ศิลปะมวยไทยได้โอกาสแสดงในอัฒจันทร์โรมันครั้งแรกในรอบ 2,000 ปี ฉลองมิตรภาพไทย-อิตาลี 157 ปี ท่ามกลางเหล่านักกีฬามวยไทยนานาชาติจากทั่วโลกกว่า 1,000 คน พร้อมชื่นชมประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่กว่า 2 ศตวรรษ ของ “เวโรนา อารีนา” (Arena de Verona) อัฒจันทร์โบราณที่เคยใช้เป็นเวทีต่อสู้ของเหล่านักรบกลาดิเอเตอร์ (Gladiators) ในอดีต เพื่อเปิดงานเทศกาลมวยไทยนานาชาติ “อะเมซิ่งมวยไทยเวิลด์เฟสติวัล 2025” 

วันที่ 4 มิถุนายน 2568 ที่สำนักงานสภามวยมวยโลก มวยไทย กรุงเทพฯ มีการแถลงข่าวการจัดงาน “อะเมซิ่งมวยไทยเวิลด์เฟสติวัล 2025” (Amazing Muaythai World Festival 2025) ซึ่งจัดโดย สภามวยโลก มวยไทย (WBC MuayThai) ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย, คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดย พล.ต.ธนพล ภักดีภูมิ ประธานสภามวยโลกมวยไทย พร้อมด้วย ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี (H.E. Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย, นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา,นายไพรัชช์ ทุมเสน Director of Events Planner Division การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ มร.เควิน นูน เลขาธิการสภามวยโลกมวยไทย เพื่อส่งเสริมมวยไทยเพื่อการท่องเที่ยวเชิงกีฬาและวัฒนธรรม ระหว่าง สาธารณรัฐอิตาลีและราชอาณาจักรไทย พร้อมเปิดตัวนักมวยเยาวชนทีมไทยแลนด์สู้ศึกครั้งนี้ โดยมี ม.กรุงเทพธนบุรี ร่วมมอบทุนการศึกษาเป็นรางวัลอัดฉีดให้แก่นักกีฬาด้วย 

พล.ต.ธนพล กล่าวว่า “อะเมซิ่งมวยไทยเวิลด์เฟสติวัล” ได้จัดต่อเนื่องกันมา 4 ปีแล้ว โดยในปีนี้จะจัดขึ้นที่เมืองเวโรนา ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 25-29 มิ.ย.68 ซึ่งได้เตรียมงานกันมาเกือบ 2 ปี โดยได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ครั้งนี้มีคนลงทะเบียนเข้าร่วมงานกว่า 1,600 คน ซึ่งรูปแบบการแข่งขันเป็นกติกามวยไทยตามที่การกีฬาแห่งประเทศไทยให้การรับรอง ซึ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย มีอุปกรณ์ป้องกันตามมาตรฐานสากล ส่งเสริมเรื่องน้ำใจนักกีฬา และการเผยแพร่มวยไทยที่ถูกต้อง โดยงานนี้นอกจากการแข่งขันมวยไทยแล้ว ยังมีการอบรมผู้ตัดสินมวยไทย การสาธิตมวยโบราณ และเปิดอบรมคลินิกมวยไทยโดยนักมวยที่มีชื่อเสียงให้แก่ผู้สนใจอีกด้วย และที่พิเศษในครั้งนี้คือ ทางสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำอิตาลี และทีมไทยแลนด์ประเทศอิตาลี ได้มาร่วมจัดงาน Thai Village ณ บริเวณสนามแข่งขัน AGSM Arena ในห้วงการแข่งขันด้วย ซึ่งจะมีทั้ง การแสดงวัฒนธรรมไทย, นิทรรศการผ้าไหมไทย, บริการนวดแผนไทย และการออกร้านอาหารไทย ซึ่งจะช่วยให้ อะเมซิ่งมวยไทยเวิลด์เฟสติวัล ในครั้งนี้ เป็นงานเทศกาลที่จะช่วย เสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทย และส่งเสริมมวยไทยเพื่อการท่องเที่ยว ช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศอย่างยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน

ฯพณฯ เปาโล กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอิตาลี กำลังจะครบรอบ 157 ปี ในเดือน ส.ค.นี้ ทั้งด้านวัฒนธรรม อาหาร เครื่องดื่ม การแสดง และศิลปะการต่อสู้ จึงมีความยินดีอย่างมากที่ได้ส่งเสริมงานนี้ ซึ่งยืนยันพร้อมแล้วสำหรับสังเวียน “เวโรนา อารีนา” เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในพิธีเปิดงาน “อะเมซิ่งมวยไทยเวิลด์เฟสติวัล 2025” เชื่อว่าจะสร้างความประทับใจให้แก่ทุกคนเป็นอย่างดีเยี่ยม

 

นายไพรัชช์ กล่าวว่า ททท.ทำMOUกับWBCมวยไทย ตั้งแต่ปี 2022 นี่เป็นอีกครั้งที่เราจะทำงานร่วมกันภายใต้ข้อตกลงที่กำหนดไว้ โดยในส่วนนี้จะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ดีของประเทศไทย ที่จะสร้างการเรียนรู้ให้กับนักมวยเยาวชนทั่วโลกที่บางส่วนเดินทางเข้ามาเรียนมวยในประเทศไทย เพื่อเตรียมตัวไปแข่งขันในอิตาลี”

ด้าน รศ.(พิเศษ) ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง สมาชิกผู้แทนราษฎร ในงานนี้ได้มอบทุนการศึกษาระดับปริญญาโทให้กับ สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง และ ระดับปริญญาตรี ให้กับ ธนัญชัย ศิษย์สองพี่น้อง ในฐานะ “ผู้ฝึกสอนทีม WBC มวยไทย ไทยแลนด์” และนักมวยที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติโดยกล่าวว่า “ทาง ม.กรุงเทพธนบุรี มีความยินดีอย่างยิ่งที่จะมอบทุนการศึกษาให้แก่นักกีฬาที่ไปสู้ศึกที่อิตาลีในครั้งนี้ เพื่อช่วยส่งเสริมและมอบโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนไทย โดยเฉพาะนักกีฬามวยไทยที่จะเป็นอนาคตของวงการมวยไทยต่อไป ให้มีความพร้อมทั้งทักษะทางกีฬาและการศึกษาไปอย่างควบคู่กัน 

สำหรับนักมวยเยาวชนไทยที่สู้ศึกครั้งนี้มี 8 คน ประกอบด้วย ธานีจูเนียร์ ช.ไทยเศรษฐ์, ขวัญข้าว ลูกพ่อเสือ, เพชรแท้ เกียรติบุรินท์, ฐานทัพ อัครเทวา, เจริญลาภ ส.ทะแกล้วพันธุ์, เพชรมรกต โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว, เอกพยัคฆ์ ศ.พลับพลานารายณ์, ตะวันฉาย ส.ศิริลักษณ์ โดยมี สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง เป็นกัปตันทีม , อ.มนต์ฤทธิ์ ศิษย์สองพี่น้อง เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน