วันที่ 30 พ.ค.2568 พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจง ถึง การที่กองทัพบกกัมพูชา ออกแถลงการณ์ในข้อ4 ที่ว่า จะไม่ถอนกำลังทหารเขมร ออก เพราะอยู่มาก่อนมี MoU43 นั้น ว่า 1.การที่ฝ่ายกัมพูชาแถลงว่า ไม่ถอนกำลัง อาจเป็นไปได้ว่า ที่ว่าไม่ถอนกำลังนั้น ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่า จุดไหน ก็คงต้องใช้กลไกที่มีอยู่ในกรอบข้อตกลง ดำเนินการต่อไป แต่สำหรับจุดที่ปะทะกัน บริเวณคูเรต เมื่อ เช้า 28 พ.ค. พบว่าได้มีการถอยห่างกำลังเผชิญหน้าออกไปแล้ว ทั้งสองฝ่าย
2. ส่วนเรื่องเขตพื้นที่ ตามแนวชายแดนนั้น หากถามแต่ละฝ่าย ต่างฝ่ายต่างก็อ้างสิทธิ์ด้วยกัน อาจจะทำให้เถียงกันไม่จบ จึงต้องใช้กลไก ฝ่ายเทคนิค คณะทำงานงานปักปันเขตแดน (JBC) ผบ.ทบ. จะสนับสนุนให้มีการเร่งดำเนินการ
3. ดังนั้น ในระหว่างที่รอผลของคณะทำงาน JBC ฝ่ายไทย ก็คงจะใช้การลาดตระเวนดูแลพื้นที่ ด้วยจำนวนกำลังที่เหมาะสม ตามเงื่อนไขข้อตกลง MOU 43 เหมือนในทุกพื้นที่ตามแนวชายแดนฯ ที่มีปัญหาในเรื่องการอ้างสิทธิ์ทับซ้อนกัน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและของพี่น้องชาวไทย โดยยังคงยึดหลักในการไม่รุกรานอธิปไตยของฝ่ายกัมพูชาเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า พลเอก เมาโซะพัน พูดในที่ประชุมหลายประเด็น แต่ข้อเสนอ ฝ่ายไทย ให้ถอยจากแนวต้นพญาสัตบรรณ ตามMoU ปีคศ.2000 นั้น ฝ่ายกัมพูชา คงถอยไม่ได้ ซึ่งฝ่ายไทย ทราบดีอยู่แล้ว เพราะได้คุยผ่าน VTC เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 68 แล้ว