วันที่ 3 มิ.ย.68 เพจเฟซบุ๊กดาราภาพยนตร์ โพสต์แจ้งข่าวเศร้า โดยระบุว่า...
ข่าวเศร้าที่ช็อควงการบันเทิงวันนี้คือการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร พระเอกที่โด่งดังที่สุดในช่วงปลายยุค 2510s ถึงตลอดยุค 2520s (ช่วง พ.ศ. 2516–2525 โดยประมาณ) ซึ่งถือเป็น ยุคทองของภาพยนตร์ไทยแนวรักวัยรุ่น และเอ๋ไพโรจน์คือหนึ่งในตัวแทนพระเอกยุคนั้นที่สร้างกระแสความนิยมอย่างกว้างขวาง
เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อเวลา 03.00 น วันที่ 3 มิถุนายน 2568 ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี
#กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร
วันที่4 มิถุนายน - พิธีรดน้ำศพ
หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย
เส้นทางชีวิตและจุดเริ่มต้นในวงการ
ไพโรจน์ สังวริบุตร หรือที่ใครๆ รู้จักในชื่อ “เอ๋” เกิดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2496 ที่อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เขาเติบโตมาในครอบครัวที่มีสายสัมพันธ์กับวงการบันเทิงโดยตรง เป็นบุตรชายของนายคารม สังวริบุตร และนางพรพรรณ วรรณมาตย์ มีพี่สาวชื่อ จีราภา ปัญจศิลป์ เจ้าของคณะละครวิทยุอัชชาวดี และเป็นหลานชายของไพรัช สังวริบุตร ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง
ก่อนเข้าสู่วงการบันเทิง เขาสำเร็จการศึกษาระดับ ปวส. สาขาช่างอิเล็กทรอนิกส์ จากวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ และต่อมาได้รับปริญญาโทจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกริก
เส้นทางการแสดงเริ่มต้นด้วยบท “โกมินทร์” ในละครจักรๆ วงศ์ๆ และไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง วัยอลวน (2519) ที่กลายเป็นภาพยนตร์แห่งยุค สร้างปรากฏการณ์ทั้งรายได้และกระแสความนิยมอย่างถล่มทลาย
ตั้มแห่ง วัยอลวน และพระเอกที่ไม่มีใครเหมือน
บท “ตั้ม” ใน วัยอลวน ไม่ได้เป็นเพียงแค่บทภาพยนตร์ธรรมดา แต่มันกลายเป็นคาแรกเตอร์ที่อยู่ในความทรงจำของคนไทยมานานนับสิบปี ตั้ม คือหนุ่มนักศึกษาทะเล้น ขี้เล่น อารมณ์ดี มีมุมอบอุ่นน่ารัก และจริงใจในความรัก เป็นภาพสะท้อนของวัยรุ่นยุค 70s ที่มีความฝัน มีหัวใจ มีอารมณ์ขัน
ไพโรจน์ถ่ายทอดบทบาทนั้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ แสดงออกถึงความเป็น “คนธรรมดาที่น่ารัก” มากกว่าจะเป็น “พระเอกที่อยู่บนหิ้ง” และนั่นเองคือจุดที่ทำให้เขาแตกต่างจากพระเอกในยุคเดียวกัน
คู่ขวัญในตำนาน “ตั้ม–โอ๋”
อีกหนึ่งความสำเร็จที่ไม่อาจละเลยได้คือการจับคู่กับ “จิ๋ม–ลลนา สุลาวัลย์ ในบท “โอ๋” คู่รักของตั้มในภาพยนตร์ วัยอลวน ทั้งสองกลายเป็นคู่ขวัญที่คนดูหลงรักและเชียร์ให้เป็นคู่จริงนอกจอ ถือเป็นหนึ่งในต้นแบบของกระแส “คู่จิ้น” ในวงการบันเทิงไทย ที่เกิดขึ้นก่อนคำว่าคู่จิ้นจะถือกำเนิดเสียอีก
จากเบื้องหน้า…สู่เบื้องหลัง
แม้ในช่วงหลังไพโรจน์จะลดบทบาทการแสดงลง แต่เขายังคงเดินหน้าสร้างผลงานในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ หนึ่งในผลงานที่น่าจดจำคือ วัยอลวน 5: ตั้ม–โอ๋ ตัวตึง (2565) ซึ่งเขานั่งแท่นผู้กำกับและเล่าเรื่องราวต่อยอดจากภาพยนตร์ต้นฉบับโดยยังคงรักษาเสน่ห์ของตัวละครไว้ได้อย่างซาบซึ้ง
เกียรติประวัติ
• ได้รับเกียรติประทับรอยมือที่ ลานดารา หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) เมื่อปี พ.ศ. 2552 เพื่อเชิดชูเกียรติในฐานะผู้สร้างผลงานอันทรงคุณค่าให้แก่วงการบันเทิงไทย
ชีวิตส่วนตัว
ในด้านชีวิตส่วนตัว ไพโรจน์เคยเปิดใจผ่านสื่อถึงความรักต่างวัยกับภรรยาที่อายุน้อยกว่าถึง 21 ปี พร้อมยอมรับว่าความรักของเขานั้นต้องผ่านบทพิสูจน์และความเข้าใจเช่นเดียวกับที่ตั้มเคยมีให้กับโอ๋ในจอ
ไพโรจน์ สังวริบุตร คือพระเอกผู้ไม่จำเป็นต้องหล่อเหลาแบบฉบับ แต่เป็นพระเอกที่ “คนดูหลงรัก” เพราะเขาคือภาพแทนของผู้ชายธรรมดาที่มีเสน่ห์เหลือล้น เขาไม่ได้เพียงแต่สร้างภาพยนตร์ หากแต่สร้างความทรงจำให้แก่คนดูทุกยุคทุกสมัย
และเอ๋ไพโรจน์ สังวริบุตร คือ “ตั้ม” ที่เราไม่เคยลืม และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ : เพจเฟซบุ๊กดาราภาพยนตร์