นายอำเภอนครชัยศรี ฟันฟาร์มไก่ 2 ฟันไร่ ส่งกลิ่น ฝุ่น กระจาย ทั่วพื้นที่​ ผงะชาวบ้าน ทนนั่งกินข้าวเคล้ากองทัพแมลงรอบจาน นานกว่า 20 สิบปี​ ชาวบ้านหลายสิบคน ควงผู้นำชุมชน ร้องเรียน หลังฟาร์มเลี้ยงไก่ 2 พันกว่าไร่ ปล่อยฝุ่นละออง และส่งกลิ่นเหม็น โดยชาวบ้านต้องกินข้าวนั่งมองซากแมลงวันนับพันที่ดักไว้รอบวงข้าว ทำจิตตกกินข้าวแทบไม่ลง ซึ่งทนมานานกว่า 20 ปี โดย นายอำเภอนครชัยศรีสั่งฟันเร่งจับไก่และปิดโรงเรือน ขนาดกว้าง 2 ตำบล และให้เร่งแก้ไขเนื่องจากมีสภาวะ ฝุ่นละออง PM2.5 เกินค่ามาตรฐานในพื้นที่ หากแก้ไม่ได้จ่อฟันยึดใบอนุญาต วันนี้ (25มกราคม 62)​ที่ห้องประชุม ที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี ได้มีชาวบ้าน ผู้นำชุมชนในหลายตำบลในเขตอำเภอนครชัยศรี กว่า 40 คน ได้เดินทางเข้าพบ นายชาญวิทย์ ศุภกิจจานุสรณ์ นายอำเภอนครชัยศรี เพื่อเข้าร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาฝุ่นและกลิ่น รวมถึงแมลงวัน ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน 4 ตำบลในเขตอำเภอนครชัยศรี โดยเกิดจาก ฟาร์มเลี้ยงไก่และเป็ด ของบริษัทแหลมทองอุตสาหกรรมจำกัด ซึ่งมีบริษัทนครชัยศรีฟาร์ม จำกัดและฟาร์มเมืองทอง ที่เป็นบริษัทลูกผลิตป้อนให้ ซึ่งความเดือดร้อนได้แพร่กระจายไปในพื้นมหาศาล และยังมีสถานการณ์ของค่าฝุ่นละออง PM2.5 ที่จังหวัดนครปฐมยังเป็นพื้นที่มีค่าเกินมาตรฐาน ทำให้ชาวบ้านต่างวิตกเนื่องจากมีเด็กและชาวบ้านหลายคนได้เกิดอาการภูมิแพ้กำเริบ มีอารการป่วยต่อเนื่อง โดยเป็นปัญหาที่สะสมมานานหลายปี และยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ในที่ประชุม นายชาญวิทย์ ศุภกิจจานุสรณ์ นายอำเภอนครชัยศรี ได้เชิญ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่นเจ้าหน้าที่ทหารจากกองร้อยรักษาความสงบ อำเภอนครชัยศรี กรมการสัตว์ทหารบก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี สำนักปศุสัตว์อำเภอนครชัยศรี ตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำบลสัมปทวน ตำบล ตำบลนครชัยศรี ตำบลไทยยาวาส และชาวบ้าน พร้อมด้วย ตัวแทนของบริษัทแหลมทองอุตสาหกรรมจำกัด เพื่อหาทางออกร่วมกันซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนที่เกิดกับสภาวะสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างและมีชาวบ้านเดือดร้อนหลายพันครัวเรือน โดยพบว่า บริษัทนครชัยศรีฟาร์ม จำกัด เป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ ขนาดใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่กว่า 2 พันไร่เศษ มีเนื้อที่กว้างถึง 3 ตำบล ประกอบด้วยตำบลสัมปทวน ตำบลศรีมหาโพธิ์ ตำบลแหลมบัว มีการเลี้ยงไก่ กว่า 1.7 ล้านตัว และมีโรงเรือนกว่า 107 โรงเรือนขนาดใหญ่ และได้ประกอบการมาในพื้นที่อำเภอนครชัยศรีมากว่า 30 ปี และตั้งแต่มีการดำเนินการได้เริ่มก่อสร้างก็สร้างปัญหากลิ่น ฝุ่นและแมลงวัน ที่ออกมาสร้างความเดือดร้อนมากขึ้น โดยในช่วง 5 ปีหลัง นั้นมีการสร้างปัญหาเรื่องกลิ่นมากขึ้น รวมถึงฝุ่นจากตัวลูกไก่ อาหารและพื้นที่การเลี้ยง ซึ่งชาวบ้านเคยมีการร้องเรียนมาหลายปีแต่ยังไม่มีการดำเนินการที่ชัดเจน ซึ่งนายเดชา สายชู ผู้จัดการบริษัทแหลมทองอุตสาหกรรม จำกัด ได้เดินทางมาชี้แจงถึงการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยในเรื่องของแมลงวันได้รับการแจ้งจากชุมขนเมื่อปี 58 ซึ่งได้ดำเนินการกั้นแสลนรอบโรงงาน ปลูกต้นไผ่ทำกำแพงกั้น ออกไปพบชุมชนโดยการยาและแผ่นกาวให้กับชาวบ้าน ซึ่งได้มีการกำชับเรื่องกลิ่นก็ได้พยายามแก้ไข ซึ่งที่ฟาร์มเลี้ยงเป็นไก่ที่เลี้ยงเกิน 45 วัน คือราว 55 วัน ทำให้ไก่กินเยอะและมีมูลเยอะโดยได้วางแนวการแก้ไขระยะยาว คือควบคุมการเลี้ยงไก่ไม่ให้เกิน 45 วันการลดจำนวนไก่ลง 15 เปอเซ็นต์และมีการใช้สารลดกลิ่นในอาหารสัตว์ และการใช้โปรตีนในอาหารสัตว์ย่อยง่ายไป และเพิ่มพื้นที่ป่ารอบฟาร์ม ส่วนโรงเรือนจากระบบปิดที่เป็นระบบดูดอาการและการสเปรย์น้ำมาดักฝุ่นและกลิ่นคาดว่าจะทำให้เร็วที่สุด และทำให้ได้ใน 1 ปี จากนั้นได้ ประชุม นายชาญวิทย์ ศุภกิจจานุสรณ์ นายอำเภอนครชัยศรี ได้สรุปผลคือการสั่งให้ลดจำนวนการเลี้ยงลงจาก 1.7 ล้าน เหลือ 8 แสนตัวก่อนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ และสั่งหยุดการเลี้ยงโรงที่จับไก่ออกไปเพื่อแก้ไขระบบให้พร้อมทั้งหมด จึงค่อยทำการเลี้ยง หากพบว่าแก้ไขไม่ได้ก็ต้องมีการเพิกถอนใบอนุญาต ต่อไป นายชาญวิทย์ ศุภกิจจานุสรณ์ นายอำเภอนครชัยศรี กล่าวว่า ในวันนี้ได้รับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม โดยเร่งด่วนเนื่องจากปัญหานี้เป็นเรื่องของกลิ่นและฝุ่นที่เกิดในพื้นที่ซึ่งช่วงนี้ในจังหวัดนครปฐมมีการการะจายของฝุ่นละออง PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน จุดนี้จึงต้องมีการใช้มาตรการเด็ดขาดและชัดเจนและต้องจบให้เร็วที่สุด โดยตัวโรงเรือนที่ต้องยุติเร่งด่วนคือแนวชายตำบลสัมปทวน และตำบลแหลมบัว ซึ่งติดกับชุมชนเป็นหลัก และก่อนหน้าผู้บริหารกไม่เคยลงมาแก่ปัญหามาตั้งแต่เคย MOU ตั้งแต่ปี 58 ซึ่งจุดแรกคือการสั่งให้หยุดเลี้ยงไปครึ่งหนึ่งก่อน และเน้นการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนเป็นสำคัญ นายอภิภู เกิดจันทร์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/1 ม.1 ต.