“ภูมิธรรม” มอบ “บิ๊กปู ผบ.ทบ” เจรจา“ผบ.ทบ.กัมพูชา ”ปมปะทะ ช่องบก 31 พ.ค.นี้ หลังคุย “ฮุนมาเน็ต-เตีย เสร็ยฮา” เผยทหารสองฝ่ายยังอยู่ในพื้นที่ปะทะ พักคุยเรื่องเขตแดนไว้ก่อน ให้อารมณ์ทุกฝ่ายนิ่งก่อน ยันไทยไม่ได้กลัว ไม่อ่อนแอ่ แต่สงครามไม่เป็นผลดีกับใคร
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงสถานการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า ทุกฝ่ายทุกเกี่ยวข้องพยายามให้เหตุการณ์ยุติ ทาง พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. สั่งการให้ใช้ความอดทน อดกลั้น อย่าให้บานปลาย ให้เจรจาคุยกันก่อนในทุกระดับ โดย พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุข์ ผบ.ทบ.ไทย จะพูดคุยกับ พล.อ.เมา โซะพัน ผบ.ทบ.กัมพูชา วันที่ 31 พ.ค.นี้ ขณะที่ตนได้คุยกับ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รมว.กลาโหม กัมพูชา และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ได้พูดคุยกับฝ่ายเสนาธิการของ รมว.กลาโหม กัมพูชา เป็นการใช้ทุกช่องทางพูดคุยกัน ทางฝ่ายกัมพูชาใส่ใจและสนใจในเรื่องนี้
“ผมได้คุยกับ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา ทางเขายืนยันว่า ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงหรือการรบกัน เพราะไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย และพล.อ.ฮุน มาเนต ได้คุยกับ พล.อ.เมา โซะพัน ผบ.ทบ.กัมพูชา ข้อสรุปเบื้องต้นในขณะนี้ อย่าให้ทุกคนเข้าไปจนเกิดการปะทะกันขึ้นหรือเกิดการยั่วยุขึ้น ทุกคนต้องหยุด และกลับไปอยู่ในจุดเดิม ซึ่งเมื่อฟังข้อมูลทั้ง 2 ฝ่าย ระดับนโยบาย ที่อยู่ข้างบนอาจไม่เข้าใจรายละเอียดในพื้นที่ ดึงนั้นจึงมีข้อสรุปตรงกันให้ ผบ.ทบ. 2 ฝ่ายไปพูดคุยกัน ในส่วนของตนมอบอำนาจให้ ผบ.ทบ. ไปพูดคุยวันเสาร์นี้ (31พ.ค.) ส่วนในเรื่องพื้นที่จะเป็นของใครยังไม่มีการพูดถึง เพื่อรอให้อารมณ์ของทุกฝ่ายนิ่งก่อน ถ้าเถียงว่าเป็นของใครก็จะหาข้อยุติยาก เพื่อให้หลีกเลี่ยงการปะทะกัน และไปคุยในรายละเอียด” นายภูมิธรรมกล่าว
เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่กับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดขึ้นบ่อย แสดงว่าในระดับนโยบายมีปัญหาหรือไม่ เพราะมีการละเมิด MOU 2543 ถึง 2 ครั้งในการเข้าไปขุดคูเลตในพื้นที่ช่องบก นายภูมิธรรมกล่าวว่า ในระดับนโยบายเราคุยกัน จริงใจและจริงจัง ไม่มีปัญหา แต่จากนั้นเป็นการคุยกันรายละเอียด นับจากประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เป็นต้นมาก็ดีมาตลอด ในระดับผู้บังคับหน่วย และ ผบ.ทบ.คุยกันดีมาตลอด มีการโทรศัพท์ติดต่อประสานงานต่อเนื่อง ได้คุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ก็ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาใดๆ แต่ทั้งหมดต้องหาข้อสรุปให้ได้ ว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นของใคร หรือเป็นพื้นที่อ้างสิทธิก็ต้องเคลียร์ว่า MOU 2543 ปฏิบัติกันอย่างไร
เมื่อถามว่า มีการมองว่าฝ่ายกัมพูชาไม่จริงใจในการทำตามข้อตกลงนั้น นายภูมิธรรมยืนยันว่า ฝ่ายกัมพูชามีความจริงใจ ถ้าคิดว่าเขาไม่จริงใจ ก็จะทำให้ทะเลาะกัน ความเป็นจริงคือทุกฝ่ายเข้าใจกัน แต่อาจมีปัญหาที่มองต่างกัน
เมื่อถามว่า กรณีที่มีการมองว่าฝ่ายกัมพูชาขยิบตาให้ระดับพื้นที่ดำเนินการนั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า อย่าไปคิดอย่างนั้น เพราะถ้าคิดว่ารขยิบตา เดี๋ยวจะยิงกัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการยิงกันโดยอาวุธเล็ก เป็นการเกิดอุบัติเหตุกันตอนมืด
