ตื่นตะลึงไปตามๆ กัน กับ “ยุทธการใยแมงมุม” ที่ “ยูเครน” มีปฏิบัติการทางทหารถึงในแดนดินถิ่น “รัสเซีย” ประเทศเจ้าของฉายา “พญาหมี” ในวันเปิดประเดิมของสัปดาห์นี้ และเดือนมิถุนายนนี้
โดยเป็นปฏิบัติการโจมตีด้วย “อากาศยานไร้คนขับ” หรือ “โดรน” ซึ่งทางการยูเครน ระบุว่า ใช้โดรนจำนวนถึง 117 ลำ ถล่มเป้าหมายหลายแห่งในรัสเซีย ซึ่งเป้าหมายแต่ละแห่งส่วนใหญ่ก็เป็น “ฐานทัพ” ทางการทหารรัสเซีย เป็นประการสำคัญ นอกเหนือจากระบบโครงสร้างพื้นฐาน อินฟราสตรักเจอร์ต่างๆ ของรัสเซีย
จนกล่าวกันว่า เป็นสถานการณ์ที่รัสเซียถูกยูเครน ถล่มโจมตีถึงในดินแดนของประเทศรัสเซียเอง ครั้งใหญ่ที่สุด และลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซียมากที่สุด นับตั้งแต่เกิด “สงครามรัสเซีย-ยูเครน” เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 (พ.ศ. 2565) เป็นต้นมาเลยทีเดียว
ทั้งนี้ เพราะที่ผ่านมา ในสถานการณ์สงคราม ปรากฏว่า ดินแดนในยูเครน ตกเป็นเป้าถล่มโจมตีโดยกองทัพรัสเซียเป็นส่วนใหญ่ ทั้งจากโดรนและขีปนาวุธ ตลอดจนปืนใหญ่ สารพัดชนิด โดยมีบ้างเป็นบางครั้งที่ดินแดนรัสเซีย ถูกยูเครน ส่งอาวุธเข้าไปถล่ม แถมการโจมตี ก็ยังไม่รุนแรงเท่าไหร่ เมื่อเปรียบเทียบกับการโจมตีจากทางฝั่งของรัสเซีย นับตั้งแต่เกิดสงครามรุกรานกันมา ทางรัสเซียยึดครองและผนวกดินแดนของยูเครนไปแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ 20
สำหรับ การโจมตีในยุทธการใยแมงมุม ที่ทำให้ดลกต้องตื่นตะลึงไปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ ทางประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เปิดเผยว่า ใช้โดรนเป็นอาวุธหลักสำคัญในการโจมตีรัสเซียที่มีขึ้น โดยยูเครนใช้โดรน จำนวนมากถึง 117 ลำ โจมตีฐานทัพอากาศของรัสเซีย 4 แห่ง ในเวลาไล่เลี่ยกัน ได้แก่
- ฐานทัพอากาศเบลายา ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นอีร์คุตสก์ ภูมิภาคไซบีเรีย
- ฐานทัพอากาศโอเลนยา เมืองมูรมันสก์ ทางตะวันเฉียงเหนือสุดของรัสเซีย
- ฐานทัพอากาศไดอากิเลโว แคว้นไรซาน
- ฐานทัพอากาศอิวาโนโว เมืองอิวาโนโว ทางตอนกลางของรัสเซีย ที่อยู่ในแถบยุโรป
ทั้งนี้ เมื่อกล่าวถึงฐานทัพอากาศแต่ละแห่ง ที่ถูกยูเครนถล่มจนรัสเซีย เสียเหลี่ยมในครั้งนี้ ก็ล้วนมีความสำคัญในทางกองทัพอากาศของรัสเซียแทบทั้งสิ้น
ไล่ไปตั้งแต่ “ฐานทัพอากาศเบลายา” เป็นฐานทัอากาศระยะไกล และเป็นหนึ่งในกองบินทิ้งระเบิดหนัก มีเครื่องบินทิ้งระเบิดชนิดต่างๆ เช่น ทียู-22เอ็ม3 (TU-22M3)
ว่ากันว่า ฐานะทัพอากาศเบลายาแห่งนี้ แม้แต่จีนแผ่นดินใหญ่ ก็ยังครั่นคร้ามในศักยภาพกองทัพอากาศรัสเซีย ในช่วงที่ทั้งรัสเซีย เมื่อยังเป็นอดีตสหภาพโซเวียตรัสเซีย ขัดแย้งระหองระแหงกับจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1960
“ฐานทัพอากาศโอเลนยา” เป็นฐานของกองบินระยะไกล และกองกำลังอวกาศของรัสเซีย นอกจากนี้ ฐานทัพอากาศโอเลนยา ก็ยังเป็นหนึ่งในฐานทัพอากาศที่มีเครื่องบินทิ้งระเบิดประจำการอยู่ด้วย แถมเครื่องบินที่ทิ้งระเบิด ก็ยังเป็นแบบเครื่องบินขับไล่อีกด้วยต่างหาก ไม่ใช่แต่เครื่องบินทิ้งระเบิดธรรมดา นั่นคือ มีเครื่องบินขับไล่แบบ “มิโคยาน มิก-27” ประจำการอยู่ด้วย
