“สงคราม ส่งด่วน” (Mad Unicorn) ซีรีส์ที่กำลังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางทั้งในวงการตำรวจ นักการเมือง และโลกโซเชียล โดยฉายบนแพลตฟอร์ม Netflix ผลงานจากค่าย GDH ที่นำแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของวงการธุรกิจสตาร์ทอัพยูนิคอร์นรายแรกของไทย

ตัวละครสำคัญอย่าง “ลีนุกซ์” ถูกจับตามองในเรื่องนี้ หลังจากที่เธอนำข้อมูลลับของบริษัทตัวเองไปเปิดเผยกับบริษัทคู่แข่งเพื่อแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัว จนเพจเฟซบุ๊ก “ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)” ต้องออกมาเตือนว่า การกระทำเช่นนี้ผิดกฎหมาย มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 2 แสนบาท พร้อมถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายตามกฎหมาย

"มาตรา 33" คือ "การเปิดเผยความลับทางการค้าของผู้อื่น ให้เป็นที่ล่วงรู้ ไม่ว่าโดยเจตนากลั่นแกล้งให้ได้รับความเสียหายในการประกอบธุรกิจ และไม่ว่าจะกระทำโดยวิธีใด ๆ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

ขณะที่ นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "นายกรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij" ระบุว่า ตอนหนึ่งว่า "บทเรียนนี้ทำให้เราเห็นด้วยอีกว่า ปัญหาแนวนี้ไม่ได้อยู่ในแวดวงการเมืองหรือราชการเท่านั้น เราทุกคนก็หนีความรับผิดชอบไม่พ้น

"แต่ในชีวิตจริง โดยเฉพาะในประเทศไทย กี่คนจะฝ่าด่านการฮั้ว การโกง การถูกหลอก และกติกาการแข็งขันที่ไม่เป็นธรรมได้? และโดยเฉพาะเมื่อผู้มีหน้าที่รักษากติกากลับเป็นผู้สมยอมการทุจริตเอง นั่นแหละครับ คือความหายนะ"

สำหรับเรื่อง "สงคราม ส่งด่วน" เล่าถึง “สันติ” เด็กหนุ่มจากดอยวาวี ผู้มีความฝันอยากพลิกชีวิตตัวเองด้วยการเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ เขาจึงเริ่มต้นธุรกิจขนส่งพัสดุด้วยไอเดียที่เกิดจากการสังเกตความไม่เป็นธรรมและความเหลื่อมล้ำในวงการนี้

เส้นทางของสันติไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเขาต้องเผชิญกับการแข่งขันดุเดือดจากคู่แข่งในตลาด เขายังต้องเข้าไปคลุกคลีในวงการนักธุรกิจจีนเพื่อหาหนทางโค่นยักษ์ใหญ่ในวงการขนส่ง และผลักดันธุรกิจของตนให้กลายเป็นสตาร์ทอัพยูนิคอร์นรายแรกของประเทศไทยให้ได้

 

#สงครามส่งด่วน #ลีนุกซ์