ปส.กวาดล้างครั้งใหญ่! ยึดยาบ้า-ไอซ์ ทะลักกว่า 7 ล้านเม็ด ไอซ์ 1 ตัน เครือข่ายสั่นสะเทือนทั่วประเทศ
วันที่ 6 มิ.ย.68 ที่ บช.ปส.ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร.(ปป) และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รอง ผบช.ปส., ผบก.ปส.1 - 4, ผบก.สกส. และ ผบก.ขส. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุม และขยายผลเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่และรายย่อย ทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย รวมทั้งการขยายผลไปสู่การจับกุมเครือข่ายที่ยังหลบหนี และยึดทรัพย์ผู้ที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือทุกราย
พล.ต.ท.สันติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดย นายกรัฐมนตรี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร แถลงต่อรัฐสภาว่า ปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วน ที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติด อย่างเด็ดขาด ครบวงจร ตัดต้นตอการผลิตและจําหน่าย เน้นการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการสกัดกั้นลําเลียงยาเสพติด ปราบปรามและยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสำคัญ และข้อสั่งการของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่เน้นการปราบปรามแหล่งพักยาเสพติดในพื้นที่ภาคกลางที่จะส่งมายังกรุงเทพมหานคร ประกอบกับนโยบาย ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ซึ่งกําชับการปราบปรามยาเสพติด อย่างเร่งด่วน
วันนี้ (วันที่ 6 มิ.ย.68 ) บช.ปส. ได้บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร, นบ.ยส.35 และ ป.ป.ส., พลตรีฉกาจ ขันตี ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญของ บช.ปส. จำนวน 5 คดี ผู้ต้องหา 7 คน รถยนต์ของกลาง 7 คัน ของกลางยาเสพติดคือยาบ้า 7,810,000 เม็ด และไอซ์ 1,000 กิโลกรัม ดังนี้ บก.สกส. 1.คดี ยาบ้า 2,000,000 เม็ด ผู้นำเสนอ พ.ต.อ.มงคล ออมทรัพย์ ผกก.3 บก.สกส.

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 05.00-11.30 น. บก.สกส.บช.ปส., ภ.6 และเจ้าหน้าที่ทหาร นบ.ยส.35, นปส.ขทก.ศปก.ทบ. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 2,000,000 เม็ด สืบเนื่องจาก กก.3 บก.สกส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีนายเต๋ง กับพวกมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติด ใช้รถยนต์สีขาว หมายเลขทะเบียน บม xxxx พะเยา และรถยนต์ สีเทา หมายเลขทะเบียน ชส xxxx กรุงเทพ ในการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ ในพื้นที่ อ.เทิง จว.เชียงราย และจะนำมาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จว.เพชรบูรณ์ และพื้นที่ใกล้เคียง ใช้เส้นทางจาก อ.เทิง จว.เชียงราย - จว.พะเยา - จว.แพร่ - จว.อุตรดิตถ์ - จว.พิษณุโลก ปลายทาง จว.เพชรบูรณ์ จึงเฝ้าสืบสวนเรื่อยมา จนกระทั่งวันที่ 23 พ.ค.68 พบความเคลื่อนไหวรถยนต์กลุ่มดังกล่าวในพื้นที่ จว.อุตรดิตถ์ จึงจัดชุดสะกดรอยติดตาม จนมาถึง อ.วังทอง จว.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงตัวเข้าสกัดกั้นรถยนต์ทั้ง 2 คัน รถยนต์หมายเลขทะเบียน ชส xxxx กรุงเทพฯ พบนายเต๋ง และ น.ส.ปาณิสรา อยู่ภายในรถ ส่วนรถยนต์หมายเลขทะเบียน บน xxxx พะเยา เร่งความเร็วเฉี่ยวชนกับรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เลยเสียหลักลงข้างทางแต่ผู้ขับขี่หลบหนีไปได้ ตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า 2 ล้านเม็ด
ต่อมาสามารถขยายผลตามจับกุมนายประเสริฐ ที่วิ่งหลบหนี ได้บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสาร จว.พิษณุโลก จึงแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลทั้ง 3 และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งให้ พงส.ดำเนินการตามกฎหมาย
คดีที่สอง เมื่อวันที่ 29 พ.ค.68 เวลาประมาณ 14.20 น. บก.สกส.และ เจ้าหน้าที่ทหาร ขกท.ศปก.ทบ. ร่วมกันทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลางยาบ้า 4,570,000 เม็ด สืบเนื่องจาก กก.3 บก.สกส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่าพบกลุ่มนายณัฐกิตติ์ กับพวกมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ ด้าน จว.เชียงใหม่ มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง ใช้รถยนต์หมายเลขทะเบียน 3ฒฐ xxxx กทม. และรถยนต์ หมายเลขทะเบียน 5กฎ xxxx กทม. ในการลำเลียง โดยใช้เส้นทางจาก จว.เชียงใหม่ - จว.ลำพูน-สุโขทัย-กำแพงเพชร-จว.นครสวรรค์ เข้าสู่พื้นที่ชั้นในต่อไป จึงติดตามสืบสวนเรื่อยมา จนกระทั่งวันที่ 29 พ.ค.2568 พบความเคลื่อนไหวของรถยนต์กลุ่มดังกล่าวในพื้นที่ อ.พรานกระต่าย จว.กำแพงเพชร จึงจัดชุดสะกดรอยติดตาม จากการสังเกตทั้ง 2 คัน ทิ้งระยะห่างกันประมาณ 4-5 กม. จนถึงบริเวณถนนหมายเลข 122 (ถนนเลี่ยงเมืองนครสวรรค์) ต.ตะเคียนเลื่อน อ.เมืองนครสวรรค์ จว.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าสกัดกั้นรถยนต์หมายเลขทะเบียน 3ฒฐ xxxx กทม. พบนายณัฐกิตติ์ เป็นผู้ขับขี่ และชายไม่ทราบชื่อ(หลบหนีจับกุม) นั่งโดยสารคู่กับผู้ขับขี่ ตรวจสอบภายในรถพบยา 4,570,000 เม็ด ส่วนรถยนต์หมายเลขทะเบียน 5กฎ xxxx กทม.สามารถสกัดได้บริเวณริมถนนหมายเลข 3005 ต.ตะเคียนเลื่อน อ.เมืองนครสวรรค์ จว.นครสวรรค์ โดยมีนายทวีศักดิ์ เป็นผู้ขับขี่ จึงแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลทั้ง 2 ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่สามเมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลาประมาณ 15.00 น. บก.สกส. และ บก.ขส.บช.ปส. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 1 คน พร้อมของกลางยาบ้า 1,000,000 เม็ด สืบเนื่องจาก กก.4 บก.สกส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดลักลอบลำเลียงยาเสพติดจาก จ.สระบุรี ใช้รถยนต์ทะเบียน ผผ xxxx สุราษฎร์ธานี ในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดไปที่ จว.สุราษฎร์ธานี โดยใช้เส้นทางลงมาตามถนนสายเอเชีย 41 ขาล่องใต้ จึงได้วางกำลังตามรายทางเพื่อสังเกตรถยนต์คันดังกล่าว จนเวลาประมาณ 14.50 น.พบรถยนต์คันดังกล่าวจึงได้ทำการติดตาม จนถึงบริเวณถนนสายเอเชีย 41 ขาล่องใต้ ม.3 ต.ท่าฉาง อ.ท่าฉาง จว.สุราษฎร์ธานี จึงได้แสดงตัว และเข้าควบคุมรถยนต์คันดังกล่าว จากการตรวจสอบพบนายสิทธิศักดิ์ฯ เป็นผู้ขับขี่ ตรวจสอบภายในรถพบยาบ้า 1,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในตู้ทึบ จึงแจ้งข้อกล่าวและสิทธิให้ทราบ ก่อนจะนำตัวพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งให้ พงส.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
คดีที่สี่ วันที่ 2-3 มิ.ย.68 บก.สกส.ร่วมกับ บก.ปส.4 ตรวจยึดยาบ้า 240,000 เม็ด สืบเนื่องจาก กก.1 บก.สกส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไปยังพื้นที่ภาคใต้ โดยใช้การลำเลียงทางบริษัทขนส่งเอกชน ในพื้นที่เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร จึงเข้าประสานบริษัทดังกล่าว เพื่อตรวจสอบข้อมูลการรับส่งพัสดุ ที่มีปลายทางไป อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา ผลการตรวจสอบพบว่ามีพัสดุที่มีปลายทางไป อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา จำนวนหนึ่ง แต่พบกล่องน่าสงสัยจำนวน 2 กล่อง ซึ่งปรากฏชื่อผู้รับปลายทางตามที่สายลับแจ้ง จึงขอตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกล่องทั้ง 2 กล่องๆ ละประมาณ 100,000 เม็ด รวมยาบ้าประมาณ 200,000 เม็ด จึงได้ร่วมกันตรวจยึด และดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมตัวผู้รับยาเสพติด ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา ตามที่อยู่ที่ให้ไว้ ต่อมาเวลาประมาณ 09.15 น. (3 มิ.