ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ นายทักษิณ  ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาขู่ที่จะยุบ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)  อีกครั้ง  หลังกลับมาประเทศ ได้เกือบ 2 ปี

เพราะ นายทักษิณ เคยมีแนวคิดที่จะยุบ กอ.รมน.มาตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะ ช่วงที่จะยุบ พตท.43 หน่วยผสม พลเรือน ตำรวจ ทหารที่ 43 ที่ดูแลพื้นที่ชายแดนภาคใต้ จนถูกมองว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้สถานการณ์ใต้รุนแรงขึ้น

นายทักษิณ เอง ซึ่งเคยถูก ทหารทีมงานของ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี  รองผอ.รมน. ในเวลานั้น  คาร์บอมบ์ ลอบสังหาร  แถวย่าน บางพลัด ซังฮี้   ก็ย่อมไม่พอใจ  กอ.รมน.

แต่ในที่สุด  ก็ถูกรัฐประหาร เมื่อ 19 ก.ย. 2549 เสียก่อน จากนั้น “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน  ผบ.ทบ. ในเวลานั้น  ก็เดินหน้า เสริมความมั่นคงให้ กอ.รมน.  ด้วยการผลักดันให้รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ออก พ.ร.บ.รักษาความมั่นคง ปี2551 รองรับ และถึงขั้น ที่จะยกระดับ กอ.รมน. เป็น ทบวง ความมั่นคง  ให้เป็น เสมือน Homeland Security ตามอย่าง สหรัฐอเมริกา  แต่ทว่า  ต้องใช้งบประมาณสูง  และใช้เวลา จึงไม่ได้เกิดขึ้นจริง เพราะ รัฐบาล คมช. หมดอำนาจ หลังเลือกตั้ง

มาตอนนี้ นายทักษิณ  ก็มีความรู้สึกในด้านลบ กับ กอ.รมน. เช่นเดียวกับ นักการเมืองไทย ที่เคยถูก ทหาร กอ.รมน. ติดตาม สะกดรอย โดยเฉพาะฝ่ายค้าน และมายุคนี้ พรรคประชาชน อดีตพรรคอนาคตใหม่  ก็จะต่อต้าน กอ.รมน. อย่างมาก

แม้แต่ เอกสารงานการข่าว ของ กอ.รมน. ที่ ชยพล สท้อนดี  ส.ส.พรรคประชาชน อภิปรายฯในสภา ก็ระบุว่า ทักษิณ แอบอิงสถาบันฯ โดยมีชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ อนุทิน ชาญวีรกูล รวมอยู่ด้วย จนทำให้ อนุทิน ไม่พอใจ โพสต์ตำหนิ กอ.รมน. อย่างรุนแรง  จน โฆษก กอ.รมน. ต้องยืนยันว่า กอ.รมน.ไม่มีรายงานนั้น

ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ ของ กอ.รมน. เป็นไปในแง่ลบ  โดยเฉพาะ บทบาททางการเมือง ที่ไม่เป็นที่พึงประสงค์ แถมถูกมองว่า ไม่ค่อยมีผลงาน  เพราะเป็นหน่วยประสานงาน  เสียมากกว่า  กอ.รมน.กลายเป็นเสมือน จำเลยสังคม และ ไม่เป็นที่พึงประสงค์ เช่นกัน ของ นักการเมือง

ทักษิณ  ซึ่ง ไปปาฐกถาพิเศษ เรื่องยาเสพติด  ของ ปปส. ประกาศสงครามกับยาเสพติด โดยเฉพาะ ขู่ที่จะจัดการเด็ดขาด กับ กลุ่มว้าแดง ที่ผลิตยาบ้า และขอให้ทางกลาโหม มาช่วยในการปราบปราม

คาดว่า ทักษิณ  มีการศึกษา โครงสร้าง และการทำงานของ กอ.รมน. เพิ่มเติม  จึงมีการระบุว่า

กอ.รมน. ซึ่งมีทุกพื้นที่ นั้น มี 3 ส่วน ส่วนหนึ่ง คือ กำลังของ กอ.รมน. ส่วนที่ 2 คือ กำลังของการช่วยราชการ และส่วนที่3 คือตามตำแหน่งงาน ซึ่งมีงบประมาณอยู่ปีละ กว่า 7,000 ล้านบาท  โดยเอาไปใช้งานภาคใต้  กว่า 3,000 ล้าน อีก 4,000 กว่าล้านใช้ทั่วไป

“ผมมองว่าเที่ยวนี้ จะเป็นการพิสูจน์ เพราะมีคนบอกให้ยุบ กอ.รมน. ทิ้ง แต่ผมก็ยังไม่เชื่อว่าจะยุบ หรือไม่ยุบดี ดังนั้น กอ.รมน. จะเป็นคนคิดเอง ว่าควรจะยุบหรือไม่ และในพื้นที่ภาคใต้ และงานยาเสพติด กอ.รมน.ก็จะต้องมีบทบาทอย่างเข้มแข็ง เด็ดขาด ไม่เช่นนั้น คนก็จะฟ้องอีกว่า ช่วยยุบเถอะ เพราะเสียดาย 7,000 กว่าล้าน” นายทักษิณ ระบุ

ที่ถูกจับตามองว่า เป็นการขู่ที่จะยุบ กอ.รมน. แต่จะให้โอกาส ในการสร้างผลงาน จากการร่วมปราบปรามยาเสพติด อย่างเข้มแข็ง เด็ดขาด

หรืออาจเรียกได้ว่า  เป็นการวัด KPI ของ กอ.รมน.  ที่เป็นหน่วยงานในสังกัด สำนักนายกรัฐมนตรี และมี นายกฯ เป็น ผอ.รมน.

