รายการ Tuck Talk สัปดาห์นี้ พบกับเรื่องราวของภัยเงียบ “งูสวัด” ไม่ใช่แค่โรคคนแก่! แต่คือภัยที่อาจทำให้ผู้ติดเชื้องูสวัดทรมาน และเจ็บนานไปทั้งชีวิต เชื้อแฝงอยู่ในร่างกายได้นานกว่า 50 ปี ภูมิตกเมื่อไหร่อาการออกทันที ตาบอด อัมพาต และอาจส่งผลต่อสมอง ทำให้ใช้ชีวิตยากขึ้น! รู้ทันงูสวัดก่อนชีวิตพังกับ “หมอตี๋ โกเมศ” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชศาสตร์ป้องกัน ดูแลคนไข้โรคผิวหนัง
ภูมิคุ้มกันมันตกและเสื่อมไปตามวัยจริงไหมคะ ?
หมอตี๋ : จริงครับ ยิ่งอายุมากขึ้น ภูมิคุ้มกันยิ่งอ่อนแอลงร่างกายป้องกันเชื้อโรคได้น้อยลง เสี่ยงติดเชื้อง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ โรคติดเชื้อ หรือแม้แต่มะเร็ง เพราะฉะนั้นผู้สูงอายุควรฉีดวัคซีน เพื่อเสริมภูมิต้านทานเป็นเหมือนการเติมอาวุธให้ร่างกาย เช่น ไข้หวัดใหญ่ก็ควรต้องฉีดทุกปี วัคซีนคอตีบฉีดทุก 10 ปี อายุมากกว่า65 ปีก็ควรฉีดวัคซีนปอดอักเสบ ยังไม่รวมถึงวัคซีนทางเลือก เช่น งูสวัด ซึ่งก็ควรจะต้องฉีดเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไปก็สามารถที่จะฉีดได้ เพราะว่าเวลาเราอายุ 50 ปีขึ้นไปป่วยเป็นโรคงูสวัดค่อนข้างรุนแรง แล้วก็ภาวะแทรกซ้อนค่อนข้างสูง
โรคอิสุกอิใสกับงูสวัด คล้ายกันหรือแตกต่างกันยังไง ?
หมอตี๋ : อิสุกอิใสกับงูสวัดเป็นคนละโรคกัน แต่เป็นเชื้อเดียวกัน คือ เชื้อ VZV (Varicella Zoster Virus) จินตนาการว่าเมื่อเราได้รับเชื้อ VZV เป็นครั้งแรกซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นตอนเด็ก อิสุกอิใสมีลักษณะเป็นเป็นตุ่มน้ำ มีผื่นที่จำเพาะ คือ เห็นผื่นทุกระยะในเวลาเดียวกัน ตั้งแต่ผื่นราบ, ผื่นนูนแดง, เป็นตุ่มน้ำ, ไปจนถึงแตกเป็นแผล ผื่นมักจะขึ้นเด่นที่ลำตัว ใบหน้า แล้วกระจายไปแขนขา มีการแพร่กระจายได้สูงมาก เพียงแค่อยู่ห้องเดียวกันหายใจผ่านละอองฝอยก็ติดกันได้หมด
อิสุกอิใสมันเป็นทุกคนไหม ?
หมอตี๋ : เกือบทุกคนมีโอกาสเป็นครับ เพราะเชื้อไวรัสอีสุกอีใสแพร่กระจายได้ง่ายมาก แค่อยู่ในห้องเดียวกัน หายใจร่วมหรือรับละอองฝอยจากคนที่ติดเชื้อก็สามารถแพร่ต่อกันได้แล้ว ที่น่ากลัวคือเชื้อสามารถแพร่ได้ตั้งแต่ 48 ชั่วโมงก่อนผื่นจะขึ้นช่วงที่เรามีแค่ไข้ต่ำ ๆ ยังไม่รู้ตัวว่าเป็นอะไรก็สามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นได้แล้ว หลังจากอาการอีสุกอีใสหายภายใน 1–2 สัปดาห์ ไวรัสไม่ได้หายไปจากร่างกาย แต่จะแอบไปซ่อนอยู่ในปมประสาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรับความรู้สึกตามร่างกาย และสามารถซ่อนตัวอยู่ได้นานถึง10, 20, 30 ปี หรือแม้แต่ 50 ปี โดยไม่มีอาการอะไรเลย เมื่อร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันตกไวรัสจะแสดงอาการอีกครั้งในรูปแบบใหม่ คือ “งูสวัด” แต่เป็นตุ่มน้ำแบบเรียงเป็นเส้นตามแนวปมประสาท ซึ่งต่างจากอีสุกอีใสที่ขึ้นทั่วร่าง และที่สำคัญคนที่จะเป็นงูสวัดได้ ต้องเคยติดเชื้ออีสุกอีใสมาก่อน เพราะงูสวัดคือการกลับมาของเชื้อตัวเดิม ไม่ใช่การติดเชื้อใหม่
งูสวัดกับอิสุกอิใสหน้าตาเหมือนกันไหม ?
