วันที่  30 พฤษภาคม  2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ   ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์  นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ  และที่ปรึกษาเรือนจำศรีสะเกษ  ได้พานางสาวสายใจ  เศรษฐีหมุด  เลขานุการ มูลนิธิความหวังใหม่ ( New Hope Foundation )จากกรุงเทพฯนำสิ่งของในโครงการ อิสรภาพสู่สังคม มามอบให้ นายอรรถสิทธิ์  ทองแสง  ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีนางสาวชมบงกช สินธวาชีวะ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ ก็มาร่วมรับมอบสิ่งของให้เด็กในศูนย์ด้วย 

 

นางสาวสายใจ  เศรษฐีหมุด  เลขานุการ มูลนิธิความหวังใหม่ กล่าวว่า  ได้ทราบข่าวจาก ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ว่าทางเรือนจำยังขาดแคลนสิ่งของหลายอย่างที่จำเป็นสำหรับผู้ต้องขังได้ใช้ในระหว่างอยู่ในที่คุมขังและหลังปล่อย เพราะผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัว  ส่วนใหญ่ต้องโทษจำคุกมาหลายปี  เสื้อผ้าที่เคยใส่ตั้งแต่วันแรกที่เข้าคุกทีเก็บไว้ในเรือนจำ ก็ไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้อีก  และผู้ต้องโทษจำนวนมากไม่มีญาติมารับ  จึงทำให้กรมราชทัณฑ์ต้องจัดหาเสื้อผ้าที่ยังมีสภาพใช้งานได้ให้ผู้ต้องขังสวมใส่กลับบ้าน บางครั้งก็เดือดร้อนเจ้าหน้าที่    มูลนิธิความหวังใหม่จึงได้จัดหาเสื้อผ้าชาย-หญิง มามอบ เพื่อให้ผู้ต้องขังได้สวมใส่  และในโอกาสนี้ยังได้นำเสื้อผ้าของใช้เด็กเล็กมามอบให้หัวหน้าบ้านพักเด็กด้วย    

 

 

ด้าน ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ  และที่ปรึกษาเรือนจำศรีสะเกษ กล่าวว่า ตั้งแต่เป็นที่ปรึกษาเรือนจำศรีสะเกษ ได้เห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคนในเรือนจำ โดยเฉพาะ นายอรรถสิทธิ์ ทองแสง ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ ท่านใส่ใจในการทำงาน   สร้างบรรยากาศในเรือนจำให้ผู้ต้องขังได้รับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ผู้ต้องขังทุกคนควรได้รับการปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรม  

โดยมีการจัดหาสิ่งที่ขาดแคลนที่ไม่สามารถรองบประมาณได้ มามอบให้   อาทิ มุ้งลวดขาด ก็หาเงินมาซ่อมมาเปลี่ยน ให้   กล้องวงจรปิด CCTV บันทึกภาพเคลื่อนไหวไม่มี  ก็หามาติดตั้ง เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัย รวมถึงหนังสือไว้ในห้องสมุดเพื่อให้ผู้ต้องขังได้อ่าน จึงมีการจัดหาหนังสือที่มีประโยชน์มามอบให้ห้องสมุดของเรือนจำ 

ทั้งนี้ ดร.กัลยาณี ฝากถึงผู้มีจิตเมตตาว่าหากอยากช่วยเหลือผู้ต้องขังก็ทำได้หลายด้าน  ให้คำปรึกษา หรือช่วยหางานให้ทำหรือช่วยประสานให้ เพราะการมีงานทำเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เขาดำรงชีวิตได้ในสังคมปกติ เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัวออกสู่สังคม  เพราะสิ่งที่นักโทษต้องการมากคือการกลับเข้าไปอยู่ในสังคมได้ตามปกติและมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์   ผู้พ้นโทษเองมักจะขาดความมั่นใจเราจึงต้องหาทางช่วยเพื่อเขาจะได้ไม่คิดหวนกลับไปทำผิดอีก