จากกรณีที่เพจตลาดล่างอัปเกรด ได้โพสต์ข้อความว่า “ไล่ตบเยาวชนอัดคลิปไลฟ์สดตบไม่กลัวกฏหมายหมั่นไส้ใครก็ตบ อยากตบใครก็แค่อ้างว่าคนนั้นมายืมเงิน ปล่อยดอกโหดส่วนใหญ่คนที่โดนมีแต่เด็กพร้อมประกาศ ตบ จ่าย จบมีเงิน หนองแคสระบุรีส่งเข้าประกวดนั้น
วันที่ 3 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง อ.หนองแค โดยได้พบกับ น.ส.ธัญญารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือส้ม อายุ 40 ปี เจ้าของร้านซีฟู๊ด ตั้งอยู่ ม.7 ต.หนองปลาหมอ อ.หนองแค จ.สระบุรี ผู้ส่งคลิปร้องเรียนไปยังเพจ เล่าว่า ผู้ก่อเหตุคือ น.ส.ศิรินภา (ขอสงวนนามสกุล) หรือเอิญ อายุ 20 ปี ซึ่งมีพฤติกรรม จะทำตัวเป็นขาใหญ่ ปล่อยเงินกู้ ขับรถตามเก็บเงินเมื่อไม่ได้ก็จะรุมตบ โดยเฉพาะเยาวชนที่เป็นเด็กหญิง โดยการใช้ให้คนอื่นเป็นตัวล่อ เรียกเด็กที่ตนเองไม่ชอบหน้าออกมา จากนั้นก็เข้าไปตบ ตี บางคนก็บุกเข้าไปตบถึงในบ้าน และทุกครั้งจะมีการอัดคลิป ไลฟ์สด และจะปักไว้ในเฟสบุ๊ก หรือ IG ของตนเอง ซึ่งตอนนี้เท่าที่ทราบมีผู้ถูกกระทำแล้วถึง 13 ราย ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่กล้าเข้าไปแจ้งความ และไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวว่าจะถูกกลับมาทำร้ายอีก ซึ่งเด็กส่วนใหญ่ที่โดนตบก็เพียงแค่หมั่นไส้ก็ลากไปตบ ซึ่งทุกครั้งที่ทำถ้าเป็นเรื่องถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าก็จะมั่นใจว่ามีเงิน จ่ายแล้วจบ แถมยังมีการไลฟ์สดว่า ตบ จ่าย จบ ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ยังมีการลงคลิปเข้าไป ตบตี ทำร้าย หญิงสาวที่ใส่ชุดสีขาว ต่อหน้าแฟนของหญิงสาวจนล้มกลิ้ง แถมยังอัดคลิปโชว์ด้วย ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้นมีเหยื่อแฉว่า สาวขาใหญ่ หลอกเด็กไปค้าประเวณีด้วย
ล่าสุดทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พากลุ่มเด็ก และเยาวชนหญิง อายุ 13 - 16 ปี ที่ตกเป็นเหยื่อของสาวขาใหญ่ ไปติดตามทวงถามความคืบหน้าคดี ที่สภ.หนองแค จังหวัดสระบุรี โดยมีเด็กที่เล่าว่า ถูกสาวขาใหญ่ คิดดอกเบี้ยสุดโหดกว่า 300 เปอร์เซ็นต์ เช่น ยืมเงินไป 1,300 บาท แต่รวมแล้วให้ทยอยจ่ายต้นจ่ายดอกเบี้ย คืนรวมเป็นเงินกว่า 4,300 บาท เป็นต้น ถ้าลูกหนี้คนไหนไม่จ่าย ก็จะเอาดอกไปทบต้น และไปดักทำร้าย เลือกทำกับเด็กที่ไม่มีทางสู้ มีผู้เสียหายแล้วไม่น้อยกว่า 15 คน
ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองแค ตามไปรวบตัว น.ส.ศิรินภา สาวขาใหญ่ ได้ที่บ้านพักที่อยู่ไปทางรอยต่อจังหวัดสระบุรีกับจังหวัดนครนายก แจ้ง 4 ข้อหา ได้แก่ ค้าประเวณี /ปล่อยเงินกู้นอกระบบ/ ทำร้ายร่างกาย และกระทำความรุนแรงกับเด็ก อย่างไรก็ตาม ตอนนำตัว ไปที่โรงพัก สาวขาใหญ่ ไม่ยอมพูดอะไร
ทางด้าน เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี เหยื่อสาวขาใหญ่ เล่าว่าทางนางสาวเอิญได้ทักมาถามตนเองว่า ติดอะไรกับกู มีอะไรกับกูหรือเปล่า ซึ่งตนเงก็ตอบไปว่าไม่ติดอะไร และไม่เคยที่จะนินทาลับหลัง ซึ่งตนเองก็เคยถูกน.ส.ศิรินภา เอานกต่อมาลากตนเองไปหน้าซอยบ้านตนเอง โดยหลอกว่าให้ตนเองเข้ามาขอโทษ และเมื่อตนเองเดินเข้าไปขอโทษเขา ถูก น.ส.ศิรินภา วิ่งมากระชากหัวล้มจนหัวไปฟาดกับโต๊ะปูน จนปูด บวม นอนไม่ได้มาหลายวัน และยังให้มือต่อยมาที่ใบหน้าจนปากแตก แก้มช้ำ ตาช้ำ ซึ่งหลังจกนั้น น.ส.ศิรินภา ยังได้ชวนตนเองไปค้าประเวณี ในลักษณะทักแชต มาว่า พี่มีคนที่จะแนะนำให้ตนเองเป็นผู้ชาย ได้เงินดีนะ ซึ่งตนเองก็ตอบปฏิเสธไป ซึ่ง น.ส.ศิรินภา มีพฤติกรรมที่ชักชวนเด็กๆไปค้าประเวณีหลายคนมาก บางคนก็ตกเป็นเหยื่อค้าประเวณี และเมื่อผู้ชายที่ น.ส.ศิรินภา ติดต่อมา น.ส.ศิรินภา ก็จะเก็บเงินไปจนหมด ซึ่งตนเองคิดว่า น.ส.ศิรินภา เป็นคนที่น่ากลัวมาก ตอนนี้ตนเองรู้สึกสบายใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับ น.ส.ศิรินภา ได้ หนองแคจะได้อยู่สบายขึ้น
ด้านทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เล่าว่า วันนี้ตนเองมาตามความคืบหน้าของคดี เนื่องจากทราบว่ามีการทร้ายร่างกายกันจนจมูกหัก ซึ่งจะมาจ่าย จบไม่ได้ ต้องมีการฟ้องศาล และขอให้พนักงานสอบสวนส่งตัวเด็กที่ถูกกระทำไปตรวจร่างกาย เพื่อที่จะแจ้งข้อหาเพิ่ม ส่วนประเด็นที่ตนเองตกใจนั้นในกรณีที่มีเด็กพูดว่ามีการค้าประเวณีเด็ก และเมื่อสอบถามกับนางสาวเอิญ ก็ยอมรับว่ามี จึงอยากติดตามดูว่ามีผู้กูกกระทำอีกกี่คน ซึ่งยังมีการแนะนำเด็กๆว่าถ้าคนไหนที่ไม่มีเงินก็จะแนะนำให้ไปขายบริการ โดยมีการแนะนำผู้ชายให้ แล้วก็จะได้เงินมา ซึ่งเด็กๆ ที่มาร้องเรียนได้รับการสื่อสารเหมือนกันหมด ส่วนที่มีการทำร้ายร่างกายกันนั้นเกิดจากประเด็นอื่น ซึ่งยังต้องคุยกับเด็กๆ ซึ่งเด็กที่ถูกกระทำมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 15 รายที่จะต้องทยอยกันมาแจ้งความ ในข้อหา ทำร้ายร่างกาย ค้าประเวณีเด็ก พรบ.คุ้มครองเด็ก เก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด รวม 4 ข้อกล่าวหา ซึ่งทางผุ้ถูกกล่าวหานั้นจะรับเฉพาะที่มีหลักฐาน แต่ข้อมูลที่ถูกกล่าวหาจะไม่ยอมรับ ซึ่งผู้ที่ถ่ายคลิป และไปร่วมกระทำกับนางสาวเอิญ ก็จะถูกเจ้าหน้าที่เรียกตัวมาสอบสวนด้วย ซึ่งหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งให้ประชาชนที่เป็นคู่กรณีกับนางสาวเอิญ เข้ามาแจ้งความนั้น ก็จะสร้างความมั่นใจให้กับเยาวชน และคนที่ตกเป็นเหยื่อของนางสาวเอิญ แต่การที่นางสาวเอิญนำคลิปเข้ามาเผยแผ่ทางโซเชียล นั้นผิด พรบ.คุ้มครองเด็กแน่นอน ถ้าไม่นับทำร้ายร่างกาย