วันที่ 29 พ.ค.68 ที่ห้องประชุมแคนา 1 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี (อาคาร 19) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) อีสาน นครราชสีมา นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รอง ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานจัดการประชุมความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง ระหว่าง มทร.อีสาน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดยมี รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดี มทร.อีสาน นายเฮ้อไจ้ เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท CRRC นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบัน NIRT นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธาน บริษัท CHELOVE ฯ นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา, นายบุญส่ง สุทธิโตคร ผู้อำนวยการสำนักช่างเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา, ดร.ธีรพงศ์ คณาศักดิ์ รองประธานหอการค้านครราชสีมา, นายไพสิทธิ์ ปิติทรงสวัสดิ์ ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา, นายอาทิตย์ ชามขุนทด ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา ,นายจำนงค์ แสงเงิน หัวหน้ากองจัดการเดินรถเขต 2 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) , นายขจร ศิวรังสรรค์ รองกรรมการผู้จัดการหัวหน้าหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมระบบราง, นายวัฒนา สมานจิตร อุปนายกสมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทยและนายสุรวุฒิ เชิดชัย อดีตนายก ทน.นครราชสีมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชิดชัยคอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมปรึกษาหารือและเป็นสักขีพยานลงนามความร่วมมือ
โดย รศ.ดร.โฆษิต อธิการบดี มทร.อีสาน พร้อม ร.ศ ดร.อภิชิต คำภาหล้า คณบดีคณะระบบรางและการขนส่ง ร่วมนำเสนอจุดประสงค์ของความร่วมมือซึ่งเป็นจุดเด่นทางเทคนิคของผลิตภัณฑ์ระบบขนส่ง DRT และรถไฟฟ้ารางเบา รวมถึงแนวคิดความร่วมมือการบริหารจัดการตลอดวงจรชีวิตของขบวนรถไฟ สถาบัน NIRT กล่าวถึง ภาพรวมของสถาบันจุดแข็งของหลักสูตรและแนวทางการจัดตั้งวิทยาลัยระบบรางจีน–ไทย (NIRT สาขาต่างประเทศ) ทั้งนี้ได้หารือการเตรียมพร้อมดำเนินโครงการระบบ DRT งบ 100 ล้านบาท โดยใช้เทคโนโลยีแถบแม่เหล็กนำทางอัตโนมัติในรถโดยสารระบบล้อยางในการขนส่งผู้โดยสารจากตัวเมือง นครราชสีมาไปมหกรรมพืชสวนโลก 2572 ที่ อ.คง การดำเนินแผนรถไฟฟ้ารางเบาในประเทศไทย ผลักดันให้ จ.นครราชสีมา เป็นหลักด้านอุตสาหกรรมระบบราง โดยความร่วมมือทั้ง 4 ฝ่าย จากนั้นได้มอบป้ายสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ทั้ง 4 หน่วยงาน
นายวิจิตร รอง ผวจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า กิจกรรมครั้งนี้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ก่อให้เกิดแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมและนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดในระดับประเทศและนานาชาติ โดยริเริ่มสานสัมพันธ์อันดีระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา พันธมิตรทุกภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศ ที่มีเจตจำนงมุ่งมั่นร่วมพัฒนาด้านเทคโนโลยีและระบบขนส่งทางราง เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ สร้างนวัตกรรมและพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมระบบรางสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและเป้าหมายการพัฒนาประเทศรวมทั้งร่วมจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง เพื่อให้ จ.นครราชสีมา ในฐานะศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะระบบคมนาคมขนส่ง การมีสถาบันความร่วมมือในพื้นที่ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการยกระดับขีดความสามารถของภูมิภาค ให้รองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ด้าน รศ.ดร.โฆษิต อธิการ มทร.อีสาน กล่าวว่า ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุน มทร.อีสาน ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านระบบรางให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ เพื่อเป็นประโยชน์และมีบทบาทสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล มทร.อีสาน ได้พันธมิตรในการร่วมพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า EV เช่น บริษัท CHELOVE เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและเป็นผู้นำในการให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีขั้นสูงแบบครบวงจร ด้านการขนส่งทางราง บริษัท CRRC เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศจีนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและการผลิตอุปกรณ์ขนส่งทางราง ซึ่งมีขนาดใหญ่ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์รถไฟของจีน และสถาบันที่ผลิตบุคลาที่มีคุณภาพด้านเทคโนโลยีและการจัดการระบบราง สถาบัน NIRT เป็นวิทยาลัยตั้งอยู่ในพื้นที่ตอนในของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองและมีระดับการพัฒนาระบบรถไฟสูงที่สุดในประเทศจีน
การจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัย การพัฒนาบุคลากร การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการสร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้และฝึกประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติต่อไป