วันที่ 28 พ.ค.68 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม สัญจร ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ วังนันทอุทยาน โดยมีปลัดกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ และผู้บัญชาการทหารอากาศร่วมประชุมด้วย โดยมีการหารือ เรื่อง การเตรียมพร้อมในการชี้แจง ร่าง พรบ งบประมาณ 2569 ที่เข้าสู่การพิจารณาของสภา
พันเอกหญิงดังใจ สุวรรณกิตติ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม ได้กล่าวขอบคุณ พลเอกณัฐพล นาคพานิชย์ รมช.กลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และกำลังพลทุกนาย ที่ได้ปฏิบัติภารกิจและขับเคลื่อนการดำเนินงานที่สำคัญของกระทรวงกลาโหมในห้วงเดือนที่ผ่านมา ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งการสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาต่างๆ และได้สั่งการในการประชุมสภากลาโหมที่ ห้องประชุมสุพรรณหงส์ ชั้น 6 อาคารกองบัญชาการทหารเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน ว่า ในด้านกิจกรรมพิเศษ.ได้ให้หน่วยต่างๆ จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี วันที่ 3 มิถุนายน 2568 อย่างสมพระเกียรติ พร้อมเชิญชวนกำลังพลและครอบครัวร่วมลงนามถวายพระพรผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ และประชาสัมพันธ์พระราชกรณียกิจของทั้งสองพระองค์ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง
การช่วยเหลือประชาชนในห้วงฤดูฝน เน้นการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติในฤดูฝนที่เพิ่งเริ่มต้น พร้อมเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินกำลังพลและเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดน เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศให้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้วเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกมากกว่า 60% ของพื้นที่ และในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคมจะเป็นช่วงฝนตกชุกหนาแน่นพร้อมความเสี่ยงจากพายุหมุนเขตร้อน
จึงสั่งให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการกองทัพไทย และเหล่าทัพ โดยเฉพาะหน่วยระดับพื้นที่ จัดเตรียมความพร้อมด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัย เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที
ขณะเดียวกัน ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาหนี้สินของกำลังพลโดยสั่งการให้แก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ผ่านการบูรณาการความร่วมมือกับสหกรณ์ออมทรัพย์ ธนาคารของรัฐ หน่วยงานด้านกฎหมาย และองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค โดยแนวทางการช่วยเหลือจะครอบคลุมการปรับโครงสร้างหนี้ การให้ความรู้ด้านการเงิน การปลูกฝังวินัยทางการเงิน และการส่งเสริมการออมอย่างต่อเนื่อง #ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับติดตามผลอย่างใกล้ชิดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างความมั่นคงในชีวิตของกำลังพล
ในด้านความมั่นคง ได้เน้นย้ำให้กองบัญชาการกองทัพไทยและเหล่าทัพดำรงความต่อเนื่องในการเฝ้าระวังและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำ โดยบูรณาการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการลักลอบขนยาเสพติด อาวุธสงคราม การหลบหนีเข้าเมือง การค้ามนุษย์ และการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะการมีจุดยืนที่ชัดเจนว่า หากพบเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดดังกล่าว จะดำเนินการลงโทษทั้งทางวินัยและทางอาญาโดยไม่มีข้อยกเว้น
นอกจากนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่สภาผู้แทนราษฎรกำหนดให้มีการพิจารณาวาระ 1 ระหว่างวันที่ 28-30 พฤษภาคม 2568 จึงสั่งให้หน่วยต่างๆ จัดเตรียมข้อมูลชี้แจงรายละเอียดงบประมาณของกระทรวงกลาโหมให้ครบถ้วน ถูกต้อง พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมของงาน/โครงการให้สามารถผูกพันงบประมาณได้ทันทีเมื่อพระราชบัญญัติมีผลใช้บังคับในมิติการพัฒนาอย่างยั่งยืน และได้ผลักดันนโยบายให้หน่วยต่างๆ ประสานความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนเพื่อดำเนินโครงการพลังงานทดแทนในพื้นที่หน่วยทหาร เช่น ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา โซลาร์ฟาร์ม การใช้พลังงานลม หรือพลังงานชีวมวล โดยต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า ประโยชน์ในการใช้งาน และความยั่งยืนระยะยาว เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและสนับสนุนแนวทางพัฒนาพลังงานสะอาดของประเทศ
แนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทย ขอให้ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหม พิจารณานำแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ นำเสนอไปดำเนินการต่อ ซึ่งผมขอกำหนดเป็นนโยบายของกระทรวงกลาโหม ให้ทุกหน่วยใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ เพื่อเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ที่มีการดำเนินการโดยภาคส่วนสำคัญ 3 ส่วน ได้แก่ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศภาคเอกชน ได้มีความเข้มแข็ง อันจะส่งผลให้อุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทย เกิดการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
รมว.กห.ได้เน้นย้ำให้หน่วยต่างๆ เสริมสร้างการประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมอย่างต่อเนื่อง โดยใช้สื่อที่ทันสมัย กระชับ เข้าใจง่าย และตรงประเด็นผ่านสื่อหลักและสื่อออนไลน์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสะท้อนบทบาทของกองทัพในการสนับสนุนการพัฒนาประเทศและเสริมสร้างความมั่นคงในทุกมิติ
ส่วนเรื่องสุดท้าย รอง นรม./รมว.กห. กล่าวว่าให้กระทรวงกลาโหมทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายในเดือนมิถุนายน เพื่อเป็นการต่อยอดด้านการศึกษาและเพิ่มโอกาสในการเพิ่มพูนความรู้ให้กำลังพลในหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะทหารกองประจำการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดบันทึกความร่วมมือ