วันที่ 28 พ.ค. นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศาสตราจารย์เชี่ยวชาญทางอายุรกรรมและสมอง ประธานศูนย์ความเป็นเลิศการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข ที่ปรึกษา วิทยาลัยการแพทย์ แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก Thiravat Hemachudha ระบุว่า...
โควิดปัจจุบัน พค 2568
สิ่งที่ต้องคำนึงคือ
1- โควิดปัจจุบันเป็นโอไมครอน ซึ่งส่วนของโปรตีนไม่ร้ายแรงเท่าสายพันธุ์ก่อนโดยเฉพาะสิ่งที่เราทราบว่า ไวรัสมีอิทธิพลเหนียวนำโปรตีนอมิลอยด์ซึ่งทำอันตรายหลอดเลือดและสมอง และมีส่วนที่เอื้ออำนวยให้เกิดการอักเสบและเกิดเลือดหนืดตัน (thrombo-inflammatory) ในส่วนปลายอะมิโน (N-terminal)
โอไมครอนขณะนี้ไม่มีสิ่งเหล่านี้เท่าตัวก่อนๆ
2- การเกิดระบาดของโควิดถือเป็นเรื่องปกติตามฤดูกาลเหมือนกับไข้หวัดใหญ่ซึ่งมีการปรับตัวเปลี่ยนโฉมเพื่อให้เข้ามนุษย์ได้ใหม่ เพื่อให้ไวรัสสามารถอยู่รอดได้
3- สิ่งที่มนุษย์มีขณะนี้ มีทั้งส่วนดีและเลว
3.1 ส่วนดีก็คือได้รับการติดเชื้อธรรมชาติซึ่งจะมีภูมิคุ้มกันทั้งสองระบบคือระบบความจำซึ่งถูกปลุกมาได้ทันที (memory) และครอบคลุมสายพันธุ์ได้กว้างขวางกว่าวัคซีน และอีกส่วนที่เป็นปราการด่านหน้า (innate) สามารถต่อสู้เชื้อโรคหลากหลายได้ทันทีในเวลาเป็นชั่วโมง ซึ่งรวมทั้งโควิดด้วย
3.2 ส่วนเลวคือมีการสะสมพิษจากโควิดสายพันธุ์ที่ไม่ใช่โอไมครอนจากการติดหลายครั้ง และ/หรือ จากการฉีดวัคซีนโดยเฉพาะที่เป็น modified mRNA ตั้งแต่สามเข็มขึ้นไป
ผลเหล่านี้จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันปราการด่านหน้า อ่อนแอ และวัคซีนที่ฉีดแม้ว่าจะเป็นวัคซีนใหม่ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับสายพันธุ์ที่ระบาดผลที่ได้รับกลับไปจำสายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่น และมีภูมิเฉพาะน้ำเหลืองที่อยู่ได้สั้นมากและอาจจับได้ไม่ดีต่อไวรัสที่รุกล้ำเข้ามา
4- การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข้าไปอีก อาจไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นและกลับทำให้มีการสะสมโปรตีนพิษมากขึ้นโดยที่ต้องไม่ลืมว่าวัคซีน mRNA ถูกปรับแต่ง (modified) ให้ทนต่อการสลายและสามารถอยู่ในเซลล์ทุกอวัยวะของร่างกายและสั่งให้ผลิตโปรตีนเหมือนกับเป็น”โรงงานโปรตีน”ได้เป็นปี และเป็นที่พิสูจน์แล้วว่าโปรตีนที่ถูกสั่งให้ผลิตนั้นอาจมีการอ่านรหัสเคลื่อนกลับได้โปรตีนชนิดอื่นออกมาและก่อให้เกิดภูมิคุ้มกัน ต่อต้านตนเอง โดยมีผลต่อระบบอวัยวะหลายส่วน
5- วัคซีนไม่ใช่คำตอบในปัจจุบันสำหรับโควิด ทั้งเนื่องจากประสิทธิภาพและผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นโดยสามารถดูเหมือนเป็นคนปกติได้เป็นปีจนกว่าจะแสดงอาการออก
ที่รุนแรงคือการที่มีหัวใจอักเสบโดยไม่รู้ตัว (silent inflammation) และทำให้เกิดแผลเป็นเล็กๆ (microscarring) เหนี่ยวนำทำให้หัวใจเต้นผิดปกติจนถึงหยุดเต้นตายกระทันหัน