หมอตี๋ : ไม่เหมือน งูสวัดเป็นตุ่มน้ำและอยู่เป็นกลุ่มเรียงเป็นเส้น ตามแนวปมประสาท ขึ้นเฉพาะจุด เช่น ศีรษะ ลำตัว แขน ขา หน้า และมักเป็นแค่ข้างเดียว (ซ้ายหรือขวา) ส่วนใหญ่เป็นข้างเดียวยกเว้นว่าภูมิคุ้มกันแย่จริง ๆ จะมีโอกาสที่จะขึ้นทั้ง 2 ข้าง หลายคนเริ่มจากปวดก่อน โดยไม่เห็นผื่น บางคนคิดว่าแค่ปวดเมื่อยธรรมดา แล้วอีก 1–2 วันตุ่มน้ำถึงจะขึ้น อิสุกอิใสเป็นจะมีตุ่มน้ำขึ้นกระจายทั่วตัวภายใน 1–2 วัน แตกเร็วและเป็นทั้งตัว
ทำไมเราถึงต้องรีบสังเกต ?
หมอตี๋ : เพราะถ้ารีบไปหาหมอ ภายใน 72 ชั่วโมงแรก (3 วันหลังจากตุ่มขึ้น) แล้วได้รับยาต้านไวรัส จะสามารถช่วยได้มาก เช่น ลดปริมาณเชื้อ ลดความรุนแรงของโรค ลดโอกาสเกิดแผลพุพองหรือภาวะแทรกซ้อน แต่ในชีวิตจริง คนส่วนใหญ่มักไปหาหมอช้า โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพราะทนเก่งหรือไม่อยากรบกวนลูกหลาน บางคนกว่าจะไปถึงมือหมอ ตุ่มพองเต็มตัวแล้ว เจ็บแสบและทรมานมาก
ถ้าขึ้นแค่ตุ่มเดียวไม่เป็นกลุ่ม ไม่เป็นแนวใช่งูสวัดไหม?
หมอตี๋ : มันจะคล้ายกับเริมมากกว่า เพราะงูสวัดจะขึ้นเรียงเป็นเส้นตามแนวเส้นประสาท และเริมจะขึ้นเป็นตุ่มน้ำใสเป็นหย่อมไม่เรียงเป็นเส้น ซึ่สามารถขึ้นได้ทุกที่แต่ที่เจอบ่อยคือ ริมฝีปากและอวัยวะเพศ (ส่วนใหญ่ติดจากการมีเพศสัมพันธ์) ผู้ที่เสี่ยงเป็นเริมคือคนที่นอนหลับไม่เพียงพอ หรือ ทำงานเป็นกะ
จริงไหมที่เขาว่าถ้าเป็นงูสวัดแล้วตุ่มพันรอบตัวจะตาย ?
หมอตี๋ : ปกติงูสวัดจะขึ้นแค่ข้างเดียว ไม่พันรอบตัว แต่ถ้าพันหรือกระจายทั้งตัวจะเจอในคนที่ภูมิคุ้มกันแย่มาก เช่น เป็นมะเร็ง ให้ยาคีโมฉายแสง หรือกินยากดภูมิ บางคนที่ภูมิคุ้มกันแย่มาก ๆ จะขึ้นทั้ง 2 ข้างได้ แต่จะไม่เกิดขึ้นบ่อยมันเลยจะดูคล้ายพันรอบตัว หรืออีกกลุ่มก็คือกระจายทั้งตัวเรียกว่าเป็นงูสวัดแบบรุนแรง ชนิดแพร่กระจาย โรครุนแรงได้จริง และเสี่ยงติดเชื้อแทรกซ้อนจนถึงขั้นเสียชีวิต
เวลาเสียชีวิตจากงูสวัดหมอเขาวินิจฉัยว่าอะไร ?
