มอบหมายให้ นายจักรกฤษณ์ นิตรมร ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง สำนักงานที่ดินจังหวัด อำเภอบ้านฉาง ธนารักษ์พื้นที่ระยอง กอ.รมน.จังหวัดระยอง หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รย.2 (บ้านค่าย) เทศบาลตำบลบ้านฉาง อุตสาหกรรมจังหวัด กำนันในพื้นที่ และเครือข่าย ทสม. จังหวัดระยอง

ลงพื้นที่ตรวจสอบตรวจสอบข้อเท็จจริงการบุกรุกแผ้วถางป่า หลังได้รับแจ้งจากภาคประชาชนและเครือข่ายทางโซเชียลมีเดียว่า มีผู้ลักลอบเข้าไปขุดดินและปรับพื้นที่อย่างผิดกฎหมายภายใน เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยมะหาด ป่าเขาครอก และเขานั่งยอง


เมื่อเจ้าหน้าที่ถึงจุดเกิดเหตุ พบสภาพพื้นที่ที่น่าตกใจ ผืนป่าถูกแผ้วถางจนโล่งเตียน บางจุดมีร่องรอยการใช้เครื่องจักรหนักขุดดินลึกเป็นแอ่งกว้าง หลักฐานชัดเจนว่ามีการขุดลอกพื้นที่เพื่อเตรียมใช้ประโยชน์ผิดกฎหมาย คาดว่ากลุ่มผู้บุกรุกกระทำการต่อเนื่องมาแล้วหลายวันโดยไม่มีผู้ใดแจ้งหรือเข้าไปห้ามปราม

จากการตรวจวัดโดยละเอียด พบว่าพื้นที่ที่ถูกบุกรุกมีขนาดรวม 10 ไร่ 2 งาน 13 ตารางวา ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าที่อยู่ระหว่างการจัดทำโครงการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับราษฎรตามนโยบายของรัฐ และยังไม่ได้รับการอนุญาตให้ดำเนินการแต่อย่างใด

หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รย.2 (บ้านค่าย) ได้ทำการตรวจยึดพื้นที่ พร้อมบันทึกภาพถ่ายพิกัด GPS และเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมถึงร่องรอยการใช้รถแบ็กโฮ และเศษวัสดุก่อสร้างบางส่วน ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรบ้านฉาง เพื่อเร่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้บุกรุก โดยเบื้องต้นอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด

นายจักรกฤษณ์ เปิดเผยว่า “การกระทำในครั้งนี้ถือเป็นการละเมิดกฎหมายอย่างร้ายแรง เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ต้องได้รับการอนุรักษ์และคุ้มครอง การบุกรุก ขุดลอก หรือแผ้วถางโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มีโทษทั้งจำและปรับ”

ด้านนายสิทธิชัย บรรพต ผู้อำนวยการ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ระยอง ฝากเตือนถึงผู้ที่มีความคิดจะบุกรุกป่าเพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตัวว่า “ขอให้หยุดการกระทำเช่นนี้โดยเด็ดขาด เจ้าหน้าที่จะเร่งติดตาม ตรวจสอบ และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นประชาชนทั่วไป หรือผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ หากมีความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม”

ทั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้เคยมีคนแปลกหน้าเข้า-ออกบริเวณดังกล่าวบ่อยครั้ง แต่ไม่มีใครกล้าแจ้งความ เพราะเกรงจะมีเบื้องหลังเกี่ยวพันกับผู้มีอิทธิพล ขณะเดียวกัน บางคนสงสัยว่าอาจมีการเตรียมใช้พื้นที่ทำโครงการลักลอบก่อสร้างหรือถมดินเพื่อขายต่อ เพราะบริเวณดังกล่าวอยู่ไม่ไกลจากเขตชุมชนและนิคมอุตสาหกรรม

เหตุการณ์นี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสะท้อนปัญหาการบุกรุกป่าอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีมูลค่าที่ดินสูง หรือมีการพัฒนาโครงการเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกลักลอบใช้ประโยชน์

เจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนขยายผล และติดตามจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังการบุกรุกในครั้งนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกันได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติรอบจังหวัดระยอง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีกต่อไป