“ฐานทัพอากาศไดอากิเลโว” เป็นศูนย์ฝึกอบรมการบินทิ้งระเบิด และกองบินเติมน้ำมันให้แก่เครื่องบินรบต่างๆ ของกองทัพอากาศรัสเซีย
และ “ฐานทัพอากาศอิวาโนโว” เป็นโรงเก็บเครื่องบินต่างๆ ขนาดใหญ่ของกองทัพรัสเซีย รวมถึงยังมีสนามบินที่ใหญ่อีกด้วย และยังถือเป็นหนึ่งในศูนย์ฝึกกำลังพลที่สำคัญของกองทัพอากาศรัสเซีย
โดยเจ้าหน้าที่ของทางการยูเครนรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ยุทธการใยแมงมุม สามารถทำลายเครื่องบินรบและเครื่องบินทิ้งระเบิดไปไม่น้อยกว่า 40 ลำ ในจำนวนนี้ ก็มีเครื่องบินแบบทู-95 (TU-95), ทู-22เอ็ม3 (TU-22M3) ตลอดจนเอ-50 (A-50) ซึ่งเป็นเครื่องบินตรวจการณ์ทางอากาศรวมอยู่ด้วย
ตามการประเมินของทางการยูเครน คาดการณ์ว่า กองทัพอากาศรัสเซียต้องสูญเสียเครื่องบินทิ้งระเบิดต่างๆ มากถึงร้อยละ 34 ของจำนวนเครื่องบินทั้งหมด หรือถ้าคิดเป็นมูลค่าก็ราวๆ 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณกว่า 2.3 แสนล้านบาท)
นอกจากฐานทัพอากาศรัสเซียที่เป็นถล่ม ก็ยังมีระบบโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สะพานทางสัญจรต่างๆ ก็ถูกยูเครนลอบถล่ม จนสะพานพังในเวลาไล่เลี่ยถึง 2 แห่งด้วยกัน พร้อมกับทำผู้คนตายเจ็บหลายสิบราย
ด้วยความเสียหายที่สูญยับของทางฝั่งรัสเซียเช่นนี้ ก็ถึงขนาดทำให้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เอ่ยปากออกมาว่า เป็นปฏิบัติการทางทหารที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง และไม่เหมือนใคร
พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกี ยังระบุด้วยว่า ยูเครนได้วางแผนในยุทธการใยแมงมุม มานานถึง 18 เดือน หรือปีครึ่งด้วยกัน โดยมี “หน่วยงานความมั่นคงแห่งยูเครน” หรือ “เอสบียู” เป็นเจ้าภาพในการลงมือปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้
เมื่อวางแผนลงตัวแล้ว ก็มีการลอบนำโดรนเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ซุกซ่อนไว้กับตามหลังคารถบรรทุก ที่ทำมาเป็นพิเศษ แล้วให้รถบรรทุกแล่นเข้าไปใกล้กับเป้าหมาย ก่อนที่จะส่งโดรนโจมตีตามฐานทัพอากาศรัสเซียที่เป็นเป้าหมาย
ตามการรายงาน เปิดเผยว่า โดรนแต่ละลำ ก็จะมีคนของยูเครนบังคับทิศทางให้โจมตีเป้าหมาย แบบรับผิดชอบกันคนละลำกันเลยทีเดียว เพื่อให้เกิดความแม่นยำในการโจมตี ก่อนที่เครือข่ายเหล่านั้น จะถอนตัวออกมาจากพื้นที่
อย่างไรก็ดี ก็มีรายงานจากทางฝั่งรัสเซียด้วยว่า สามารถจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการครั้งนี้ได้จำนวนหนึ่ง เหมือนกันโดยอยู่ในระหว่างสอบสวนขยายผล
บรรดานักวิเคราะห์ก็คาดการณ์ว่า เมื่อพญาหมีถูกลูบคมจนเสียเหลี่ยมในครั้งนี้ ก็คงจะมีการตอบโต้ สางแค้นแก้เผ็ดกันในเร็ววันนี้ รวมถึงการเจรจาหยุดยิงที่กำลังจะมีขึ้นที่ตุรเคีย ก็คงจะบรรลุข้อตกลงได้ยากระหว่างทั้งสองฝ่ายด้วยเช่นกัน