เมื่อพูดถึง “ปลาหมอคางดำ” หลายคนอาจนึกถึงผู้รุกราน ปลาต่างถิ่นที่แพร่ระบาดรวดเร็วและกระทบกับปลาพื้นถิ่น วิถีชีวิตของปลาพื้นถิ่น แต่วันนี้ ปลาหมอคางดำได้เปลี่ยนสถานะมาเป็น “ผู้สร้างโอกาส” ผ่านการแปรรูปเชิงสร้างสรรค์ในรูปแบบ น้ำปลาหมอคางดำ ที่ทั้งหอมเข้มข้นและกลมกล่อม ครบเครื่องเรื่องรสชาติและคุณค่า และยังเป็นโอกาสสร้างงานสร้างรายได้ให้กับคนไทย

โครงการนำร่องแปรรูป “น้ำปลา” เป็นความร่วมมือช่วยเหลือสังคมเพื่อนำปลาหมอคางดำมาใช้ประโยชน์เป็นของดี ระหว่างกรมประมง กรมราชทัณฑ์ และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ดำเนินการ “กำจัดพร้อมแปรรูป” หมักปลาหมอคางดำที่ถูกจับออกจากแหล่งน้ำ ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นหมักจนได้รสน้ำปลาที่กลมกล่อม สะอาด และปลอดภัย พร้อมกับจัดเป็นกิจกรรมฝึกวิชาชีพให้กับผู้ต้องขังนำไปใช้เป็นทางเลือกประกอบอาชีพในอนาคต

เริ่มตั้งแต่ปี 2567 มี 4 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบุรี และสมุทรปราการ ผนึกพลังช่วยกันจับปลาหมอคางดำจากแหล่งน้ำมาหมักเป็นน้ำปลา ภายใต้แบรนด์ “หับเผย” เป็นของดีประจำถิ่นและประจำครัว  ทั้ง 4 จังหวัดตั้งเป้าแปรรูปปลาหมอคางดำกว่า 20,000 กิโลกรัมเปลี่ยนมาเป็นน้ำปลา 

กิจกรรมผลิตน้ำปลาจากปลาหมอคางดำนอกจากเป็นอีกแนวทางการฟื้นฟูระบบนิเวศเท่านั้น โครงการนี้ยังมีมิติเชิงสังคม  ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังมีส่วนร่วมในกระบวนการผลิต ฝึกฝนลงมือทำจริงเสริมสร้างทักษะในการประกอบอาชีพ เตรียมความพร้อมกลับคืนสู่สังคมอย่างมีคุณค่า 

ด้วยสูตรการหมักของปราชญ์ชุมชนที่ต้องการร่วมช่วยกันแก้ปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำ นำสูตรหมักน้ำปลาของบ้านมาปรับให้เหมาะกับปลาหมอคางดำจนได้น้ำปลารสชาติกลมกล่อม กลิ่นหอม และด้วยกรรมวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ระหว่างการหมักไม่มีกลิ่นรบกวนชุมชนข้างเคียง 
นอกจากเรือนจำกลางทั้ง 4 จังหวัด การแปรรูปน้ำปลาหมอคางดำ ยังช่วยจุดประกายให้กับสถานีตำรวจภูธรยังสนใจ ร่วมโครงการจัดอบรมให้ตำรวจและครอบครัวเรียนรู้การทำน้ำปลาไว้บริโภคในครัวเรือนและต่อยอดเป็นรายได้เสริมต่อไป

นายนิรัตน สนิทมัจโร ประมงจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า น้ำปลาหมอคางดำ คือ win-win-win ทั้งเป็นแนวทางช่วยกำจัดปลาต่างถิ่น การแก้ปัญหาที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์  จังหวัดสมุทรสงคราม หรือจังหวัดติดทะเลยังเป็นแหล่งผลิตเกลือสมุทรชั้นยอด จึงสามารถกล่าวได้ว่า น้ำปลาหมอคางดำ ใช้ของที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาเพิ่มผลิตภัณฑ์คุณภาพประจำชุมชนจากฝีมือคนไทยเอง

ปัจจุบัน น้ำปลาหมอคางดำอยู่ในช่วงหมักที่ใช้เวลาประมาณ 1 ปี และอยู่ระหว่างพัฒนาบรรจุภัณฑ์ โดยคาดว่าจะเปิดตัว “หับเผยแม่กลอง” อย่างเป็นทางการภายในปีนี้ ตามมาด้วย น้ำปลาตรา “หับเผยเขากลิ้ง” “หับเผยสมุทรสาคร” และ “หับเผยสมุทรปราการ” ออกมาจำหน่ายให้ทุกคนได้เลือกช็อป ผลิตภัณฑ์รสชาติอร่อย พร้อมได้ช่วยสนับสนุนกิจการของกรมราชทัณฑ์  ซึ่งนับเป็นแนวทางการแปรรูปปลาหมอคางดำเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์อย่างเป็นระบบ ส่งเสริมให้เกิดการบริโภคได้อย่างกว้างขวางเพราะน้ำปลาเป็นเครื่องปรุงคู่ครัวไทย

น้ำปลาหมอคางดำ คือเครื่องพิสูจน์ว่า “ความคิดสร้างสรรค์” สามารถเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส เปลี่ยนปลาต่างถิ่นเป็นทรัพยากรมีค่า และเปลี่ยนมุมมองผู้บริโภคต่อสิ่งที่เคยมองข้าม…ให้กลายเป็นของดีที่คู่ควรกับทุกครัวไทย

เปิดสูตร “น้ำปลาแท้” จากปลาหมอคางดำ ใช้วัตถุดิบหลัก 2 อย่าง คือ ปลาหมอคางดำ กับ เกลือสมุทร ในอัตราส่วน 4 ต่อ 1  หมักในโอ่งดิน ซึ่งจะใช้ปลา 120 กิโลกรัม เกลือสมุทร 30 กิโลกรัม กระบวนการหมักต้องนำปลามาทำความสะอาดก่อน ใส่เกลือและปลาลงในโอ่งสลับเป็นชั้น สัดส่วนปลา 4 ถ้วย เกลือ 1 ถ้วย จนเต็มโอ่ง สูตรนี้ไม่ต้องเคล้าปลากับเกลือ พอเต็มโอ่งใช้พลาสติกปิดฝากันน้ำเข้า มัดปากโอ่งให้สนิทด้วยเชือกขันชะเนาะ ทับด้วยฝาไม้ หมักทิ้งไว้ในที่แจ้งนาน 12 เดือน ก่อนจะได้เป็นน้ำปลารสกลมกล่อม กลิ่นหอมไว้บริโภคในครัวเรือน หรือจัดจำหน่ายต่อไป