ผู้ช่วยรัฐมนตรี อว. ลงพื้นที่มหาสารคาม ชู "นวัตกรรมเกษตรมูลค่าสูง" ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงฯ ลงพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เพื่อติดตามการขับเคลื่อนงานด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) โดยมี นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นำผู้บริหารหน่วยงานในสังกัด อว. หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด อาจารย์ บุคลากร นิสิต และประชาชนในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับ ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมเกษตรมูลค่าสูง”
กิจกรรมในวันนี้เริ่มต้นด้วยการเยี่ยมชมบูธนิทรรศการจัดแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่น่าสนใจ จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม 17 ผลงาน มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม 5 ผลงาน และหน่วยงานภาคีเครือข่ายของกระทรวง อว. 3 ผลงาน รวมถึงหน่วยให้บริการสุขภาพประชาชน และกิจกรรม Workshop สาธิตการทอผ้าด้วยกี่เล็ก ที่สะท้อนถึงศักยภาพและองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมของจังหวัดมหาสารคาม
จากนั้น นายศุภชัย ใจสมุทร ได้ขึ้นเวทีเพื่อเปิดงาน ณ ศูนย์ประชุมเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้กล่าวสรุปผลการดำเนินงานด้านการวิจัยและนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยมหาสารคามและภาคีเครือข่าย พร้อมทั้ง ศาสตราจารย์ ดร.ไพโรจน์ ประมวล รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ได้นำเสนอผลการขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์ร่วมกับจังหวัด และการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยตามนโยบายกระทรวง อว.
นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เน้นย้ำ นโยบายในการขับเคลื่อนงานด้าน อววน. โดยมีใจความสำคัญคือ การนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ไปพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติอย่างเป็นรูปธรรม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในภาคการเกษตร ซึ่งเป็นฐานเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดมหาสารคาม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ในการบูรณาการองค์ความรู้และทรัพยากร เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุดในการพัฒนาประเทศ
นายศุภชัย ใจสมุทร กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวง อว. มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยเป็นมากกว่าแค่แหล่งเรียนรู้ แต่เป็น "กลไกสำคัญ" ในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยเฉพาะในระดับภูมิภาค มหาวิทยาลัยจะต้องเป็นศูนย์กลางของการสร้างสรรค์นวัตกรรม การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการบริการวิชาการที่ตอบโจทย์ความต้องการของพื้นที่อย่างแท้จริง เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยและนวัตกรรมได้อย่างทั่วถึง และนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
จากนั้นในช่วงบ่าย คณะผู้ช่วยรัฐมนตรี อว. ได้ลงพื้นที่ไปยัง ศูนย์เกษตรเพาะเลี้ยงเนื้อเยี่อพันธุ์พืช อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม เพื่อติดตามการดำเนินงานและการรายงานผล ร่วมกับผู้บริหารท้องถิ่น ผู้บริหารอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 ผู้บริหารอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และผู้ประกอบการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช โดย ผู้ช่วยรัฐมนตรี อว.ได้ร่วมเสวนาและให้ทิศทาง อว.กับการฟื้นฟู เศรษฐกิจฐานราก ให้แก่เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนด้วยวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม พร้อมเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชและโรงอนุบาลต้นอ่อน ก่อนเดินทางกลับ