เมื่อวันที่ 29 พ.ค.68 จากการทำงานเพื่อสนองนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากการได้รับรายงานจากสายของ พ.ต.อ.จอมพล รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สภ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี ว่าที่หน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 2 ต.ตะคร้ำเอน มักจะมีเอเย่นต์ยาบ้าชื่อนายกิตติศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือฉายาในหมู่ทาสยามักจะเรียกติดปากว่า "ปอ สำนักคร้อ"อายุ 40 ปี อยู่ หมู่ 2 ต.ตระคร้ำเอา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ซึ่งเพิ่งพ้นโทษออกมาจากคุก มาเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเหมือนเดิม คือเป็นเอเย่นต์แอบลักลอบจำหน่ายยาเสพติด (ยาบ้า) ให้แก่บรรดาวัยรุ่น และคนวัยทำงานทั่วไปอยู่เป็นประจำ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.อำนาจ ปรีชาวาท รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.อภิสิทธิ์ ศักชัยยันต์ รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.กฤษวิศญ์ ขาวเก้า สวป.ฯ และ พ.ต.ท.ภานุ ภิรมนา สว.สส.ฯ วางแผนนำกำลังตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ ซึ่งนำโดย ร.ต.อ.สมคเน สร้อยอยู่ ร.ต.อ.จำลอง สุขสุทิพย์ และ ร.ต.ต.สมชัย เผื่อนผุด เดินทางไปที่หน้าบ้านหลังดังกล่าวเพื่อตรวจสอบพบตัวนายกิตติศักดิ์ หรือฉายา "ปอ สำนักคร้อ" จึงสอบถามและทำการตรวจค้นตัวพบยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) อยู่ในซองพลาสติกใสแบบมีซิบรูด เปิดปิด จำนวน 2 ซอง ซองแรก มียาบ้า จำนวน 150 เม็ด ซองที่ 2 จำนวน 120 เม็ด รวมทั้งสิ้น 2 รายการ 270 เม็ด ทำการจับกุมตัวนายกิตติศักดิ์ หรือ "ปอสำนักคร้อ" พร้อมของกลางยาบ้าและโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการติอต่อซื้อขายยาเสพติด ไปสอบสวนขยายผลถึงแหล่งที่มาของยาเสพติดดังกล่าว
โดยเบื้องต้นนายกิตติศักดิ์ ให้การยอมรับสารภาพว่า หลังพ้นโทษออกจากเรือนจำ ได้ 5 เดือนกว่า ก็ไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไร จึงยึดอาชีพเก่า คือแอบลักลอบขายยาบ้าให้กับบรรดาวัยรุ่นขี้ยา และบุคคลวัยทำงานทั่วไป ส่วนที่มาของยาเสพติด ไปขอซื้อแบ่งมาจากเพื่อนที่รู้จักกันในคุกชื่อไอ้ "ปอนต์ สำนักคร้อ"เอเย่นต์ยาบ้ารายใหญ่ แล้วนำมาขายต่อ
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเบาะแส จึงนำกำลังเดินทางไปที่บ้านของนายชูศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี อยู่บ้านหมู่ 14 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดประเภท1(ยาบ้า) จำนวน 6 ซองสีน้ำเงิน ซองละ 200 เม็ด โทรศัพท์มือถือที่ใช้โทรติดต่อซื้อขายยาเสพติด 1 เครื่อง จึงควบคุมนำตัวนายกิตติศักดิ์ หรือ "ปอสำนักคร้อ" และนายชูศักดิ์ หรือ "ปอนต์สำนักคร้อ" 2 คู่หูในคุก เอเย่นต์ยาบ้าไปที่ รพ.มะการักษ์เพื่อทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย ผลการตรวจพบว่า 2 ผู้ต้องหา คู่หู ปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดนำส่ง พ.ต.ต.ศักดิ์รินทร์ แสงเจริญ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าเรือ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา 1.มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า)ไว้ในครอบครอง โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน 2.เป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) 3.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย