ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 22.00 น.พ.ต.อ.ทองรชฎ เหรียญสวงษ์ ผกก.สภ.ทำอากาศยานสุวรรณภูมิ / พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี / พ.ต.ท.ธงชัย สมาน รอง ผกก.สส.3 / พ.ต.ต.มนต์ชัย เหลืองประเสริฐ รอง 3 บก.สส.ภ.1 / พ.ต.ท.สิทธิ์ทวี ปัญญาคม สว.กก.สสส.3 / พ.ต.ท.คเชนทร์ บุญทวี. รอง ผกก.สส.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ / พ.ต.ท.ภาวัต รัตนาภรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางพลี / พ.ต.ต.สันติราษฎร์ เงินมั่น สว.สส.สถ.บางพลี ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายณัฐชัย อาย 45 ปี ชาว อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี 

 

สืบเนื่อง จากกรณี ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมทีมงาน พานายทนงค์ศักดิ์ อายุ 27 ปี และ น.ส.นันท์ณภสร อายุ 29 ปี สองสามีภรรยาชาวเชียงใหม่ ซึ่งภรรยากำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน เดินทางมาพบกับ พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี เพื่อติดตามความคืบหน้าและร้องทุกข์ ยื่นพยานหลักฐาน เช่น คลิปวงจรปิด แชต และสลิปโอนเงิน แจ้งความข้อหาเพิ่มเติม ได้แก่ ฉ้อโกงประชาชน และกักขังหน่วงเหนี่ยว หลังถูกหลอกซื้อรถหลุดจำนำผ่านเฟซบุ๊ก มูลค่ากว่า 640,000 บาท ที่หน้าร้านกาแฟหน้าตลาด หัวถนน บางพลี เมื่อโอนเงินส่วนที่เหลือ 627,000 บาทแล้ว กลับถูกชายที่นำรถมาส่งขับรถหนีไปทั้งที่ภรรยานั่งอยู่ในรถ ผู้เสียหายพยายามตามขึ้นไปช่วย ก่อนผู้ก่อเหตุจะทิ้งรถหลบหนี แม้ภายหลังตำรวจ สภ.บางพลี จะเข้ามาไกล่เกลี่ย แต่กลับระบุว่าผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าของรถตัวจริงและไม่สามารถดำเนินคดีได้ ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 พ.ค 68 ที่ ตลาดหัวถนน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจในชั้นสืบสวน พบว่า ทั้ง นายทนงค์ศักดิ์ และ นายสันติ อายุ 28 ปี (ตัวแทนเจ้าของรถ) ต่างก็เป็นผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายรายเดียวกันหลอกลวง โดยมิจฉาชีพได้อาศัยช่องทางออนไลน์ นำข้อมูลรถกระบะที่เจ้าของตัวจริงประกาศขายไว้มาปลอมเป็นโพสต์ของตนเอง พร้อมแอบอ้างเป็น “นายหน้า” ติดต่อหลอกนายมานพให้หลงเชื่อว่าเป็นดีลจริง เมื่อถึงวันนัดหมายรับรถ คนร้ายได้จัดฉากให้ทั้งสองฝ่ายมาเจอกัน โดย นายทนงค์ศักดิ์ เข้าใจว่าเป็นการส่งมอบรถตามที่ตกลง และได้โอนเงินจำนวนกว่า 620,000 บาท ที่ค้างอยู่ หลังจากโอนมัดจำไปแล้ว จำนวน 7,000 บาท รวมแล้ว 627,000 บาทไปยังบัญชีของคนร้ายตามคำแนะนำ ขณะที่นายสันติ ตัวแทนเจ้าของรถที่มารอส่งมอบกลับไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว เมื่อทราบว่าไม่ได้รับเงิน นายสันติ  จึงไม่ยินยอมให้รถออกจากพื้นที่ และพยายามจะนำรถกลับไปเอง ขณะเดียวกัน  นายทนงค์ศักดิ์ ซึ่งเชื่อว่าได้จ่ายเงินครบถ้วนแล้ว จึงไม่ยอม และเกิดการแย่งรถกันจนเกิดเหตุวุ่นวายในตลาด ก่อนที่ฝ่าย นายทนงค์ศักดิ์ จะตัดสินใจกระโดดขึ้นท้ายรถที่ นายสันติ กำลังขับออกไป โดยมีภรรยา นายทนงค์ศักดิ์ ซึ่งตั้งครรภ์ 8 เดือนอยู่ภายในด้วย

 

หลังจากนั้นฝ่ายสืบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุมตัว นายณัฐชัย  อายุ 45 ปี ผู้ต้องหา ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านเตาปูน จังหวัดนนทบุรี โดย นายณัฐชัย ให้การรับสารภาพว่า เห็น นายทนงค์ศักดิ์  ซึ่งเป็นนายทุนรับซื้อรถ โพสต์ว่าต้องการรับซื้อรถ ตนจึงนัด นายสันติและนายนายทนงค์ศักดิ์  มายังจุดนัดพบซึ่งทั้งคู่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เมื่อมาถึง ตนก็จัดฉากให้เจ้าของรถไปรอที่ร้านกาแฟ และให้ นายทนงค์ศักดิ์ ซึ่งเป็นฝ่ายคนซื้อเดินดูรถ เมื่อถูกใจ ตนก็ให้ นายทนงค์ศักดิ์ โอนให้ตนในราคา 620,000 บาท เมื่อตนรับโอนเงินแล้วก็ให้ นายทนงค์ศักดิ์ เข้าไปเอากุญแจ กับนาย สันติ ในร้านกาแฟ ส่วนตน ได้วิ่งไปขึ้นรถ จยย.ของเพื่อนที่ร่วมขบวนที่จอดรออยู่ริมถนนหลบหนีไปและไปขึ้นรถกระบะอีกคันที่จอดรออยู่ริมถนน ห่างจากที่เกิดเหตุไปไม่ไกล หลบหนีไป และไปเบิกเงินสดที่ ธนาคาร ตนได้เงินสดไป 620,000 บาท และ แบ่งให้ผู้ร่วมขบวนการไป 300,000 บาท ยอมรับว่าเงินใช้หมดไปแล้วเพราะตนติดการพนันออนไลน์และเอาเงินไปใช้หนี้