เมื่อถามย้ำว่าแต่ช่วงเวลาปะทะกินเวลา 10 นาที นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่อาจจะตอบได้ว่าเกิดอะไร ทุกอย่างอยู่ที่ความเป็นจริง อย่าไปจินตนาการ
นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า จากที่คุยกับฝ่ายกัมพูชา ยืนยันว่าในระดับพื้นที่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา พร้อมยังพูดถึงสมเด็จฮุน เซ็น ที่มีการพูดคุยในหลายๆส่วน เป็นความเข้าใจที่ไม่ตรงกันของระดับปฏิบัติก็ต้องเคลียร์ แต่ระดับนโยบายก็เข้าใจกันดี ซึ่งในพื้นที่อาจทำความเข้าใจกันไม่ดี ก็ต้องให้เวลา
สำหรับภายหลังการประชุมจีบีซี. ที่ให้ยึด MOU 2543 ทางทหารกัมพูชาก็ยังขยับเข้ามา นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปสรุปแบบนั้น ให้มีการประชุมในวันที่ 31 พ.ค.นี้ก่อน โดย ผบ.ทบ.รู้ข้อมูลในพื้นที่ และในวันนี้ได้เอาภาพถ่ายทางอากาศมาแสดงให้เห็นหลักฐานว่า อยู่กันอย่างไร อย่าเพิ่งใจร้อน เพราะสงครามไม่มีประโยชน์กับใคร
เมื่อถามว่าระดับนโยบายหนักใจหรือไม่ ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากนโยบายหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า มีหลายสาเหตุ อย่าเพิ่งไปคิดว่าเป็นเรื่องนโยบาย แต่ไม่หนักใจ เพราะต้องทำความเข้าใจ ทุกคนอาจไม่รู้ข้อมูลทั้งหมด จึงเป็นเรื่องของอารมณ์และความรู้สึก
เมื่อถามว่าสถานการณ์ที่เพื่อนบ้านไม่ยำเกรงไทย เพราะสถานการณ์ภายในของไทยอ่อนแอหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา เกิดขึ้นก็ต้องแก้ ขณะนี้มีปัญหาหลายอย่างก็จริง รวมถึงปัญหาวิกฤตการณ์ของโลก แต่อย่าไปกังวล เพราะคนเลือกเข้ามาแก้ปัญหา ขอให้ประชาชนสบายใจ เราหลีกเลี่ยงการปะทะ รัฐบาลสองประเทศคุยกันอยู่ในจุดยืนเดิม
ส่วนการตีเรื่องเขตแดนเป็นของใคร เกิดขึ้นตลอด เรื่องเขตแดนทั่วโลกก็ไม่มีใครคุยจบ จึงต้องหาจุดที่ 2 ฝ่ายยอมรับได้ แต่แนวโน้มที่ดีของโลก คือ การหาแนวทางแก้ไขโดยสันติวิธี ไม่ว่าจะเป็นข้อเรียกร้ององค์กระระหว่างประเทศส่วนใด ก็ให้ใช้ความอดทนอดกลั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเรากลัว หรืออ่อนแอ แต่เราไม่อยากให้เกิด เพราะสงครามไม่ดีกับใครสักฝ่าย ผู้ที่ได้รับผลกระทบคือประชาชน
เมื่อถามว่า รมว.กลาโหมกัมพูชา ได้ให้เหตุผลหรือไม่ทำไมเข้ามาขุตคูเลต นายภูมิธรรม กล่าวว่า ระดับนโยบายเข้าใจกันดี ต่างฝ่ายต่างอยู่ระดับบน ดังนั้นสิ่งที่ไม่เข้าใจในพื้นที่ต้องให้เขาคุยกันจะดีกว่า แต่เรายืนยันในหลักการว่าจะรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ให้เกิดความรุนแรง ทั้งสองฝ่ายต้องแยกจากกัน ไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า เพื่อการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการเข้าไปคุยในพื้นที่ ซึ่งจะง่ายกว่า ตอนนี้ทหารทั้งสองฝ่าย ยังนั่งอยู่ตามแนวพื้นที่และคุยกันไป การใช้คำว่าเผชิญหน้าอาจเกินเลยเกินไป เพราะฉะนั้นอย่ากังวลมากเกิดไป ตราบใดที่ทหารยังคุยกันได้
เมื่อถามว่าได้รับรายงานความสูญเสียจากเหตุการณ์ปะทะวันนี้ (28พ.ค.) หรือไม่ หลังมีรายงานฝ่ายกัมพูชาเจ็บ 4 นาย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปะทะกันก็คงมีบ้าง เป็นธรรมดา อย่าไปขยายความเลย เพราะจะไปเกิดอารมณ์กับผู้คน และเหตุที่เกิดเล็กมาก เมื่อเกิดเหตุก็ระงับและพูดคุยกัน เพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า