ถกงบวันที่ 2 เดือด! “พริษฐ์” ฉะ “พิเชษฐ์” จัดงบปรับปรุงรัฐสภา ไม่เร่งด่วน-ไม่เป็นประโยชน์ คือความเลวร้าย จ่อเชิญสอบในกมธ. ด้าน "พิเชษฐ์" ท้าตรวจสอบได้ทุกเมื่อ “ภัณฑิล” แฉ“งบฯสภา”มีโครงการพิสดาร ถามกลับ “พิเชษฐ์” สร้างคลังแสงไว้ปราบ “ส.ส.”กันเองหรือไม่ ส่วน“รมช.คลัง”อัด “ณัฐพงษ์” รู้แก่ใจประเทศไทยไม่ใกล้เคียงรัฐล้มเหลว แต่ชอบใช้โวหารการเมืองสะท้อนภาพมุมลบ
ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.)เมื่อวันที่ 29 พ.ค.68 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรณีสภาฯกำลังพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย 2569 วันเดียวกันนี้จะเข้าไปรับฟังการอภิปรายหรือไม่ว่า “ไม่เข้า เข้าพรุ่งนี้ (30 พ.ค.)”
ส่วนที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ (เป็นพิเศษ) ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระแรก เป็นวันที่สอง ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่การอภิปราย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ใช้สิทธิพาดพิงของนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่หนึ่ง กรณีการตรวจสอบงบประมาณเพื่อใช้ปรับปรุงพื้นที่รัฐสภา ว่า การตรวจสอบโดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาฯ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประชาธิปไตย โดยการทุจริตไม่ได้เกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณเท่านั้น แต่การตั้งงบฯ ที่ไม่จำเป็นคือความเลวร้าย เพราะนำงบประมาณที่เป็นเงินภาษีของประชาชนมาใช้ในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์หรือจำเป็นเร่งด่วน เช่น การตกแต่งฉากหลังบัลลังก์ประธาน งบประมาณ 133 ล้านบาท แม้มีกระบวนการโปร่งใส แต่มุมมองของตนไม่ควรใช้เงินภาษีของประชาชนสักบาทไปทำ เพราะไม่ได้ทำให้การประชุมสภาฯ มีประสิทธิภาพ และหากผู้บริหารไม่สามารถตอบคำถามจนประชาชนหมดข้อสงสัย จะทำให้สภาฯเสียหาย
ทำให้ นายพิเชษฐ์ ลุกขึ้นชี้แจงว่า งบประมาณการก่อสร้างรัฐสภา หมื่นล้านบาท จริงๆแล้วคือ 2 หมื่นล้านบาท แต่ถูกตัดงบ จึงต้องคอยตั้งงบเพิ่มในแต่ละปี เพื่อก่อสร้างให้ครบตามแบบไว้ ตนในฐานะผู้บริหารยืนยันจะปกป้องงบของรัฐสภาเต็มที่และพร้อมให้กมธ.ตรวจสอบ ไม่มีปัญหา
“กรณีที่กมธ.การพัฒนาการเมือง เชิญข้าราชการสภาฯ ไปชี้แจง เป็นข้าราชการตัวเล็กตัวน้อย แต่พบสิ่งที่เลวร้ายที่สุด คือ ไลฟ์สดต้อนให้ตอบให้ได้ แล้วเป็นพระเอก เป็นวีรบุรุษโซเชียล จากนั้นนำไปตัดต่อ ตัดตอน ลงในติ๊กต๊อก ยูทูป ทำให้ข้าราชการเสียหาย ซึ่งท่านรับผิดชอบได้หรือไม่ เพราะทัวร์ลงข้าราชการรัฐสภา” นายพิเชษฐ์ กล่าว
“วันนี้สภาฯ เป็นสภาที่เป็นเกียรติ ศักดิ์ศรีของประเทศ อยู่เป็นอันดับสองของโลก หากทำที่จอดรถครบ จะเป็นอันดับหนึ่งของโลก ทั้งนี้การทำงบสามารถตรวจสอบได่ทุกเวลา อย่างกรณีที่มีประเด็นหมูกะทะ สตง. และ ปปง. ได้ตั้งสำนักงานชั่วคราวที่สภาฯ ตรวจสอบได้เต็มที่ สมัยสภาฯอู่ทองใน มีโรงฉายภาพยนตร์ จุคนได้ 100-200 คน ฉายหนังความเป็นมาของรัฐสภาไทย ปัจจุบันจะทำเป็น 4D เพื่อรองรับแขกเมือง งบแค่ 8,000 ล้านบาท จากงบ 3หมื่นล้านบาทต่อสู่ได้เท่านี้ รวมถึงเสาไม้สักที่ต้องบำรุงรักษา” นายพิเชษฐ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายพริษฐ์ ใช้สิทธิอภิปรายต่อว่า “หากมีการประชุมครั้งต่อไป จะเชิญท่านมาเอง” ทำให้นายพิเชษฐ์ กล่าวตอบโต้ว่า “ผมจะพาท่าน และนายภัณฑิล น่วมเจิม สส.พรรคประชาชน พร้อมสื่อมวลชน เดินไปกับผมและผมพร้อมชี้แจงทุกอย่าง
