วันที่ 28 พ.ค.68 นายภูมิธรรม  เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม สัญจร ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ วังนันทอุทยาน  โดยมีปลัดกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ และผู้บัญชาการทหารอากาศร่วมประชุมด้วย 

พันเอกหญิงดังใจ  สุวรรณกิตติ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า รมว.กลาโหม  สั่งการในการส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ  โดย การส่งเสริมการใช้งานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศจากผู้ผลิตภายในประเทศ   กระบวนการนำยุทโธปกรณ์เข้าประจำการในเหล่าทัพ ประกอบด้วย 3 กระบวนการย่อย ได้แก่  1.การพิจารณายุทโธปกรณ์เพื่อใช้ในเหล่าทัพ (การรับรองแบบยุทโธปกรณ์)  2.การจัดทำแผนงานโครงการยุทโธปกรณ์  3. การจัดหายุทโธปกรณ์  ในกระบวนการพิจารณายุทโธปกรณ์มาใช้ในเหล่าทัพ หรือการรับรองแบบยุทโธปกรณ์ มีเป้าหมายให้ได้ผลลัพธ์คือ ผลการรับรองแบบยุทโธปกรณ์ ที่สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำโครงการและการจัดหายุทโธปกรณ์ต่อไป 
 
ขั้นตอนสำคัญในการพิจารณายุทโธปกรณ์มาใช้ในเหล่าทัพ หรือการรับรองแบบยุทโธปกรณ์ คือ การกำหนดคุณลักษณะทั่วไปของยุทโธปกรณ์ ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านยุทธการ การส่งกำลังบำรุง และคุณลักษณะทางเทคนิค โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติมว่ายุทโธปกรณ์ที่จะนำมาใช้ต้องเป็นยุทโธปกรณ์ที่มีประจำการในกองทัพประเทศผู้ผลิตหรือกองทัพประเทศอื่นๆ 
 
อย่างไรก็ดี เงื่อนไขดังกล่าวทำให้ผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการไทยที่ยังไม่เคยเข้าประจำการในกองทัพ ไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการพิจารณารับรองแบบยุทโธปกรณ์ได้ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศภายในประเทศ 
 
ดังนั้นเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย และเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ จึงขอเสนอแนวทาง ดังนี้ 
 
1.ปรับปรุงเงื่อนไขในการกำหนดคุณลักษณะทั่วไปของยุทโธปกรณ์ โดยกำหนดว่า "เป็นยุทโธปกรณ์ที่มีประจำการในกองทัพประเทศผู้ผลิตหรือกองทัพประเทศอื่นๆ หรือผ่านการรับรองมาตรฐานของกระทรวงกลาโหมหรือเหล่าทัพ
 
2) นำปัจจัยความเกื้อกูลต่ออุตสาหกรรมป้องกันประเทศมาประกอบการพิจารณา เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทย และกระตุ้นการพัฒนาเทคโนโลยีและการผลิตในประเทศ 

3)ในขั้นตอนการจัดหายุทโธปกรณ์ ซึ่งต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 หากเหล่าทัพต้องการส่งเสริมการใช้งานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศจากผู้ผลิตภายในประเทศ สามารถกำหนดในร่างขอบเขตของงาน (TOR) ว่าเป็นพัสดุที่ผลิตภายในประเทศ ซึ่งเป็นไปตามคู่มือการปฏิบัติตามกฎกระทรวง กำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัด