เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ที่กองบินตำรวจ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนกรณีเฮลิคอปเตอร์ตำรวจ รุ่น Bell 212 ตกในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนเป็นเหตุให้นักบินและช่างเครื่องเสียชีวิตรวม 3 นาย โดยยืนยันผลตรวจสอบเบื้องต้นว่า “น็อต 2 ตัวที่ยึดใบพัดหางเกิดการหลุด” ส่งผลให้ชุดใบพัดควบคุมทิศทางเสียการทรงตัวและใบพัดกระแทกกับตัวเครื่อง จนเป็นเหตุให้เฮลิคอปเตอร์ตก

ภายหลังการประชุมร่วมกับผู้บังคับการกองบินตำรวจและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง จเรตำรวจฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบซากเฮลิคอปเตอร์ที่ถูกลำเลียงกลับมายังกองบินตำรวจ พร้อมยืนยันว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเชิงลึก โดยจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตส.) และบริษัทผู้ผลิต เข้าร่วมตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นปัญหาจาก วัสดุหมดอายุ การซ่อมบำรุง หรือความผิดพลาดจากโรงงาน รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้างและงบประมาณการซ่อมที่อาจเกี่ยวข้อง

พล.ต.อ.ธัชชัย ย้ำว่า แม้น็อตที่หลุดจะยังอยู่ในอายุการใช้งานมากกว่า 600 ชั่วโมง แต่ต้องตรวจสอบว่าหลุดจากการใช้งานจริงหรือความบกพร่องจากการซ่อม ซึ่งตำรวจจะสอบสวนตามพยานหลักฐานอย่างละเอียด พร้อมยืนยันว่า “เรื่องใหญ่แบบนี้ ไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน”

ด้าน พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผบก.กองบินตำรวจ ยอมรับว่านี่เป็นเหตุการณ์สะเทือนใจต่อวงการการบินตำรวจ เพราะในรอบ 30 วันเกิดเหตุ ฮ.ตกถึง 2 ครั้ง ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องเร่งคลี่คลาย

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีกำหนดภารกิจในวันที่ 31 พ.ค. ใช้อากาศยานเดินทางไปทองผาภูมิ โดยกองบินตำรวจเตรียมความพร้อมอย่างเข้มงวด และเลือกใช้เฮลิคอปเตอร์ยูโร แทนรุ่น Bell ที่ตก เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย