191 รวบผู้ต้องหา ตระเวนลักทรัพย์หมู่บ้านหรู 

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 28 พ.ค. พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ สั่งการให้ พ.ต.ต.ณัฐดนัย บำรุงศรี สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ จับกุมตัวนายกฤษณีย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 755/2568 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ความผิดฐาน บุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืนและลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด และนายนิติกร หรือนิ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ชนิดเกล็ดใส บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสชนิดกดปิด-ดึงเปิด น้ำหนักชั่งพร้อมถุงประมาณ 0.48 กรัม ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 27 เม็ด อุปกรณ์การเสพยาเสพติด จำนวน 2 ชุด และตรวจยึด รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น ซีบี 500 เอ็กซ์เอ สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน  ชลบุรี ที่ใช้ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์  หมวกฃกันน็อค 1 ใบ ธนบัตรไทย ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 5 ฉบับ เหรียญสกุลเงินต่างประเทศ จำนวน 35 เหรียญ กำไร คล้ายหยก จำนวน 1 วง แหวน จำนวน 4 วง กระเป๋าสะพาย สีดำ จำนวน 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยจับกุมได้บริเวณบ้านไม่มีเลขที่ ถ.รังสิต-นครนายก ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา
 
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 พ.ค. เวลาประมาณ 16.30 น. สน.คันนายาว และ งานสายตรวจ2 กก.สายตรวจ บก.สปพ. ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์สินภายในบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านย่านปัญญาอินทรา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ได้ทรัพย์สินเป็น ธนบัตรเงินต่างประเทศ เช่น ธนบัตรเงินดอลลาร์สหรัฐ, ธนบัตรเงินดอลลาร์ไต้หวัน และธนบัตรเงินหยวน รวมมูลค่าเป็นเงินไทยราคาประมาณ 500,000 บาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว และ ตำรวจงานสายตรวจ2 กก.สายตรวจ บก.สปพ. ได้ทำการสืบสวนจนกระทั้งทราบตำหนิ รูปพรรณ และยานพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ โดยพบว่าคนร้ายจะขับขี่รถจักรยานยนต์ เป็นยานพาหนะโดยคนร้ายจะเลือกเป้าหมายที่เป็นหมู่บ้านหรู ก่อนก่อเหตุคนร้ายจะมีการเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วใช้ถุงน่องปิดบังบริเวณศีรษะเพื่อให้ไม่สามารถจดจำตำหนิรูปพรรณได้ เมื่อก่อเหตุเสร็จคนร้ายก็ได้เปลี่ยนกลับเป็นชุดเดิม และขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญามีนบุรี กระทั่งวันที่ 27 พ.ค. เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนหาข่าวจนทราบว่าชายไทยไม่ทราบชื่อ ปรากฏตามภาพถ่าย ตามหมายจับหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บริเวณบ้านไม่มีเลขที่ ถ.รังสิต-นครนายก ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงได้นำกำลังเดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณบ้านหลังดังกล่าว พบรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ จอดอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเฝ้าติดตามพฤติกรรม

กระทั้งเวลาประมาณ 21.40 น. พบชายไทยไม่ทราบชื่อ ซึ่งมีลักษณะรูปพรรณตรงกับบุคคลตามหมายจับทราบว่าภายหลังนายแก้ว หรือนายกฤษณีย์ และนายนิติกร หรือนิ กำลังช่วยกันเข็นรถจักรยานยนต์เข้าไปเก็บที่บริเวณข้างบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปแสดงตัวเข้าจับกุม

จากการสอบสวนเบื้องต้นทั้ง 2 คน ให้การยอมรับว่าเป็นบุคคลตามภาพถ่ายในหมายจับจริง และได้เข้าไปลักทรัพย์ที่บ้านที่เกิดเหตุในหมู่บ้านปัญญาอินทราจริง และได้มาพักที่บ้านของนายนิติกร จากการตรวจสอบภายในบ้านพัก ไม่พบทรัพย์สินที่ได้ของผู้เสียหาย แต่พบยาเสพติดข้างต้นทพร้อมอุปกร์การเสพยาเสพติดวางอยู่ที่บริเวณห้องนอนชั้นล่าง โดยยอมรับว่ายาที่พบได้ร่วมกันนำมาเสพ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์,ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมแฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย

จากการตรวจสอบประวัตินายแก้ว ยังพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ 478/2565 ลงวันที่ 23 ตุลาคม 2565 ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเคหะสถาน ในเวลากลางคืน โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า, หมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ 477/2565 ลงวันที่ 23 ตุลาคม 2565 ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเคหะสถาน ในเวลากลางคืน และพบประวัติการกระทำความผิดและเคยถูกจับกุม อีก 7 คดี ประกอบด้วย เสพยาเสพติด ในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา ปี 2553  คดีพกพาอาวุธปืนฯ พื้นที่ สภ.นิคมพัฒนา จว.ระยอง ปี 2554 คดีครอบครองยาไอซ์ พื้นที่ สภ.บางละมุง จว.ชลบุรี ปี 2558 คดีเสพยาเสพติดในขณะขับขี่ พื้นที่ สภ.บางละมุง จว.ชลบุรี คดีลักทรัพย์โดยทำลายสิ่งกีดขวาง คดีลักทรัพย์ พื้นที่ สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี  และคดี มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต สน.สำราญราษฎร์

ส่วนนายนิติกรพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 264/2566 ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 ความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

จากนั้นนำตัวผู้ถูกจับทั้ง 2 คนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ธัญบุรี เพื่อดำเนินคดี  ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์,ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมแฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย และประสานพนักงานสอบสวนเจ้าของพื้นที่ที่มีหมายจับอายัดตัวดำเนินคดีต่อไป