วันที่ 29 พ.ค.2568 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ให้ส้มภาษณ์ถึงการประชุมสภาฯ ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2569 ว่า การพิจารณากฎหมาย และ พ.ร.ก. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วน พ.ร.บ.งบประมาณฯ ตั้งแต่ที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เสนอร่าง ตนเห็นว่าสภาและประชาชน ทราบดีว่ารัฐบาลมีความตั้งใจในการใช้งบอย่างไร สำหรับฝ่ายค้าน โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน ได้อภิปรายมุ่งหวังให้รัฐบาลได้ปรับปรุงแนวการทำงาน เพื่อเป็นประโยชน์กับประชาชนมาที่สุด อีกทั้งผู้ใช้งบประมาณจะนำความคิดเห็นนี้ไปปรับปรุงในการดำเนินงานต่อไปหลังวันที่ 31 พ.ค.นี้ สภาผู้แทนราษฎรก็จะได้ตั้งคณะกรรมการวิสามัญ 72 คน ร่วมอภิปรายปรับปรุง ในกรอบเวลา 105 วัน แก้ไขงบประมาณให้ได้ประโยชน์สูงสุด

เมื่อถามว่าบรรยากาศการประชุม ที่มีเวลาพิจารณาร่างงบประมาณฯ 5 ชั่วโมง แต่กลับมี สส. เข้าร่วมประชุมกันบางตา ต้องมีการกำชับอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายวันนอร์ กล่าวว่า แม้ว่า สส.ไม่อยู่ในห้องประชุม แต่ส่วนหนึ่งอยู่ในห้องทำงานของตัวเอง ในห้องคณะกรรมธิการ  หรืออาจไปทำภารกิจ แต่ทุกคนก็ฟังทางโทรทัศน์ วิทยุ แม้กระทั่งตน ก็ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมแต่ก็ฟังตลอดเวลา เพราะการอภิปรายเป็นสิ่งที่น่าสนใจ มีการพัฒนามาก ไม่น่าเบื่อหน่าย

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีควรจะนั่งฟัง ร่วมประชุมด้วยหรือไม่ ประธานสภาฯ กล่าวว่า รัฐมนตรีก็พยายามมาตอบในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับของตัวเอง วันนี้คงมีรัฐมนตรีเตรียมตัวมาตอบจนถึงวันพรุ่งนี้ซึ่งวันสุดท้าย ก็คงจะมีการซักจากฝ่ายค้าน และรัฐบาลมีหน้าที่ตอบ ไม่ได้ตอบสมาชิกสภาเท่านั้น แต่การถามและการตอบในสภาหมายถึงประชาชนทั่วประเทศได้รับฟังด้วย สื่อมวลชนก็รับฟังและไปวิพากษ์วิจารณ์ต่อได้ เป็นการเสนองบประมาณที่มีประโยชน์ พัฒนาจากหลายๆปีที่ผ่านมา ถือว่าปีนี้ดีขึ้น

เมื่อถามถึงกรณีที่กรณี น.ส.กุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว. ยื่นตรวจสอบจริยธรรม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย เห็นเรื่องแล้วหรือไม่ ประธานสภาฯ กล่าวว่า ก็เป็นการดำเนินการในฐานะของประชาชน ก็เสนอได้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องไปตรวจสอบดูแล ให้เป็นไปตามขั้นตอนและกฎหมาย