ต่อมาเวลา 10.38 น. นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายโดยกล่าวไปถึงนายพิเชษฐ์ ว่า "ไม่ต้องโกรธกันครับท่านประธาน ผมก็อภิปราย เพื่อประโยชน์ของพวกเรา และพี่น้องประชาชน และหากท่านจะชี้แจงอย่างไร ขอให้เป็นตอนจบทีเดียว ซึ่งการพยายามใช้เงินเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ก็ยังย่ามใจ พยายามดันให้สุดซอย ทั้งยังมีความพยายามสร้างอะไรประหลาดพิสดาร อย่างโครงการคลังแสงอาวุธยุทธภัณฑ์ และการบริหารจัดการด้านอาวุธของเจ้าหน้า ที่ตำรวจสภา ที่อยู่บริเวณใต้ห้องประชุมสุริยัน จะนำมาทำเป็นคลังอาวุธ มีไปทำไมคลังแสงอาวุธ จะไปสู้รัฐประหารหรือ ท่านมาสู้อะไรตอนนี้ ท่านก็ไปแก้รัฐธรรมนูญเอา ถ้ามีคนทำรัฐประหาร หรือจะเอามาปราบพวกเรากันเอง อยู่ข้างใต้พวกเรา ขึ้นลิฟต์มาชั้นเดียว น่ากลัวจริงๆ
"ถ้าสภาฯแห่งนี้ ยังมีมโนสำนึก ความละอายต่อประชาชนที่เขาเลือกท่านผู้ทรงเกียรติเข้ามาทั้งหลาย เราควรสำรวจตัวเอง ติดตามประเมินการใช้งบประมาณในทุกรายการอย่างเข้มงวด ทำให้เป็นตัวอย่าง เข้าใจครับ เราไม่อยากมาเผาบ้านตัวเอง กวาดบ้านตัวเองให้สะอาด ก่อนไปตรวจสอบหน่วยงานอื่น ช่วยกันจับทุจริต ประหยัดงบสภา หาเงินช่วยรัฐบาลเขา อย่าคิดว่าไม่ได้เป็นรัฐมนตรี จะอยู่เหนือการตรวจสอบ ไม่มีใครสามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดนี้ สามารถพาท่านไปทานข้าวแถวสนามบินน้ำได้แน่นอน เพราะถูกรางวัลทุจริต เจอกันที่ ป.ป.ช."
ต่อมา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า กรณีที่ สส.บางคนเรียกร้องให้รัฐบาลถอนร่างกฎหมายงบประมาณไปปรับปรุง ไม่สามารถทำได้ เพราะจะไม่ทันรอบการใช้งบประมาณ ทั้งนี้การพิจารณาปรับแก้ ปรับเปลี่ยนมีความยืดยุ่นเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นประเทศไทยมีความยืดยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้
“สมมติฐานที่เป็นห่วง เห็นอยู่ แต่จากที่เห็นตามตัวอย่างที่ผู้นำฝ่ายค้านอภิปรายวานนี้ พบว่าสมมติฐานนั้นไม่ถูกต้อง เพราะศาลของสหรัฐชะลอการดำเนินการมาตรการภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งขณะนี้นายกฯ ได้หารือกับทีมที่บ้านพิษณุโลก แต่หากถามผมก็ตอบไม่ได้ เพราะต้องวิเคราะห์ข้อมูล ดังนั้นต้องพิจารณา หากไปถึงชั้นกรรมาธิการจะเสนอความคิดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของประเทศ รัฐบาลไม่ติดขัด” นายจุลพันธ์ ชี้แจง
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ อภิปรายว่าประเทศไทยจะกลายเป็นรัฐล้มเหลวและถูกนำไปขยายความ ตนขอชี้แจงว่าประเทศไทยไม่ใกล้เคียงกับรัฐล้มเหลว เพราะไม่มีสงครามกลางเมือง รัฐบาลควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินได้ครบถ้วน ไม่มีการบุกรุกพื้นที่ชายแดน กรอบอาณาบริเวณของความเป็นรัฐไม่เกิด ตนทราบว่าท่านทราบดีว่าไม่ใช่ และไม่ใกล้เคียง แต่เป็นโวหารทางการเมือง แต่เมื่อสื่อสารและถูกนำไปเล่น ควรรับผิดชอบในการใช้คำ ท่านไม่ชอบรัฐบาลได้ แต่ต้องรักษาประเทศ
“การสะท้อนมุมมองเชิงลบ ที่ใช้ในรัฐสภา ทำให้มุมมองต่อประเทศไทยเป็นไปในเชิงลบ ทั้งผม และท่าน และที่คนเรียนรัฐศาสตร์ก็รู้ไม่ใกล้เคียงเลย ผมขอยืนยันไม่มี คำๆ นี้ ท่านไม่ชอบรัฐบาลได้ แต่อย่าใช้คำว่ารัฐล้มเหลว เพราะไม่ใช่และใกล้เคียงเลย” นายจุลพันธ์ กล่าว