ย.68) ได้นำกล่องพัสดุทั้งสองกล่องไปวางไว้ที่หน้าบ้านเลขที่ 80/17 หมู่ 5 ถนนประชาชื่นใจ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา พร้อมโทรแจ้งเบอร์ที่ให้ไว้ ต่อมาสังเกตเห็นมีคนมายกกล่องพัสดุทั้ง 2 กล่อง เข้าบ้านเลขที่ดังกล่าว จึงเข้าทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบไม่พบบุคคลอยู่ภายในบ้าน พบเพียงกล่องพัสดุที่มี ยาเสพติดจำนวน 2 กล่อง จากการตรวจค้นรอบบริเวณบ้านพบยาบ้า เพิ่มจำนวนประมาณ 40,000 เม็ด จึงทำการตรวจยึด และนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ห้า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.68 นปส.เชียงใหม่ กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกับ นบ.ยส.35 และหน่วยงานในพื้นที่จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 คน พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง บริเวณถนนหมายเลข 107 ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่ ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปส.เชียงใหม่ กก.2 บก.ปส.3 สืบสวนทราบว่า เครือข่ายผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดกลุ่มชาติพันธุ์ลีซอ จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดน อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่ เพื่อนำส่งให้กับเครือข่ายในพื้นที่ตอนในของประเทศ จึงได้เฝ้าระวัง กระทั่งวันที่ 1 มิ.ย.68 พบความเคลื่อนไหวรถกระบะกลุ่มบุคคล ในเครือข่าย โดยท้ายกระบะบรรทุกสิ่งของลักษณะมีน้ำหนักมาก ปิดคลุมด้วยผ้าใบสีฟ้าขาว แล่นออกจากหมู่บ้าน ห้วยราชบุตร ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มุ่งหน้าเข้า อ.แม่ริม จว.เชียงใหม่ เมื่อถึงถนนหมายเลข 107 เขตพื้นที่ ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัวขับรถยนต์เข้าสกัด ตรวจสอบรถกระบะพบผู้ต้องหาจำนวน 1 คน พร้อมของกลางไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม อยู่บริเวณท้ายกระบะ จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนฯ บก.ปส.3 เพื่อดำเนินคดี
ปฏิบัติการปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เป็นไปตามข้อสั่งการของ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้มอบนโยบายให้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ดำเนินการปราบปรามอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง การดำเนินการดังกล่าว มุ่งเน้นการกดดันและทำลายเครือข่ายยาเสพติดทั้งในระดับผู้ค้ายารายใหญ่ และรายย่อย ตลอดจนเร่งรัดขยายผลไปยังกลุ่มผู้ให้การสนับสนุน รวมถึงเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้อง และจากสถิติผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม 2567 ถึง ปัจจุบัน ทั่วประเทศสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดได้จำนวนทั้งสิ้น 169,068 ราย ตรวจยึดของกลางยาเสพติดเป็นยาบ้า จำนวน 663,117,549 เม็ด, ไอซ์ 35,781.06 กิโลกรัม, เฮโรอีน 1,009.86 กิโลกรัม, คีตามีน 5,101.52 กิโลกรัม และยาอีจำนวน 273,221 เม็ด รวมทั้งสามารถดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดได้รวมมูลค่ากว่า 9,368,811,113 บาท
สำหรับการปราบปรามยาเสพติดของ บช.ปส. ตั้งแต่ 1 ต.ค.67 - ปัจจุบัน สามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดทุกคดีได้ 810 คดี ผู้ต้องหา 798 คน ของกลางยาเสพติด คือ ยาบ้า 211,119,475 เม็ด, ไอซ์ 17,621.22 กก., เฮโรอีน 317.22 กก., คีตามีน 950.74 กก. ยาอี 614 เม็ด โคเคน 16.21 กก. และยึดอายัดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติด 4,009,987,243 บาท