หมอตี๋ : ส่วนใหญ่จะมีภาวะแทรกซ้อน มีภาวะติดเชื้อกระแสเลือด หรือภาวะอื่น ๆ ที่ตามมาค่อนข้างเยอะ
งูสวัดขึ้นหน้าอันตรายแค่ไหน ?
หมอตี๋ : งูสวัดที่ขึ้นบนใบหน้าต้องระวังมาก เพราะว่าคือพื้นที่มันน้อยครับแล้วก็มันใกล้กับอวัยวะสำคัญหลายอย่าง เช่น ถ้าขึ้นหน้าผากกับปลายจมูกเสี่ยงเข้าตาอาจตาบอดได้ ถ้าขึ้นใกล้หูอาจโดนเส้นประสาทใบหน้าทำให้หน้าเบี้ยวสามารถอัมพาตครึ่งซีกได้ หลับตาไม่สนิท ถ้าขึ้นคางเคยมีรายงานว่าฟันโยกฟันหลุด โดยเฉพาะคนที่เป็นเบาหวานหรือภูมิคุ้มกันต่ำจะเกิดภาวะแทรกซ้อนแผลก็หายช้า เกิดการติดเชื้อซ้ำซ้อน
งูสวัดทำให้สมองเสื่อมได้จริงไหม ?
หมอตี๋ : โดยทั่วไปไม่ถึงขั้นสมองเสื่อมโดยตรง แต่ถ้าเป็นงูสวัดโดยเฉพาะขึ้นที่บริเวณใบหน้ามีอวัยวะสำคัญค่อนข้างเยอะ จึงมีความกังวลหลายอย่างและแนะนำให้รีบไปโรงพยาบาลทันทีไม่ต้องรอ
คนกลุ่มไหนที่มีโอกาสที่จะเสี่ยงเป็นงูสวัดง่ายกว่าคนทั่วไป ?
หมอตี๋ : ต่อให้ไม่ได้ป่วยเป็นโรคไหนเลยแค่เรามีอายุมากขึ้นความเสี่ยงก็สูงขึ้นแล้ว เนื่องจากภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงเท่าเดิมคนที่อายุ 50 ปีขึ้นไปเสี่ยงมากที่สุด เพราะภูมิคุ้มกันเริ่มอ่อนแอลงตามวัย โดยเฉพาะถ้ามีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง โรคปอดเรื้อรัง ผู้ป่วยมะเร็งหรือเป็น HIV ยิ่งเสี่ยงเพิ่มอีก 30–40% และมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนสูง ส่วนคนวัยทำงานที่เครียด พักผ่อนน้อย หรือทำงานเป็นกะก็เสี่ยงเช่นกัน เพราะภูมิคุ้มกันลดไว ทำให้ไวรัสที่ซ่อนอยู่ในร่างกายกำเริบขึ้นมาได้ทุกเมื่อ
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากงูสวัดมีอะไรบ้าง ร้ายแรงแค่ไหน ?
หมอตี๋ : ภาวะแทรกซ้อนจากงูสวัดที่เจอบ่อยคือ การติดเชื้อแบคทีเรียที่แผล โดยเฉพาะถ้าแผลเปิดแล้วไม่สะอาด เช่น มีคนไปเป่าหรือพ่นน้ำลายใส่ อาจลุกลามจนถึงขั้นติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ส่วนที่อันตรายอีกอย่างคือ ถ้างูสวัดขึ้นใกล้ตาอาจทำให้ตาบอดได้ หรือถ้าโดนเส้นประสาทสำคัญอาจปวดเรื้อรังแม้จะหายแล้ว เช่น ปวดแสบปวดร้อน ปวดเหมือนเข็มทิ่มอยู่ตลอดเวลา บางรายปวดนานหลายเดือนถึงเป็นปี โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ อาการปวดเรื้อรังหลังหายพบได้ถึง 50–60% ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก แม้ผื่นหายแล้วแต่ความเจ็บปวดยังอยู่
บางคนเขาว่าเป็นแล้วเจ็บมาก ทรมานมาก แสบร้อนจนนอนไม่ได้ จริงไหม ?
หมอตี๋ : จริงครับ ธรรมชาติแล้วงูสวัดก็จะมีอาการปวดแสบปวดร้อนเกิดขึ้น แต่ความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับแต่ละคน โดยบางคนเจ็บมากจนนอนไม่ได้ บางรายเป็นแค่ตุ่มน้ำไม่ปวดเลยก็มี แต่บางรายแค่เป็นนิดเดียวก็แสบมาก ซึ่งขึ้นกับความไวของเส้นประสาทและภูมิคุ้มกันของแต่ละคน ถ้ารักษาทันใน 1–2 สัปดาห์ อาการปวดมักหายไปพร้อมผื่น ยกเว้นในคนที่อายุเยอะหรือมีโรคร่วม อาจมีอาการปวดค้างอยู่ร่วมด้วยแม้ผื่นจะหายแล้ว ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ได้ในระยะยาว
เจอเคสอายุเยอะสุดเท่าไหร่ ?
หมอตี๋ : เคยเจอคนอายุ 80–90 ปีก็ยังเป็นงูสวัดได้ เพราะโรคนี้ไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุ ยิ่งอายุมาก ความเสี่ยงยิ่งสูง และยิ่งดูแลยากขึ้น ต้องคำนึงถึงโรคประจำตัว ยาที่กินอยู่ รวมถึงตับและไตด้วย แต่โชคดีที่ยารักษาเบิกได้ทุกสิทธิ์ และมีในแทบทุกโรงพยาบาล หมอเลยแนะนำว่า ถ้าเริ่มเป็นให้รีบไปโรงพยาบาลทันที ไม่ต้องรอ
ถ้าเป็นงูสวัด ต้องนอนโรงพยาบาลไหม หรือแค่กินยาที่บ้านก็พอ ?
หมอตี๋ : ส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้เป็นรุนแรงจะสามารถรักษาแบบกินยาที่บ้านได้เลยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล โดยยาหลัก ๆ คือ ยาต้านไวรัสที่ต้องกิน วันละ 5 เวลา ตามเวลาเป๊ะ ๆ (6 โมง, 10 โมง, บ่าย 2, 6 โมงเย็น, 4 ทุ่ม) ต่อเนื่องกัน 7 วัน ยาฆ่าเชื้อ และ ยาปฏิชีวนะถ้าเกิดว่ามีความเสี่ยงติดเชื้อแทรกซ้อน ยาแก้ปวด หรือ ยาลดการอักเสบของปลายประสาท เพื่อบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน แนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะ ๆ และถ้าทำได้ควรลางานเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว
เคสที่รุนแรงขนาดไหน ?
หมอตี๋ : มี 2 เคส คือ งูสวัดกระจายทั้งตัว โดยปกติงูสวัดจะขึ้นเป็นเส้น ๆ ข้างเดียว แต่เคสนี้กระจายทั่วตัวเลยทั้งหน้า ทั้งลำตัว เกิดขึ้นจากคนไข้มีภูมิคุ้มกันต่ำมาก เช่น กินยากดภูมิ หรือมีโรคประจำต้องแอดมิตนอนโรงพยาบาล และ ให้ยาทางเส้นเลือด อีกเคสคือผู้สูงอายุอายุ 70 ปี งูสวัดขึ้นข้างเดียวแต่เส้นใหญ่มากและลามครึ่งตัว คนไข้มาช้าเพราะเกรงใจลูกหลาน คิดว่าเดี๋ยวคงหายสุดท้ายตุ่มพุพองมาก ปวดเยอะ และลำบากในการดูแล
ถ้าคนที่บ้านเป็นงูสวัด คนรอบข้างต้องกลัวไหม เหมือนเวลาอยู่ใกล้คนเป็นอีสุกอีใสหรือไม่ ?
หมอตี๋ : ไม่ต้องระวังเท่าอีสุกอีใสแต่ต้องระวังเป็นพิเศษในบางคน เช่น เด็กเล็ก คนท้อง คนที่ไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน เพราะงูสวัดกับอีสุกอีใสเกิดจากไวรัสตัวเดียวกัน (VZV) ถ้าเราไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อนแล้วไปสัมผัส ตุ่มน้ำของคนที่เป็นงูสวัด โดยตรง (โดยเฉพาะตอนตุ่มแตก) เราอาจจะ ติดเชื้อและเป็น อีสุกอีใสได้ ถ้าไม่ได้จับตุ่มน้ำโดยตรง ไม่ได้อยู่ใกล้จนแนบชิดมาก ก็ ไม่ค่อยมีโอกาสติด
คนท้องเป็นงูสวัดได้ไหม ?
หมอตี๋ : คนท้องก็สามารถเป็นงูสวัดได้ โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อนหรือคนที่ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อไวรัส VZV ถ้าคนท้องติดเชื้อนี้ครั้งแรก จะเป็นอีสุกอีใสไม่ใช่งูสวัด มีความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์มีโอกาสเกิด ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น คลอดก่อนกำหนด ลูกตัวเล็ก ติดเชื้อในมดลูก ที่ร้ายแรงที่สุดทารกอาจเสียชีวิตในครรภ์ ถ้ามีคนในบ้านเป็นงูสวัด คนท้องควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ ห้ามสัมผัสแผลหรือตุ่มน้ำเด็ดขาดและควรแยกเสื้อผ้า ของใช้ และควรอยู่ห่างกัน
อีสุกอีใสเป็นได้ทุกวัยไหม หรือเป็นแค่ตอนเด็ก ๆ ?
หมอตี๋ : อิสุกอิใสส่วนใหญ่ที่เรารู้ก็คือมันเป็นตั้งแต่เด็ก ซึ่งอาจจะมี 3 กรณี คือ เป็นมาตั้งนานแล้วแต่จำไม่ได้ เป็นแบบเบามากจนไม่รู้ตัวว่าเคยเป็น ไม่เคยเป็นเลยจริงๆ ถ้าไม่เคยเป็นตอนเด็ก แล้วไปเป็นตอนโต จะมีอาการรุนแรงกว่า เช่น ไข้สูง ตุ่มน้ำแตกเยอะ และแผลขึ้นง่าย โดยเฉพาะถ้าเป็นที่หน้าจะทำให้เป็นแผลและรอยน่ากลัว
งูสวัดมีวิธีป้องกันยังไง ป้องกันได้ไหม ?
หมอตี๋ : ป้องกันได้ โรคงูสวัดเนี่ยเป็นโรคที่คาดการณ์ไม่ได้มันพร้อมที่จะเห่อขึ้นได้ทุกเมื่อ ขึ้นกับภูมิคุ้มกันที่มีดังนั้นการดูแลสุขภาพไม่ว่าจะเป็นการดื่มน้ำ พักผ่อนให้เพียพอ กินอาหารให้ครบ5หมู่ และการฉีดวัคซีนโปรตีนเฉพาะของไวรัสฉีดได้ในอายุ 50 ปีขึ้นไป ประสิทธิภาพค่อนข้างดีจากงานวิจัยสามารถที่จะป้องกันตัวงูสวัดได้ถึง 97 % แล้วก็ป้องกันเรื่องอาการปวดได้ 91%
ฉีดวัคซีนงูสวัดต้องเตรียมตัวยังไง ?
หมอตี๋ : ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก เหมือนวัคซีนทั่วไป อาจจะมีปวดเล็กน้อยมีไข้ต่ำ ๆ ฉีดทั้งหมด 2 เข็ม เข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 2 – 6 เดือน เมื่อฉีดครบแล้วไม่จำเป็นต้องไปฉีดซ้ำทุกปี จากการวินิจฉัยพบว่าภูมิคุ้มกันอยู่ได้นานกว่า 10 ปี
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
หมอตี๋ : การที่คิดว่าตัวเองคงไม่เป็นหรอก ซึ่งถึงแม้จะดูแลตัวเองดีแค่ไหน ความเสี่ยงก็ยังมีอยู่ เพราะโรคนี้มากับภูมิคุ้มกันที่ตกซึ่งไม่มีใครรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่ เป็นแล้วก็แค่ผื่น เดี๋ยวก็หายสิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่แค่ผื่นหรือแผลเป็น แต่คืออาการปวดเรื้อรังที่บางคนปวดอยู่นานเป็นเดือนเป็นปีแม้ผื่นจะหายแล้วซึ่งจะทรมานมาก โรคนี้เป็นแค่ในผู้สูงอายุ จริง ๆ แล้วงูสวัดสามารถเกิดได้ทุกวัย ตั้งแต่เด็กวัยทำงาน ไปจนถึงผู้สูงอายุ เพียงแต่ว่าเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงจะมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวัยไหนดูแลสุขภาพให้ดีกินอาหารให้ครบออกกำลังกายนอนให้พอและก็ควรจะต้องฉีดวัคซีนเมื่อถึงวัยที่ควรจะฉีดก็เป็นป้องกันตัวเองได้ดีที่สุด
สามารถติดตาม "Tuck Talk" ได้ที่ช่องทาง Podcast : Life Dot , Facebook: Life Dot , Youtube : Life Dot วันพฤหัสบดี (สัปดาห์เว้นสัปดาห์) เวลา 18.00 น.
คลิกชมรายการย้อนหลัง : https://www.youtube.com/watch?v=30Y5tpiZDD0&ab_channel=LIFEDOT