ดนตรี / รุ่งฟ้า ลิ้มหัสนัยกุล
 

เดวิด แอนโธนี เบิร์ค คือชื่อในใบเกิด เรียนหนังสือที่บ้านแทนที่จะเป็นโรงเรียน ชอบเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ ชอบมากขนาดที่ตั้งความฝันไว้อยากเป็นเกมเมอร์อาชีพ ตั้งใจมากถึงขนาดที่ว่าอัพโหลดคลิปการเล่นเกมตัวเองลงในช่อง ยูทู้บ โดยใช้เพลงฮิทมาประกอบ แต่เจอปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ทันทีที่งานของเขาเริ่มได้รับความนิยม หนุ่มน้อยก็เลยตัดสินใจทำเพลงเองเสียเลย-ตามคำแนะนำของแม่ ถือเป็นจุดเริ่มต้นการเป็นนักร้อง-นักแต่งเพลงตั้งแต่อายุยังไม่เต็ม 15

และจากเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นบันทึกเสียงเพลงตัวเองด้วยโทรศัพท์มือถือในตู้เสื้อผ้า มีเพลงกลายเป็นไวรัล จนได้ออกอีพี. 2 ชุดเมื่อปี 2023 คือ Petals to Thorns และ The Lost Petals ต่อเนื่องด้วยการเดินทางไปแสดงคอนเสิร์ทในหลายประเทศทั่วโลก-รวมถึงเมืองไทยในเทศกาลดนตรี เวรี่ ปลายปีเดียวกัน  

ตอนนั้น เดวิด อายุ 18 ปี…

สองปีผ่านไป เด็กหนุ่มคนนั้นกลายเป็นชายหนุ่มที่เติบโตขึ้นมาก-อย่างที่ได้เห็นกับตาและได้ยินกับหูในครั้งล่าสุดที่เขามาพบปะแฟนคลับที่ด้านนอก ลิโด คอนเน็ค เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อโปรโมทอัลบั้มเต็มชุดแรก Withered งานที่เขาบอก (ผ่านข้อมูลของต้นสังกัด ดาร์ครูม/อินเตอร์สโคป เรคอร์ดส์) ว่า “ผมอยากจะให้แน่ใจว่า (อัลบั้มชุดนี้) เป็นเหมือนการอำลา แทนที่จะเป็นการแนะนำตัว เพราะผมได้แนะนำตัวเองไปเรียบร้อยแล้วในอีพี. 2 ชุดที่ผ่านมา”

งาน “อำลา” ของ เดวิด โดยรวมอาจไม่แตกต่างจากงาน “แนะนำตัว” เพราะเรื่องราวยังวนเวียนอยู่กับความรัก ความสูญเสีย ความเศร้า ความสับสน และการยอมรับ ผ่านดนตรีอีเล็คทริค เบ๊ดรูม-ป็อปอันเป็นจุดเริ่มต้น ที่ต่างไป-หรืออาจจะเรียกว่าสิ่งที่เพิ่มเข้ามามากกว่า ก็คือสีสันดนตรีอาร์แอนด์บีที่ทำให้เพลงของเขาเข้มข้นขึ้น ได้อารมณ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และแสดงให้เห็นว่าชายหนุ่มวัย 20 ปีหมาดๆคนนี้มี “ของ” ทั้งในเรื่องการร้องเพลง และการทำเพลงป็อปเมโลดี้สวยที่ฟังแล้วติดใจได้ไม่ยากเย็น

อัลบั้ม Withered  มีทั้งสิ้น 15 เพลง ร้อยเรียงวางจังหวะในการฟังได้ลื่นไหลต่อเนื่อง ในอารมณ์เพลงกลาง ๆถึงช้า ผ่านน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยเรื่องราว กับเพลงอย่าง “Sky”, “You Left Me First”, “Say It Back” และ “Where’d It Go Wrong” รวมทั้ง “Crashing” ที่ได้ คาลิ อูชิส มาร่วมร้องนั้นจับใจและบาดลึก ส่วนเพลงที่พอจะทำให้เลือดลมสูบฉีดบ้างก็ไปเกือบท้ายๆแล้ว อย่าง “Feel It” กับ “What Are You Waiting For” ก่อนจะผ่อนจังหวะช้าลงกับ “One More Dance” ที่สวยเศร้า และพาคนฟังดิ่งลึกไปกับความรู้สึกท่วมท้นที่แม้ตัวตายไปแล้วก็ยังรักใน “After Life” อะคูสติคบัลลาดที่ใช้เสียงเครื่องสายเติมความใหญ่ และให้อารมณ์ “เต็ม” ปิดอัลบั้มได้สมบูรณ์แบบ

พร้อมแล้วจะเข้าสู่ “บทใหม่” ที่คนฟังอยากรู้เหมือนกันว่า เดวิด จะขยับก้าวไปในทิศทางไหน แต่เชื่อว่าคงจะสดใส  เพราะอย่างน้อยที่สุด เขามีพร้อมทั้งฝีมือในการแต่งเพลงป็อปไพเราะ และการร้องอารมณ์ลึกที่ยอดเยี่ยม-อย่างที่ได้ยินเขาร้อง “สด” ให้ฟังที่หน้า ลิโดฯ หัวค่ำวันนั้น

ที่สำคัญ เขาเพิ่ง 20 ปีเท่านั้นเอง  

 

 

ขอบคุณภาพจาก : Universal Music Thailand