‘ณฐพร-กุสุมาลวตี’โดนแล้ว! ‘ภท.’ ฟ้อง 2 ข้อหาหนัก ‘หมิ่นประมาท-แจ้งความเท็จ’ ซัดมือไม่สะอาด ยอมตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง "อนุทิน" ไม่สน "กุสุมาลวตี" ยื่นฟันจริยธรรม หวังดับซ่า ขอปล่อยตามกระบวนการ เมิน "ทฤษฎี" ผ่า "พรรคภท." โวมีแต่โตขึ้น "นภินทร"เตรียมหอบหลักฐาน แจง"กกต."ปม"ฮั้วเลือก สว."พรุ่งนี้ ลั่น!มั่นใจในความบริสุทธิ์ มีพยานเอกชน-หลักฐานวิทยาศาสตร์ 

เมื่อวันที่ 27 พ.ค.68 นายศุภชัย ใจสมุทร ทีมกฎหมายพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา ฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทยได้ยื่นฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และนางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท  อดีตผู้สมัครสว. และอดีตสส.พรรคเพื่อไทย ต่อศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองแล้ว 

นายศุภชัย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้กระทำผิดตามที่จำเลยทั้งสองได้ร้องเรียน ทั้งคู่ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต มือไม่สะอาด มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายพรรคภูมิใจไทย อันเป็นสถาบันทางการเมืองเพื่อประโยชน์ทางการเมืองให้กับพรรคการเมืองอื่น บุคคลใด องค์กรใด โดยมีกลุ่มใดได้ประโยชน์จากการทำลายล้างพรรคภูมิใจไทย จึงจำต้องฟ้องคดีทั้งสองคดี ส่วนสมาชิกพรรคที่ได้รับความเสียหายจากการกล่าวหาระบุในคำร้อง สมาชิกนั้นๆ ก็จะยื่นฟ้องแยกเป็นคดีอื่นต่างหาก

ส่วนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานอำนวยพรผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ผู้สื่อข่าวได้พยายามเข้าไปสอบถามถึงกรณี นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว.ยื่นสอบจริยธรรมนายอนุทิน โดยทันทีที่นายอนุทิน ได้ฟังคำถาม ได้เดินฝ่าออกจากวงสัมภาษณ์ทันที พร้อมระบุว่า ที่นี่สุวรรณภูมิ มางานบุญ ไม่คุยเรื่องงานบาป

ผู้สื่อข่าวจึงพยายามมาดักสัมภาษณ์นายอนุทิน บริเวณหน้าประตูทางออกสนามบิน โดยถามว่า ทางฝ่ายของนางกุสุมาลวตี มีท่าทีแข็งกร้าว โดยระบุว่าจะทำให้นายอนุทินหายซ่าให้ได้ นายอนุทิน จึงกล่าวว่า ทุกอย่างพอมันเข้ากระบวนการ เราก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ มีขั้นตอนของมันอยู่ เราไม่ควรไปชี้นำอะไร

เมื่อถามถึงกรณีที่มีสำนักข่าวหนึ่งออกมาวิเคราะห์การเมือง ภายหลังการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หากผลักพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล จะมีทฤษฎีอกแตก สส.ส่วนหนึ่งของพรรคภูมิใจไทย ไปสังกัดพรรคใหม่ และร่วมรัฐบาลทันที นายอนุทิน กล่าวว่า คนที่ทำข่าวก็มีหน้าที่วิเคราะห์ไปเรื่อย การวิเคราะห์ก็มีฉากทัศน์ที่ดีที่สุด กับที่แย่ที่สุด เป็นเรื่องปกติ เราไปห้ามเขาไม่ได้ แต่คนที่รู้เรื่องที่สุดคือคนที่ทำงานอยู่ ที่เป็น ครม.และ ครม.ก็มีความสมัครสมานสามัคคีกันดี เมื่อคืนยังได้มีการรายงานเรื่องเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติจากฝนและน้ำท่วม

เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ทฤษฎีอกแตก ผ่าพรรคภูมิใจไทยเป็นสองฝั่ง เป็นไปได้หรือไม่ นายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวย้อนว่า "เคยไหมล่ะ ผ่าแล้วมีแต่ใหญ่ขึ้น ไม่ได้กังวลอะไร ภูมิใจไทยไม่เคยเล็กลง มีแต่ใหญ่ขึ้น"

เมื่อถามถึงงบประมาณปี 2569 ที่ 4 กระทรวงที่มีรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยดูแลอยู่ ได้งบฯ มากที่สุด นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นกระทรวงศึกษาธิการ รองลงมาคือ กระทรวงมหาดไทย , กระทรวงอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม และกระทรวงแรงงาน ประมาณ 800,000 ล้านบาท ปีนี้ลดลงมาหน่อย ไม่เป็นไร เพราะมีบางหน่วยงานที่แยกออกไป งบไม่มาผ่านทางกระทรวง แต่ก็ถือว่าเยอะแล้ว บริหารจัดการได้ เพราะเราทำมากับมือทุกกระทรวง วางแผนและเตรียมการการใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถ้าขาดเหลืออะไรก็ไปขอนายกรัฐมนตรี หากมีความจำเป็นอะไรเร่งด่วน นายกฯ ถืองบกลางอยู่ หากมีความฉุกเฉิน นายกฯ ก็ให้ความสนับสนุนมาโดยตลอด

ส่วน นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ไปชี้แจงคดีฮั้วเลือก สว.ว่า ในวันที่ 28 พ.ค.ตนจะเดินทางไปด้วยตัวเอง และพร้อมให้การอำนวยความสะดวกในกระบวนการยุติธรรม โดยตนมีพยานบุคคล ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ในภาคเอกชนจำนวนมาก ซึ่งพร้อมให้การยืนยันว่าข้อความที่ใส่ร้ายตนนั้นไม่เป็นความจริง รวมถึงจะมีพยานและหลักฐานในทางวิทยาศาสตร์ด้วย ฉะนั้น ตนจึงมั่นใจในข้อมูลและพยานหลักฐานของตน ส่วนข้อกล่าวหาที่กกต.แจ้งนั้น เป็นข้อกล่าวหาในมาตรา 77(1) ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.ย้ำว่าตนมีพยานหลักฐานพร้อม แต่จะไปขอทราบข้อเท็จจริงบางอย่าง และพร้อมที่จะให้การเป็นหนังสืออย่างละเอียดภายใน 4 - 5 วัน

นายนภินทร กล่าวว่า เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการทำงาน เพราะตนพยายามทำงานในฐานะ รมช.พาณิชย์ และไม่กังวลอะไร ฉะนั้น อย่าคิดอะไรมาก ทุกอย่างจะเป็นไปตามพยานหลักฐาน และมั่นใจว่าหลักฐานที่มีอยู่จะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้

เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าไม่ได้อยู่ในกระบวนการฮั้ว สว. นายนภินทร กล่าวว่า ยืนยันไม่ได้เกี่ยวข้องในการฮั้วเลือก สว.ใดๆ ทั้งสิ้น

เมื่อถามถึงกรณีที่โดนเรียกไปชี้แจงในครั้งนี้ มองว่าเป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายนภินทร กล่าวว่า เรื่องที่นี้ควรให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์และวิเคราะห์ เพราะสิ่งเหล่านี้มีโทษการตัดสินทางการเมือง และคดีอาญา ซึ่งขอให้ดูเรื่องของพยานหลักฐานเป็นหลัก อย่าวินิจฉัยด้วยกระแสหรือความรู้สึก