แหลมบัว บอกว่า ปัญหานี้เกิดมานานแล้วและชาวบ้านมีการร้องเรียนมานานแต่ก็เกิดผล กระทั่งช่วงนี้ ชาวบ้านยิ่งวิตกว่า กระแสของข่าวเรื่องฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานซึ่งปัญหานี้ก็อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นจึงได้รวมตัวกันหลายตำบล เพราะนครชัยศรี มี 20 กว่า ตำบลแต่มีความเดือดร้อน 10 กว่าตำบล ซึ่งตอนแรกจะมีชาวบ้านมาหลายร้อยคน แต่ติดปัญหาสถานที่ไม่เพียงพอจึงได้มาเพียงตัวแทน โดยปัญหาทั้งกลิ่น ฝุ่น และที่ผ่านมาเด็กและเยาวชนนั้นมีอาการป่วยด้วยโรคภูมิแพ้กันหลายรายแล้ว ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจ โดยได้พบกับ นายพงพร เตชะศุภตระกูล อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 ม.3 ต.สัมปทวน อ.นครชัยศรี เกษตรกรในพื้นที่ บอกว่าตนเองมาปลูกบ้านในพื้นที่ใกล้ฟาร์มเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ซึ่งก็เจอปัญหาทั้งฝุ่น กลิ่นและแมลงวันบุกบ้านมาตั้งแต่นั้น มีความทรมานกับการใช้ชีวิตมาก ทุกครั้งทีกินข้าวก็แทบจะกินไม่ลงเพราะมีแมลงวันมหาศาลมาบินวนรอบวงอาหาร ทุกครั้งเอาฝาชีมาครอบก็ยังมีแมลงวันอยู่ข้างใน แม้จะเอาแผ่นกาวมาตั้งรอบ ๆฝาชี ก็ดักได้เต็มแผ่นในเวลาไม่นานก็ดักได้เต็มแผ่น และเป็นแบบนี้แทบทุกวันครอบครัวเครียดกันมาก ทุกเย็นที่ในฟาร์มเปิดพัดลมยักษ์เพื่อดูดอากาศออกมาจากบ้านตนเองช่วง 6 โมงเย็น จะมีเสียงดังสนั่นเหมือนฝนตก จากนั้นกลิ่นเหม็นก็จะมา ยิ่งช่วงค่ำถ้าเอาไฟฉายไปส่องขึ้นท้องฟ้าก็จะเกิดเห็นเป็นฝุ่นลอยเหมือนข่าวออกเต็มไปหมด กระแสข่าวเรื่องฝุ่น PM2.5 มาดังในช่วงนี้และมีคนวิตกมากแต่ตนเอง ประสบมา 20กว่าปีแล้ว และเพิ่งทราบว่ามีการสั่งการดำเนินการให้เสร็จสิ้น ส่วนตัวยังเชื่อจนกว่าจะเกิดผล ซึ่งหลังวันที่ 6 กุมภาพันธ์ จะขอดูอีกครั้งถ้าไม่ลดลงเชื่อว่าชาวบ้านหลายตำบลจะออกมาร่วมตัวแน่นอน ขณะที่นายสุเทพ ฟั่นยายศพ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 ม.4 ต.ศรีมหาโพธิ์ บอกว่า ตนเองประสบปัญหากับแมลงวันและกลิ่นเหม็นมากยิ่งช่วงที่มีกลิ่นซากไก่ตายโชยมานั้นเหม็นจนทรมาน โดยช่วงที่เกิดปัญหาหนัก ตนเองและชาวบ้านหลายคนต้องกางมุ้งกินข้าวกันหลายหลัง ดีที่วันนี้มีสถานการณ์ลดลงบ้าง ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการร้องเรียนไปหลายครั้งแต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ทางฟาร์มก็ออกมาช่วยคือแจกยาและให้แผ่นกาว ดักแมลงวันเป็นครั้งคราว โดยชาวบ้านทุกคนก็ทรมานกับเรื่องนี้ จนจะเป็นเมืองแมลงวันอยู่แล้ว โสฬส แสงเพ็ญ