6-ถ้าติดโควิดในปัจจุบัน สามารถใช้ฟ้าทะลายโจรขนาดตามที่กำหนดในแต่ละยี่ห้อ เริ่มกินแต่วันแรกที่ไม่สบาย กินจนครบห้าวัน ทั้งนี้ไม่ต้องรอให้ขึ้นสองขีดก่อน เพราะสายเกินไป โดยที่การรักษาด้วยยานั้นต้องเริ่มทันทีตั้งแต่มีอาการ
ฟ้าทะลายโจรไม่ได้กินทุกวัน กินเพื่อรักษา และไม่ได้เกิดตับอักเสบถ้ากินอย่างถูกต้องในระยะเวลาขนาด และระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น ไม่เกิน 5 วัน
ข้อดีของฟ้าทะลายโจรก็คือมีฤทธิ์ต่อไวรัสได้หลายกลุ่มหลายตระกูล รวมไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอและบี และไวรัสอื่นที่เกิดโรคทางระบบทางเดินหายใจ รวมทั้งไข้หวัดที่จะเรียกว่าเป็นไข้หวัดเล็กไข้หวัดกลางก็คงได้
7- ยาพ่นลำคอ จมูกปาก ที่ออกฤทธิ์ทำให้ชุ่มชื้นที่มีจำหน่ายทั่วไปหลายยี่ห้อไม่แพงมีสรรพคุณป้องกันไม่ให้ไวรัสเกาะติดรวมทั้งเมื่อติดแล้วก็ไม่ปล่อยไวรัสออกไป
ยาพ่นจมูกและคอต้องไม่เลือกชนิดที่มีฤทธิ์ต้านโควิดเฉพาะสายพันธ์ย่อยหรือที่มีแอนติบอดีอยู่ เพราะจะสามารถออกฤทธิ์ได้เฉพาะสายพันธุ์ย่อยเดี่ยวเท่านั้น และถือว่าผลิตภัณฑ์นั้นหมดสภาพไป
แม้กระทั่งการกลั้วปากคอล้างจมูกด้วยน้ำเกลือวันละหลายครั้ง หรือที่มีส่วนประกอบโพวิดีนที่ใช้ได้วันละสองถึงสามครั้ง พิสูจน์แล้วเช่นกันว่าสามารถป้องกันหรือลดบรรเทาอาการได้มาก
สมุนไพรไทยที่กลายเป็นยา และใช้กินเป็นอาหารโดยไม่รู้ตัว ขิง ข่า ตะไคร้ โหระพา กระเพรา หอมแดง พริก พริกไทยดำ กระชาย พลูคาว ขมิ้น มีการใช้มาเนิ่นนานและมีข้อมูลในหลอดทดลองมาตลอด ใช้ประกอบด้วยไม่เสียหาย เป็นอาหารอยู่แล้ว ไม่สิ้นเปลืองและปลอดภัย
8- NB.1.8.1 เป็นสายพันธุ์ที่มีข่าวทำให้ตระหนกและที่มีการระบาดในจีน ซึ่งในวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ทาง CDC สหรัฐก็ประกาศว่าได้เริ่มพบเช่นกัน และไม่ได้มีความรุนแรงเป็นพิเศษซึ่งองค์การอนามัยโลกก็ยืนยันเช่นกัน และประเทศจีนเนื่องจากประชากร 1,400,000,000 คนดังนั้นถ้ามีการติดเป็นจำนวนมหาศาล สัดส่วนของผู้ที่มีอาการแม้จะน้อยแต่สามารถพบได้กลายเป็นจำนวนมากขึ้นแต่ความรุนแรงจนต้องเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิตน้อยกว่าอดีตที่ผ่านมามากและเทียบเท่ากับเป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดหนึ่งตามฤดูกาล
ดังนั้น ช่วงเวลานี้ สิ่งที่เราทุกคนต้องรับทราบคือ การเกิดโรคที่มีอาการหนักนั้น ประกอบด้วยปัจจัยต่อไปนี้
1. ตัวไวรัส ซึ่งไม่หนักหนาเท่าไหร่
2. ตัวมนุษย์เราเอง ว่ามีโรคประจำตัวที่ไม่ได้ควบคุมแค่ไหน และมีพิษสะสมอยู่ในตัวจากโควิดเองและจากวัคซีนโควิดมากน้อยเพียงใด
3. การรักษาตนทันทีที่เริ่มมีอาการ
ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
นพ ดร ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ
ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข
มหาวิทยาลัยรังสิต