วันที่ 29 พ.ค.68 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ต่อเป็นวันที่ 2 นายพิเชษฐ์ ชี้แจงกรณีที่นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม.พรรคประชาชน ถึงการสร้างงบประมาณของสภาฯว่า ตอนนี้ของบยังไม่ได้ เพราะแบบกำลังทำจะเสร็จแล้ว สำหรับที่จอดรถ สภาฯ ถูกยกเลิกไป 1 ชั้น จากธรรมดามีใต้ดิน 3 ชั้น เพราะเราถูกลดงบประมาณ ฉะนั้น ถ้าทำที่จอดรถที่บอกจบแล้วก็จะไม่มีที่ก่อสร้างใดๆ แล้วในสภาแห่งนี้ ส่วนพื้นที่ใช้สอยที่มีเยอะแยะมากมาย แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ปล่อยทิ้งร้างนั้น เมื่อมาถึงสมัยนี้ กำลังคัดเลือกประธานสโมสร และร่างระเบียบสโมสร เพื่อไปทำกิจกรรมต่างๆ
“ส่วนของสภาที่ท่านพูด ถูกต้อง กว้างขวาง แต่ประโยชน์น้อย ท่านเดินไปตามกลุ่มงานต่างๆ นั่งหลังชนกัน เดินแทบจะไม่ได้ การออกแบบเขาก็ไม่ได้คิดว่า ใช้ประโยชน์อย่างไร ที่กว้างแต่ใช้สอยได้น้อย เจ้าหน้าที่ต้องแออัดกันอยู่ โต๊ะทำงานก็แคบๆ เหมือนกันหมด ฉะนั้น ถ้าเราขยับขยายได้ พื้นที่ที่เราพัฒนาก็จะจบไป” นายพิเชษฐ์ กล่าว
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องคลังแสง สภาฯ ใหม่ของเราวันนี้ตำรวจทุกคนไม่มีอาวุธ ถ้ามีผู้ก่อการร้าย และเอาอาวุธครบมือมา เราตายหมด ทั้งหมดนี้เมื่อเกิดเหตุเราจะไม่มีใครป้องกันตัวได้ และสภาทั่วโลกจะมีกองเกียรติยศคือตำรวจชุดที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ฉะนั้น ถ้าเราไม่ทำของเราให้พร้อม ตนคิดว่าก็ไม่มีโอกาสที่จะทำอีก ขณะที่เรื่องของประชาธิปไตย หลังจากที่เราถูกปฏิวัติรัฐประหาร ความเชื่อมโยงการติดต่อประชาชน เราขาดการติดต่อจากประชาชน ฉะนั้น การอบรม เยาวชนก็เป็นคุณค่าที่ฝ่ายนิติบัญญัติจะลงสู่พื้นที่ และท่านสามารถไปตรวจสอบได้ว่า ทุกอย่างเพื่อให้นิติบัญญัติ ได้มีโอกาสเข้าถึงประชาชน
นายพิเชษฐ์ ทิ้งท้ายว่า "ผมจะคุยกับท่าน ถ้ามีปัญหาจะเอาข้อมูลอะไร เราก็ยินดี และผมก็จะตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่บริหารสภาฯ"