แต่ทว่า ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี มักจะปล่อยให้กองทัพบก โดยเฉพาะ ผบ.ทบ. ซึ่งเป็น รอง ผอ.รมน. ดูแล กอ.รมน.แทนนายกฯ มาเกือบทุกยุคสมัย กอ.รมน. จึงเป็นเสมือน  ขุมกำลัง ของ ทบ. ทั้งในแง่ กำลังคน เครื่องมือ  และ ขุมทรัพย์ จาก งบประมาณ กว่า 7 พันล้าน

เมื่อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลูกสาว มาเป็นนายกฯ และ ผอ.รมน. นายทักษิณ ซึ่งเป็นเสมือน ที่ปรึกษาส่วนตัว และนายกฯเงา  จึงอาจได้รับทราบข้อมูล กอ.รมน. มากขึ้น

เพราะ  กอ.รมน. ได้มีการปรับโครงสร้าง อัตรากำลังใหม่  จากเดิมที่ ไม่มีอัตราตำแหน่งคงที่  โดย ทหารในทบ.จะควบตำแหน่ง ใน กอ.รมน. และช่วยราชการ ด้วย  เสมือน สวมหมวก 2 ใบ

แต่ปัจจุบัน  มีตำแหน่งหลักใน กอ.รมน.  และรวมอยู่ในการแต่งตั้งโยกย้ายของ ทบ. ด้วย  ดังนั้น การยุบ กอ.รมน.จึงไม่ง่ายนัก เพราะต้องคำนึงถึง โครงสร้างกำลังพล ด้วย

แต่ที่กำลังถูกจับตาอย่างมากคือ  การที่ ทักษิณ ปลุกแนวคิด การยุบ กอ.รมน. ขึ้นมาอีกครั้ง สะเทือน“ดีล” หรือไม่  เพราะ ระหว่าง ทักษิณ กับ แกนนำ ขั้วอนุรักษ์นิยม  มีสัญญาใจ ที่จะไม่ล้างบาง หรือ เช็กบิล กองทัพ  ซึ่ง กอ.รมน. ก็คือ ส่วนหนึ่งของกองทัพ  โดยเฉพาะกองทัพบก

แม้จะมองได้ว่า ทักษิณ แค่ขู่ ไม่กล้าจะยุบ กอ.รมน จริง ก็ตาม  แต่ ก็ทำให้เกิด แรงกระเพื่อมในกองทัพ

อีกทั้ง คนที่คุม กอ.รมน. ก็คือ “บิ๊กปู” พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์  ผบ.ทบ. ที่เป็น รอง ผอ.รมน.  ที่มีกองบัญชาการที่ สวนรื่นฤดี และมี “เสธ.ย้อย” พล.อ.ธงชัย รอดย้อย  เสธ.ทบ. รวบ เลขาธิการ กอ.รมน.

ความสำคัญ ไม่ได้อยู่ที่  เก้าอี้ รอง ผอ.รมน.  แต่อยู่ที่ เก้าอี้ ผบ.ทบ. ที่ พล.อ.พนา นั่งอยู่  และมีอายุราชการถึง ต.ค.2570  นั่งยาว 3 ปี  ถือว่า เป็น ผบ.ทบ. ที่มีอำนาจมั่นคง แข็งแกร่ง และเคยเป็น ทหารคอแดง อีกด้วย

จึงจะเห็นว่า ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม  ที่แม้จะถูกมองว่า ใกล้ชิด ทักษิณ  แต่ในเรื่อง กอ.รมน. นี้ นายภูมิธรรม ก็ไม่ได้ แสดงออกว่า เห็นด้วย หรือไม่ แต่ด้วยความเข้าใจในกองทัพ เพราะนั่ง เก้าอี้ รมว กลาโหม มา เกือบปีแล้ว ภูมิธรรม  จึงระบุแค่เพียงว่า เรื่องนี้ต้องไปถาม ทักษิณ เพราะสิ่งที่พูดเป็นประสบการณ์และความคิดของท่าน ว่าท่านมีวิธีคิด  และเคยทำมาอย่างไร

“ส่วนเราจะทำอะไร แค่ไหน ก็ต้องนำมาพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่ ก็เป็นเพียงความเห็น ที่เราจะรับมาพิจารณาดำเนินการ เหมือนกับความเห็นของคนอื่นๆ” นายภูมิธรรม  ระบุ

อาจด้วยเพราะ ภูมิธรรม  รู้ดีว่า การ ยุบ กอ.รมน.ไม่ใช่เรื่องง่าย  อีกทั้ง ในขณะที่เป็นฝ่ายรัฐบาล จะเป็นฝ่ายได้ประโยชน์ จาก กอ.รมน. ที่ถือเป็นกลไกของรัฐบาล และ เป็นรัฐบาล ที่เกิดขึ้นจาก ดีล ทำให้ได้ความร่วมมือจากกองทัพ การยุบ กอ.รมน. จึงไม่เป็นผลดี  และ อาจเกิดปฏิกิริยา จากฝ่ายทหาร  และ จะสะเทือน ดีล ได้