วันที่ 28 พ.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม กล่าวถึงการพูดคุยกับผู้บัญชาการทหารเรือในเรื่องเรือดำน้ำ ว่า จริงๆได้คุยกันมาหลายครั้งแล้ว เรื่องเรือดำน้ำต้องเคลียร์ใน 2 ส่วน คือ 1.การเอาเข้า ครม. ให้ตัดสินใจ และ 2.การแก้ไขสัญญา ถ้าเอายืนยันไม่เกินเดือนมิถุนายนนี้จบแน่นอน
สำหรับเรือฟริเกต ที่กองทัพเรือเสนอขอมานั้น นายภูมิธรรม ยอมรับว่า ได้ลำเดียว แม้ว่าการที่จะซื้อเรือควรจะซื้อเป็นคู่ และเสนอมาเป็นคู่ แต่ตอนนั้นเรื่องเรือดำน้ำยังไม่จบ จึงคิดว่ามันจะเป็นภาระ จึงต้องปฏิบัติตามแนวที่ควรจะเป็น และตอนนี้มีงบสำหรับแค่ลำเดียว ก็ให้ไปก่อน เนื่องจากรัฐบาลต้องใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมาก
“ก็ไม่มีอะไรขัดข้อง เมื่อต้องการเรือ 2 ลำ แต่ตอนนี้ความพร้อมของรัฐบาลให้ได้ลำเดียวก่อน ก็ให้เสนอลำเดียวเข้าในงบประมาณปี 69 แต่ยอมรับว่าต้องมี 2 ลำ ซึ่งฝ่ายนโยบายก็เห็นตรงกันว่าต้องมี 2 ลำ แต่ตอนนี้มันมีได้ลำเดียว ก็ลำเดียวก่อน
ถ้าจัดการปัญหาเรื่องเรือดำน้ำจบ หลังจากนี้ก็ว่าไปตามเรื่อง เพราะเราก็เห็นใจกองทัพเรือ และอีกหลายๆหน่วย ทั้งตำรวจ ทหารบก ทหารอากาศ ซึ่งก็มีเรื่องของเครื่องยนต์และอาวุธที่เสียหาย ก็ต้องดำเนินการซื้อทดแทน ถ้าไม่เกิดปัญหาเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจก็ให้ได้หมด“
ส่วนกรณีนายกรัฐมนตรี พร้อมที่จะสนับสนุนงบประมาณให้ตำรวจซื้อเฮลิคอปเตอร์ หลังมีปัญหา ฮ.ตก ในขณะที่กองทัพบกก็ใช้ ฮ. เบลล์ 212 เช่นกันเราต้องมาดู
ในส่วนของกองทัพบก และสนับสนุนด้วยเช่นกัน ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนให้นโยบายไปแล้วในการจัดงบประมาณครั้งหน้า อยากจะเคลียร์เรื่องยุทโธปกรณ์ที่จะต้องซ่อมแซม เพราะการซื้อใหม่มันใช้เวลามากกว่า ซึ่งการซ่อมแซมทำได้ แต่ต้องมีมาตรฐานและให้หลักการที่ควรคุยกับบริษัทผู้ผลิต ซึ่งจะได้มาตรฐานกว่า และหาทางเรียนรู้ซึ่งกันและกัน โดยให้อุตสาหกรรมป้องกันประเทศภายใน หรือหน่วยที่เกี่ยวข้องได้ไปร่วมและเรียนรู้
ซึ่ง ฮ. ของตำรวจที่ตก เข้าประจำการปี 2516 ก็ 52 ปีมาแล้ว ซึ่งก็คงไม่ไหวแล้ว และไม่ได้ให้เฉพาะตำรวจ แต่ละส่วนก็ต้องดูว่าขาดเหลืออะไร ก็เป็นวิถีเป็นแนวคิดนโยบายที่พร้อมจะให้ แต่ให้ไปสำรวจมาก่อน
เมื่อถามย้ำว่า ในส่วนนี้รวมถึงเรือฟริเกตที่จะขออัพเกรดด้วยหรือไม่ เพราะขอจัดซื้อเรือฟริเกตได้เพียง 1 ลำจะเหลืองบส่วนนี้เอาไปอัพเกรดเรืออื่น นายภูมิธรรม ตอบกลับทันทีว่า งบไม่เหลือ เพราะเอามาจ่ายเรือดำน้ำ เนื่องจากงบเรือดำน้ำไม่ได้ตั้งไว้ ส่วนเรือที่จะต้องมีการอัพเกรดก็จะดูตามความเป็นจริงแต่โดยหลักการก็พยายามจะให้ทำอยู่แล้ว